
Nissan วางแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ หั่นต้นทุน พร้อมลุยสร้างการเติบโตใหม่
Nissan Motor กำลังปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ครั้งใหญ่ในแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจที่มีชื่อว่า “Re-Nissan” โดยจะปิดโรงงานจำนวน 7 แห่งทั่วโลกและลดจำนวนพนักงานลง 20,000 คน พร้อมกับสร้างความสัมพันธ์ใหม่กับซัพพลายเออร์ เพื่อพลิกฟื้นธุรกิจที่ประสบปัญหาซ้ำซากในอดีต แม้ว่าจะมีประวัติการปรับโครงสร้างหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ Nissan ตั้งเป้าหมายที่จะกลับมาเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ประธานบริษัท Nissan คุณ Ivan Espinosa กล่าวว่า “หากเราไม่ดำเนินมาตรการในตอนนี้ บริษัทอาจล้มละลายในอีก 2-3 ปีข้างหน้า” โดยเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูองค์กรให้แข็งแกร่งอีกครั้ง
Advertisement | |
สัมภาษณ์พิเศษ: เป้าหมายชัดเจนเพื่อการฟื้นฟู
Q: แผนการปรับโครงสร้างเดินหน้าไปถึงไหนแล้ว?
A: “เป้าหมายของเราชัดเจนมาก เราไม่โทษพนักงาน ชุมชนท้องถิ่น รัฐบาล หรือซัพพลายเออร์ใดๆ แต่โฟกัสที่การแก้ไขปัญหาภายในบริษัทเพื่อให้เรากลับมายืนได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง การดำเนินการนี้เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งและต้องทำอย่างจริงจัง”
Q: สาเหตุที่ทำให้ผลงานบริษัทตกต่ำคืออะไร?
A: “ปัญหานี้ย้อนกลับไปสิบปีที่แล้ว เมื่อการบริหารในช่วงนั้นลงทุนอย่างหนักโดยตั้งสมมติฐานว่าการเติบโตจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เราลงทุนเพิ่มจำนวนซัพพลายเออร์เพื่อให้สามารถขายรถยนต์ทั่วโลกถึง 8 ล้านคันในระยะเวลาอันสั้น แต่ท้ายที่สุดเราก็ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้ ตลาดในปัจจุบันมีการแข่งขันที่รุนแรงกว่าที่เคยเป็นมา เรายังอยู่แค่ ‘ประตู’ ของยอดขาย 8 ล้านคัน แต่ไม่สามารถรักษาระดับนั้นไว้ได้ ทางเลือกเดียวคือการประเมินและทบทวนใหม่ เพื่อรักษาอนาคตของบริษัทให้มั่นคงและยั่งยืน”
Q: กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ในอนาคตเป็นอย่างไร?
A: “เราต้องเปลี่ยนแนวคิดการดำเนินงาน ที่ผ่านมาเราเคยยึดติดกับมาตรฐานภายในของตัวเองมากเกินไป แต่สภาพแวดล้อมตลาดและเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว ทั้งเทคโนโลยี วัสดุ และกระบวนการประกอบรถยนต์ เราจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากซัพพลายเออร์ และเรียนรู้จากพวกเขา เราจะร่วมมือกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันและความคุ้มค่าในการลงทุน พร้อมสร้างความสัมพันธ์แบบ ‘win-win’ ที่ยั่งยืนระหว่างกัน”
Q: แผนระดมทุนโดยเฉพาะการขายทรัพย์สิน เช่น สำนักงานใหญ่?
A:“ขณะนี้เรามีเงินทุนสำรองเพียงพอ สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือการสร้างความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดในระยะยาว เรากำลังมุ่งมั่นปรับปรุงประสิทธิภาพต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้ของบริษัท ในขณะเดียวกันก็พิจารณาใช้งบประมาณอย่างรอบคอบ และแม้จะมีการทบทวนทรัพย์สินของบริษัท ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับการขายทรัพย์สิน”
Q: เป้าหมายหลังการปรับโครงสร้างคืออะไร?
A: “ความฝันและเป้าหมายสูงสุดของผมคือการให้ Nissan กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ ‘อัจฉริยะ’ ชั้นนำของญี่ปุ่น ที่นำเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ระบบขับขี่อัตโนมัติ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายและปลอดภัย เราเชื่อว่ารถยนต์ในอนาคตคือ ‘รถยนต์อัจฉริยะ’ Nissan มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ ระบบช่วยขับขี่ และระบบไฟฟ้า รวมถึงความสามารถในการพัฒนา ผลิต และจำหน่าย ทำให้เรามีอาวุธที่จะแข่งขันและมีโอกาสชนะในตลาดอย่างแข็งแกร่ง”
“อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะไปถึงเป้าหมายนั้น เราต้องมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาปัจจุบันก่อน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 18 เดือนในการฟื้นฟูองค์กร เราจะทบทวนโครงสร้างปัจจุบันก่อน แล้วจึงวางแผนสำหรับอนาคตต่อไป”
เสริมความแข็งแกร่งด้วยซัพพลายเชนและนวัตกรรม
Nissan กำลังลดจำนวนชิ้นส่วนและแพลตฟอร์มรถยนต์ รวมถึงลดซัพพลายเออร์ลงเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ แม้ซัพพลายเออร์บางรายมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากคำสั่งซื้อที่ลดลง แต่ Nissan มุ่งมั่นสร้างความร่วมมือเชิงเทคโนโลยี เพื่อยกระดับคุณภาพและนวัตกรรม
ประธาน Espinosa เน้นย้ำว่า “ความร่วมมือแบบยั่งยืนกับซัพพลายเออร์เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ Nissan แข่งขันได้ในระยะยาว”
ความท้าทายในตลาดจีนและแผนตอบโต้
ตลาดจีนที่เคยเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสำหรับ Nissan กลับชะลอตัวอย่างรุนแรง โดยยอดขายปี 2024 ลดลง 12.2% และคาดว่าจะลดลงอีก 18.2% ในปี 2025 ซึ่งเป็นผลมาจากการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ผลิตจีนและนโยบายสนับสนุนยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ของรัฐบาลจีน
เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ Nissan ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ “N7” ที่ใช้สถาปัตยกรรมแบบโมดูลาร์จากความร่วมมือในจีน โดยมีระยะวิ่งสูงสุด 635 กม. และเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะ “Navigate on Autopilot” ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเยาวชนและครอบครัว พร้อมราคาที่เข้าถึงได้
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันราคายังคงรุนแรงโดยเฉพาะจากแบรนด์จีนอย่าง BYD และ Geely ทำให้ Nissan จำเป็นต้องเร่งปรับกลยุทธ์ทั้งในตลาดจีนและการส่งออกเพื่อความอยู่รอด
ที่มา: Nikkan Kogyo Shimbun