Mercedes-Benz และ CATL ร่วมพัฒนาแบตเตอรี่ รองรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่
Mercedes-Benz จับมือ Contemporary Amperex Technology Co., Limited (CATL) ประกาศยกระดับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ และเตรียมสร้างสรรค์เทคโนโลยีแบตเตอรี่สุดล้ำเพื่อรองรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ของ Mercedes-Benz ที่จะผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก
ผู้ผลิตรถหรูจากเมืองสตุ๊ตการ์ท ประเทศเยอรมนี Mercedes-Benz กำลังเร่งดำเนินกลยุทธ์ “Electric First” ด้วยการใช้ระบบโมดูล และเซลล์แบตเตอรี่ที่ทันสมัยและเป็นกลางทางคาร์บอนของ CATL ผู้นำด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน โดยข้อตกลงระหว่างสองบริษัทครอบคลุมเทคโนโลยีแบตเตอรี่เต็มรูปแบบ ตั้งแต่เซลล์และโมดูลสำหรับ Mercedes-Benz Cars ไปจนถึงระบบแบตเตอรี่สำหรับ Mercedes-Benz Vans รวมถึงแบตเตอรี่ CATL cell-to-pack (CTP) ที่ไม่ใช้โมดูลแบบเดิม แต่ติดตั้งเซลล์ในแบตเตอรี่โดยตรง
“เรามุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ เราจึงผสานความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาของเราเข้ากับของพาร์ทเนอร์ เราจะใช้ระบบแบตเตอรี่สุดล้ำเพื่อสร้างสรรค์รถหรูที่วิ่งได้ไกล ชาร์จแบตได้เร็ว ปลอดภัย และยั่งยืน การร่วมงานกับ CATL จะช่วยให้เราเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนได้อย่างรวดเร็ว” มาร์คัส เชฟเฟอร์ สมาชิกคณะกรรมการบริหารบริษัท Daimler AG และ Mercedes-Benz AG ผู้นำของ Daimler Group Research และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mercedes-Benz Cars กล่าว “CATL จะเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่สำหรับรถยนต์ EQ รุ่นใหม่ที่เราจะเปิดตัวตลอดหลายปีนับจากนี้”
“Mercedes-Benz เป็นพาร์ทเนอร์ที่มีความพิเศษและสำคัญสำหรับ CATL เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้เดินหน้าขยายและยกระดับความร่วมมือเพื่อความก้าวหน้าในอนาคตของทั้งสองบริษัท ทั้งนี้ Mercedes คิดค้นรถยนต์เมื่อกว่า 130 ปีมาแล้ว และพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องด้วยนวัตกรรมมากมายนับไม่ถ้วน เมื่อผสานกับความเชี่ยวชาญด้านแบตเตอรี่ของ CATL จะถือเป็นก้าวสำคัญของทั้งสองฝ่ายภายใต้กลยุทธ์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” ดร.โรบิน เจิง ผู้ก่อตั้ง ประธาน และซีอีโอของ CATL กล่าว “เราร่วมมือกันพัฒนาและส่งมอบโซลูชันที่เชื่อถือได้และมีความสามารถในการแข่งขัน เพื่อส่งเสริมรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วโลก”
พัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่สุดล้ำ
เซลล์แบตเตอรี่คือหัวใจสำคัญของระบบแบตเตอรี่ที่มีความซับซ้อนสูง ปฏิกิริยาเคมีในแบตเตอรี่มีผลอย่างมากต่อประสิทธิภาพ ระยะทางการวิ่ง และอายุการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้า การสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ CATL ช่วยให้ Mercedes-Benz สามารถยกระดับการพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคุณภาพดีที่สุดทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยทั้งสองฝ่ายได้เริ่มพัฒนาแบตเตอรี่รุ่นใหม่สำหรับใช้ในรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหลายรุ่นภายใน 2-3 ปีข้างหน้า โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการลดวงจรการพัฒนาให้สั้นลง เพิ่มระยะทางการวิ่งให้มากขึ้นด้วยการเพิ่มความหนาแน่นของพลังงานในแบตเตอรี่ และลดเวลาในการชาร์จแบตให้น้อยลง ทั้งนี้ เพื่อให้รถยนต์ไฟฟ้าน่าดึงดูดใจมากขึ้นสำหรับลูกค้าในเซกเมนต์รถหรู จึงมีการพัฒนารถซีดานหรู Mercedes-Benz EQS ซึ่งเตรียมเปิดตัวในปีหน้า รถรุ่นนี้วิ่งได้ไกลกว่า 700 กิโลเมตร ชาร์จแบตเร็วกว่ารถรุ่นอื่นในปัจจุบันสองเท่า และใช้เซลล์แบตเตอรี่จาก CATL
“Daimler จะเดินหน้ายกระดับความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลกและเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่ทันสมัยและแข็งแกร่ง เพื่อบรรลุผลสำเร็จภายใต้กลยุทธ์แห่งอนาคตซึ่งรวมถึงการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยในประเทศจีน เราได้สร้างความร่วมมืออันแข็งแกร่งกับผู้เล่นรายใหญ่ในแวดวงเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมสำคัญตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้เราเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต การจัดซื้อ การวิจัยและพัฒนา” ฮูเบอร์ทุส ทรอสกา สมาชิกคณะกรรมการบริหารบริษัท Daimler AG ผู้รับผิดชอบดูแลธุรกิจในจีน ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน (Greater China) กล่าว “เรายินดีที่ได้ยกระดับความร่วมมือกับ CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำระดับโลกจากจีน และจะผนวกความร่วมมือครั้งนี้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ “Electric First” และการพัฒนาที่ยั่งยืนของเรา เราเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้ Daimler สามารถสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าด้วยความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม”
Mercedes-Benz และ CATL มุ่งมั่นพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูง มีคุณภาพสูง และมีความยั่งยืนสูงสุดเท่าที่จะทำได้
ผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่จากกระบวนการผลิตที่เป็นกลางทางคาร์บอน
ภายใต้วิสัยทัศน์ “Ambition 2039” Mercedes-Benz กำลังพยายามบรรลุวิสัยทัศน์ระยะยาวในการพัฒนารถยนต์นั่งส่วนบุคคลรุ่นใหม่ที่เป็นกลางทางคาร์บอน และรุกผลักดันการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน เพื่อลดคาร์บอนจากกระบวนการผลิตรถยนต์ทั้งในปัจจุบันและอนาคตให้เหลือน้อยที่สุด ด้วยเหตุนี้ บรรดาพาร์ทเนอร์จึงตกลงว่าจะผลิตแบตเตอรี่ด้วยกระบวนการที่เป็นกลางทางคาร์บอน โดยในส่วนของ CATL นั้น บริษัทจะใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานน้ำในกระบวนการผลิต เมื่อช่วงต้นปีนี้ Mercedes-Benz และ CATL ได้เปิดตัวโครงการนำร่องที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนสร้างความโปร่งใสด้านการปล่อยก๊าซที่ทำลายสภาพอากาศและสัดส่วนของวัตถุดิบทุติยภูมิในห่วงโซ่อุปทานเซลล์แบตเตอรี่ ขั้นต่อไปคือการลดการพึ่งพาวัตถุดิบใหม่ ด้วยการนำแบตเตอรี่ที่เลิกผลิตมารีไซเคิล
“ภายใต้กรอบความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งใหม่นี้ CATL มุ่งมั่นบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนของ Mercedes-Benz AG หนึ่งในนั้นคือวิสัยทัศน์ “Ambition 2039” ซึ่งประกอบด้วยการผลิตอย่างยั่งยืนโดยใช้พลังงานหมุนเวียน การลดการปล่อยคาร์บอนในการขนส่งทั่วห่วงโซ่อุปทาน และการรับผิดชอบต่อสังคมในทุกแง่มุม CATL จะผลิตแบตเตอรี่ด้วยความเป็นกลางทางคาร์บอน และลดการปล่อยคาร์บอนในห่วงโซ่อุปทานการจัดหาแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ Mercedes-Benz EQ รุ่นใหม่ ประเดิมด้วยรุ่น EQS” โจว เจี๋ย ประธานกรรมการบริษัท CATL กล่าว “ผมมั่นใจว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ทั้งสองบริษัทได้สร้างสรรค์ธุรกิจที่ยั่งยืนและพลิกโฉมอุตสาหกรรมของเราอย่างรวดเร็ว”
การผลิตเทคโนโลยีแบตเตอรี่เชิงอุตสาหกรรมในเยอรมนี
ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง Mercedes-Benz กับ CATL ช่วยให้การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่และการผลิตเชิงอุตสาหกรรมในเยอรมนีเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น โดย CATL กำลังสร้างโรงงานในรัฐทือริงเงินเพื่อพัฒนาระบบการให้บริการในยุโรป เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นให้แก่ Mercedes-Benz ตลอดจนยกระดับอุปทานให้มีความราบรื่น ซึ่งจะช่วยให้ Mercedes-Benz ได้ใช้ส่วนประกอบในประเทศมากขึ้น ด้วยการซื้อแบตเตอรี่จากโรงงานของ CATL ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองแอร์ฟูร์ท