หมดยุคดีเซล Toyota เลิกหนุน Isuzu
Isuzu บรรลุข้อตกลงยุติความร่วมมือกับ Toyota โดย Isuzeu จะรับซื้อหุ้นทั้งหมดคืน ทั้ง 2 ค่ายได้ร่วมมือพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็กนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2006 โดยตลอด 12 ปีที่ผ่านมานั้นกลับไม่มีความคืบหน้าที่เป็นรูปเป็นร่าง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญในการตัดสินใจยุติความร่วมมือนี้ลง นอกจากนี้ แนวทางความร่วมมือในอุตสาหกรรมยานยนต์เพื่อการพาณิชย์นั้นกำลังเดินหน้าในทิศทางที่ความร่วมมือไม่จำเป็นต้องอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน จึงเป็นที่น่าสนใจว่า Isuzu จะมีแนวทางเช่นไรหลังจากที่ไม่ได้รับการสนับสนุนแล้วเช่นนี้
Mr. Koichi Seto ผู้จัดการอาวุโสบริษัท Isuzu กล่าวว่า “เราไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งกับ Toyota และจะรักษาความสัมพันธ์อันดีนี้เอาไว้ต่อไป” พร้อมชี้แจงแนวทางความร่วมมือการพัฒนาในทิศทางอื่น ซึ่งผู้เกี่ยวข้องจากทาง Toyota ได้กล่าวต่อประเด็นเดียวกันนี้ว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องแย่แต่อย่างใด และความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านอื่น เช่น การลดไอเสีย จะยังดำเนินต่อไป”
โดยสิ่งที่ Isuzu ประเมินพลาดไป คือ การเปลี่ยนทิศทางของ Toyota โดยเมื่อปี 2008 นั้น ทั้ง 2 บริษัทได้บรรลุข้อตกลงในการพัฒนารุ่นต้นแบบของเครื่องยนต์ดีเซลเล็ก ขนาด 1.6 ลิตร สำหรับรถยุโรป แต่ในท้ายสุด เครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นนี้กลับไม่ได้ถูกนำไปใช้ในรถ HV แต่อย่างใด อีกทั้งในแผนการขายของ Toyota เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านนี้ ยังระบุว่าจะไม่มีการขายรถดีเซลในยุโรปอีกด้วย อย่างไรก็ตาม Mr. Seto มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้เป็นการบีบให้ยุติความร่วมมือโดยตรง แต่เป็นผลจากปัจจัยภายนอกมากกว่า
ปัจจุบัน มีความคืบหน้าในการรวมกลุ่มผู้พัฒนายานยนต์เพื่อการพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนเมษายน Hino ซึ่งอยู่ในเครือเดียวกันนี้ได้บรรลุข้อตกลงเป็นพันธมิตรกับ Volkswagen ซึ่งแต่ละบริษัทในกลุ่มจะแบ่งหน้าที่ในการพัฒนาเทคโนโลยีคนละส่วนกัน ซึ่ง Mr. Seto กล่าวว่า “ความร่วมมือเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่อาจขาดไปได้ เนื่องจากการจัดสรรงบสำหรับการพัฒนาเพื่อแบ่งเบาภาระของผู้ผลิตเป็นสิ่งจำเป็น” ซึ่ง Mr. Takaki Nakanishi ตัวแทนนักวิเคราะห์จาก Nakanishi Research Institute แสดงความเห็นว่า “นี่เป็นยุคที่ไม่อาจเอาตัวรอดได้โดยไม่ร่วมมือกับใคร” และในปัจจุบัน Isuzu ยังอยู่ระหว่างพิจารณาความร่วมมือกับบริษัทลูกด้านเทคโนโลยีพื้นฐานรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นโดย Toyota อีกด้วย