Panasonic ธุรกิจระบบปรับอากาศ HVAC - เพิ่มบุคคลากรด้าน AI และคลาวด์เป็นสองเท่า

Panasonic เสริมแกร่งธุรกิจระบบปรับอากาศ เพิ่มบุคลากรด้าน AI และคลาวด์เป็นสองเท่า

อัปเดตล่าสุด 11 ก.ค. 2566

Panasonic ประเทศญี่ปุ่น เสริมแกร่งการบริการลูกค้าในธุรกิจระบบปรับอากาศ (HVAC) เพิ่มบุคลากรด้าน AI และคลาวด์เป็นสองเท่า โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพของ IoT, เทคโนโลยีคลาวด์ และปัญญาประดิษฐ์

ด้วยพนักงาน AI และคลาวด์ 89 คน ณ สิ้นเดือนเมษายน 2023 ธุรกิจระบบปรับอากาศ (Heating & Ventilation, Air Conditioning) ของพานาโซนิควางแผนที่จะเพิ่มจำนวนพนักงานกลุ่มนี้เป็นมากกว่า 100 คนทั่วประเทศภายในปี 2025 ซึ่งจะมีประสิทธิภาพมากกว่าปัจจุบันเป็นสองเท่า การจ้างงานใหม่เหล่านี้จะประกอบด้วยวิศวกรเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งคิดเป็น 60-70% ของพนักงาน ในขณะที่อีก 30-40% ที่เหลือจะมุ่งเน้นไปที่การวางแผนธุรกิจ การประกันคุณภาพ และความสำเร็จของลูกค้า

AI จะเข้ามาทดแทนอาชีพเหล่านี้ได้จริงหรือ?

Advertisement

พานาโซนิคเปลี่ยนจากวิธีการที่เน้นผลิตภัณฑ์เป็นศูนย์กลาง โดยตั้งเป้าที่จะ "เพิ่มความพึงพอใจมากกว่าขจัดผลเสีย" ด้วยการจัดลำดับความสำคัญของความพึงพอใจจากลูกค้าและการส่งมอบบริการ แทนที่จะแก้ปัญหาเชิงโต้ตอบ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ทำให้ความสำคัญของการเข้าใจเงื่อนไขการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การผสานรวมของ AI เทคโนโลยีคลาวด์ และบุคลากรที่ทุ่มเท จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรวบรวมข้อมูลอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพและการตอบสนองที่ปรับแต่งให้เหมาะสม

พานาโซนิคได้ลงทุนเชิงกลยุทธ์ในย่านอุเมดะของโอซาก้าซึ่งมีการเดินทางที่สะดวกเพื่อดึงดูดผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะ พร้อมกับส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานทางไกลเพื่อเร่งความพยายามในการสรรหาบุคลากรทั่วประเทศ โดยคาดหวังว่าความยืดหยุ่นและบรรยากาศในการทำงานจะดึงดูดผู้มีความสามารถระดับสูง

นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการพัฒนาพนักงานผ่านโครงการฝึกอบรมทั้งภายในและภายนอก รวมถึงการได้คุณวุฒิของพนักงาน ยกตัวอย่างเช่นใบรับรอง ITIL ที่ประสบความสำเร็จในบริการด้านไอที พานาโซนิคตั้งเป้าหมายที่จะหลีกเลี่ยงวัฒนธรรมองค์กรขนาดใหญ่ และใช้ประโยชน์จากมุมมองอันมีค่าที่นำเสนอโดยบุคคลที่เปลี่ยนผ่านในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

โดยการสร้างความเข้มแข็งของแผนกทรัพยากรบุคคลนี้มีขึ้นเพื่อเสริมการให้บริการติดตามและควบคุมสำหรับ B2B นอกจากนี้ พานาโซนิคตั้งใจที่จะใช้ประโยชน์จากข้อมูล B2C เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและประสิทธิภาพ รวมถึงปรับปรุงอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับโซลูชันการจัดการขั้นสูง ช่วยจัดการความท้าทายต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงวิกฤตค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นด้วย