Ultra-Fine Surface Finish ที่ JINGDIAO CNC ทำได้ รองรับเทคโนโลยียุค 5G รู้จักหรือยัง
ในแวดวงอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วน คงจะพอได้ยินคำว่า Mirror Surface Finishing หรือ ผิวกระจก ซึ่งหมายถึงกระบวนการผลิตชิ้นงานให้มีผิวเรียบ ขึ้นเงา เหมือนเช่นกระจกเงาที่สามารถส่องเห็นใบหน้าได้ อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงนั้น ไม่ใช่วัสดุทุกชนิดจะสามารถผลิตออกมาให้ได้ผิวงานในคุณภาพระดับนี้ ยกตัวอย่างเช่นเหล็กกล้าคาร์บอนปานกลาง (S45C, S50C) หรือวัสดุที่มีส่วนผสมของโครเมียมในปริมาณน้อย ด้วยคุณสมบัติของตัววัสดุ ทำให้ไม่สามารถนำมาขัดขึ้นเงากระจกได้ ต่างจากเหล็กกล้า, เหล็กแม่พิมพ์ P20 เช่น STAVAX, หรือวัสดุที่มีโครเมียมเป็นส่วนผสมในปริมาณมาก จะสามารถขัดขึ้นเงาได้ดีกว่า
อย่างไรก็ตาม ในรายละเอียดและวิธีการนั้น ยังเป็นองค์ความรู้ที่จำกัดอยู่ในวงไม่กว้างขวางนัก “Mirror Surface Finishing” นับว่าเป็นคุณลักษณะพื้นผิวระดับ “Ultra-Fine Surface Finish” ซึ่งสำนักข่าวออนไลน์ เอ็ม รีพอร์ต (M Report) จะมาเจาะลึกเรื่องนี้กับ คุณบุญสม กอประเสริฐถาวร JINGDIAO Leader บริษัท แมชชีนเทค จำกัด (Machine Tech Co., Ltd.) ผู้คร่ำหวอดในวงการเครื่องจักรเพื่อการผลิตงานแม่พิมพ์ไทยมานานกว่า 30 ปี
Ultra-Fine Surface Finish คืออะไร?
Nano Surface Finish Machining
Machine : JDGR200_A10SH
Material : STAVAX (HRc 50)
Dimension : 75 x 30 x 40 mm.
Finishing Cutter : D2 R1 (PCD Cutter)
Finishing Time : 12 hour 45 minute
0.1 μm Feeding, 1.0 μm Grooving
“Ultra-Fine Surface Finishing คือ คุณภาพผิวงานระดับความละเอียดสูง โดยมีค่าความละเอียดของผิวงานที่ 0.025 Ra µm หรือเรียกว่าเป็น Super Finishing คำที่คุ้นหูกันมากกว่า คือ Mirror Surface Finishing ในภาษาไทยเรียก ผิวกระจก”
ชิ้นงานสำเร็จที่ต้องอาศัยแม่พิมพ์ระดับ Ultra-Fine Surface Finish ทำให้ได้คุณภาพผิวของชิ้นงานดีเยี่ยมนั้น มีอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม ยกตัวอย่างในอุตสาหกรรมยานยนต์ โคมไฟหน้ารถยนต์ จำเป็นต้องมีความแม่นยำสูง โดยเฉพาะ “โคมสะท้อนแสง” เพื่อให้ทิศทางของลำแสงมีความแม่นยำ โคมไฟสามารถสะท้อนลำแสงที่พอดี ไม่แยงสายตาผู้ขับขี่ หรือคนเดินถนน
LED Reflector Mold
Machine : JDGR200-A10H
Material : S136 (HRc 52)
Dimension : 30 x 30 mm.
Finishing Cutter : PCD D2 R1
Finishing Time : 2 hour 23 minute
Typical Point : No polishing or Lapping allow
ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งสมาร์ทโฟน, กล้องถ่ายภาพ, จอ LED, และอื่น ๆ ซึ่งมีชิ้นส่วนที่ต้องการผิวงานดีเยี่ยมความละเอียดสูง เช่น ชิ้นส่วนของเลนส์กล้อง ตัวบอดี้สมาร์ทโฟนที่ออกแบบกระจกให้โค้งมน นอกจากนี้ ยังมีความต้องการใช้ในการผลิตชิ้นส่วนสำหรับกระดูกและข้อเทียมในอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ใช้ในการผลิตส่วนประกอบของเครื่องประดับในอุตสาหกรรมจิวเวลรี่ และยังใช้ในอุตสาหกรรมของเล่น เช่น ตัวต่อกันดั้ม เป็นต้น
จึงอาจกล่าวได้ว่า ในยุค 5G โลกแห่งเทคโนโลยีไร้สายนั้น จะทำให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนมีความต้องการใช้เทคโนโลยีการผลิตชิ้นงานระดับ Ultra-Fine Surface Finish เพิ่มขึ้นอย่างมาก
จะผลิตชิ้นงานระดับ Ultra-Fine Surface Finish มีทางเลือกอะไรบ้าง
วิธีที่ 1 การผลิตชิ้นงานระดับ Ultra-Fine Surface Finish นั้น มักดำเนินการหลังจากการผลิตชิ้นงานแล้วเสร็จ ซึ่งโดยทั่วไป มักเป็นงาน Handwork ที่มนุษย์เป็นผู้ขัดเงา และจำเป็นต้องเป็นผู้ที่มีทักษะฝีมือ อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติแล้ว การขัดแต่งชิ้นงานด้วยมือมีข้อจำกัดในหลายด้าน เช่น ชิ้นงานที่มีขนาดเล็ก รูปทรงซับซ้อน มีร่องลึกจำนวนมาก มีรูขนาดเล็ก ล้วนแต่ทำให้ยากในการขัดแต่ง รวมไปจนถึงชิ้นงานที่มีรูปทรงอันไม่อาจขัดแต่งด้วยมือ หรือวิธีอื่น ๆ ได้ และในหลายกรณี ผู้ผลิตแม่พิมพ์ต้องการให้ชิ้นงานออกมามีรูปทรงเทียบเท่าโมเดล CAD โดยสมบูรณ์ เพื่อไม่ให้แม่พิมพ์เกิดความผิดเพี้ยน นำมาซึ่งชิ้นงานที่คลาดเคลื่อนได้
วิธีที่ 2 อีกวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย คือการทำ EDM (Electrical Discharge Machining) ซึ่งมีจุดเด่นที่สามารถขัดเงาในจุดที่มือ หรือเครื่องกลึงไม่อาจเข้าถึงได้ อย่างไรก็ตาม การทำให้ชิ้นงานขึ้นเงาด้วยใช้วิธีนี้ จำเป็นต้องใช้อิเล็กโทรดจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนสูง อีกทั้งยังใช้เวลามาก อย่างไรก็ตาม การขึ้นเงาด้วย EDM นี้ ไม่สามารถทำให้ชิ้นงานขึ้นเงาได้ดีเท่าการกัดงานบนเครื่องกัดได้
วิธีที่ 3 การขึ้นเงาด้วยการกัดงานบนเครื่องมิลลิ่ง หรือเครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ หรือเรียกวิธีนี้ว่า “Nano Surface Machining” ซึ่งอาศัยศักยภาพของเครื่องจักรคุณภาพสูง เพื่อสามารถตอบสนองต่อการสั่งงานด้วยโปรแกรมที่มีความละเอียดระดับนาโนเมตร ในขณะที่กลไกควบคุมการเคลื่อนที่เชิงกลนั้นสามารถตอบสนองต่อคำสั่งที่ละเอียดมาก ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งมีชุดสปินเดิลที่มีความสมดุลและเสถียรสูงมาก
ทำไมต้องเลือก “Jingdiao Premium Class Machining Center”?
ประกายแห่งโอกาสได้เจิดจรัสขึ้นมาทันที เมื่อคุณบุญสมได้แนะนำให้รู้จักกับ เทคโนโลยี “0.1μ feed, 1μ cutting” จาก “JINGDIAO (จิงเตียว)” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำในการกัดความเร็วสูงจากเครื่องมือตัดขนาดเล็ก ผลลัพธ์จากการออกแบบเครื่องให้ “สามารถควบคุมการป้อน 0.1 ไมครอน เพื่อกัดงาน 1 ไมครอน” เรียกว่า เป็นการกัดชิ้นงานแบบละเอียดมากในระดับไมครอน (Sub-micron level machining ability) นำสู่ความแม่นยำและความเที่ยงตรงสูง จึงเป็นเครื่องจักรที่สร้างมาเพื่อผลิตชิ้นงานที่ต้องการผิวงานดีเยี่ยมความละเอียดสูง Ultra-Fine Surface Finish หรือ Super Finishing โดยเฉพาะ
“JINGDIAO (จิงเตียว)” แบรนด์ชั้นนำที่ต่อยอดและสร้างชื่อจากเทคโนโลยีแกะสลักความละเอียดสูง ชนิดที่สามารถแกะสลักชิ้นงาน “มด” ด้วยขนาดและรายละเอียดเช่นเดียวกับมดตัวจริงได้ โดย JINGDIAO เป็นแบรนด์ภายใต้ Beijing Jingdiao Group องค์กรเทคโนโลยีชั้นสูงที่มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการผลิตเครื่องมือเครื่องจักร CNC ก่อตั้งขึ้นในปี 1994 และในปี 2017 ได้รับรางวัล "Top 100 Enterprises ในอุตสาหกรรมเครื่องจักรของประเทศจีน" ปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่ ศูนย์วิจัยและพัฒนา รวมถึงสาขาทั่วโลกกว่า 40 แห่ง สำหรับประเทศไทยนั้น ได้แต่งตั้งให้ บริษัท แมชชีนเทค จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่าย ถ่ายทอดเทคโนโลยี และให้บริการหลังการขาย
JINGDIAO Showroom & Technical Center
@Machine Tech Co., Ltd. Suvarnabhumi Factory
Tel. +662 726 7191-5