ฮันนี่เวลล์ ร่วมสัมมนา “เทคโนโลยีแห่งการเชื่อมต่อในโลกคมนาคมยุคดิจิทัล:ยกระดับคมนาคมไทยสู่คมนาคมดิจิทัล”

อัปเดตล่าสุด 19 มิ.ย. 2561
  • Share :

ฮันนี่เวลล์ (NYSE: HON) ประกาศพร้อมหนุนวิสัยทัศน์ด้านการคมนาคมของไทยโดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลขับเคลื่อน โดยเข้าร่วมงานสัมมนาในหัวข้อ “เทคโนโลยีแห่งการเชื่อมต่อในโลกคมนาคมยุคดิจิทัล: ยกระดับคมนาคมไทย...สู่คมนาคมดิจิทัล” จัดโดยกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา
 
รัฐบาลไทยโดยกระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมของประเทศ โดยจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทย ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) เพื่อวางกรอบวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งและจราจรมุ่งสู่การขนส่งที่ยั่งยืน ประกอบด้วย เป้าหมาย ยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ ผลที่ได้รับ และตัวชี้วัด ครอบคลุมประเด็นด้านประสิทธิภาพการคมนาคม การคมนาคมที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ระบบคมนาคมที่คำนึงถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมาเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมาย

 
นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า “กระทรวงคมนาคมมีความมุ่งมั่นพัฒนาระบบการคมนาคมขนส่งที่ยั่งยืน โดยได้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในการวางพื้นฐานไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ ในการพัฒนาระบบคมนาคมดิจิทัลที่เชื่อมต่อกันทั่วไทยอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับการปรับตัวสู่นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่เน้นการขับเคลื่อนไปสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ที่ทันสมัย แผนยุทธศาสตร์ของกระทรวง จะใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นพลังขับเคลื่อน สร้างและปรับโฉมระบบและเครือข่ายการขนส่งเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทย มุ่งสู่ระบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางแห่งการเชื่อมต่อในอนาคต”
 
รัฐบาลไทยกำลังพิจารณารูปแบบใหม่ของความร่วมมือด้านเทคโนโลยี ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงคนกับทรัพยากรที่มีอยู่เข้าด้วยกัน และเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่หรือดิสรัปชันด้านการคมนาคมขนส่ง จะทำให้สามารถรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ เหล่านี้ อันได้แก่:
 
  • การเติบโตของชุมชนเมือง – เมืองอัจฉริยะต้องอาศัยระบบการคมนาคมที่มีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีดิจิทัล รวมทั้งใช้แพลตฟอร์มการจัดการข้อมูลเมือง และระบบการควบคุมและการสั่งการที่ทรงอานุภาพ
  • ความยั่งยืน – สร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการค้าในระดับภูมิภาคและในระดับโลกที่ขยายใหญ่ขึ้น กับความรับผิดชอบในการรักษาสิ่งแวดล้อมสำหรับชนรุ่นต่อไป ด้วยการมีระบบคมนาคมที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
  • ความมั่นคงปลอดภัย – นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สำคัญมาใช้ เพื่อเสริมความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะมีโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมขนส่งที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เป็นธรรม และมั่นคงปลอดภัย
  • ความสามารถในการแข่งขันระดับโลก และการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ – นำเทคโนโลยีด้าน IoT  มาใช้เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยทำให้การสัญจรรวดเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ปีที่แล้วรัฐบาลไทยได้เปิดตัวโครงการลงทุนตามแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อผลักดันให้เกิดการลงทุนในสาธารณูปโภคพื้นฐานต่าง ๆ และตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจไทย โดยแผนปฏิบัติการนี้จะเชื่อมโยงกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 ซึ่งเน้นการเปลี่ยนผ่านไปสู่โหมดการขนส่งแบบใหม่ ระบบที่เชื่อมโยงทั่วถึงกันมากขึ้น และประสิทธิภาพด้านโมบิลิตี้ที่เพิ่มขึ้น กรอบและแผนการดำเนินงานต่าง ๆ แสดงให้เห็นถึงความจริงจังของรัฐบาลและความสำคัญของการร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ผลิตในแวดวงอุตสาหกรรมและผู้ให้บริการเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่จะนำไปสู่การพัฒนาความร่วมมือที่ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้น
 
นอกเหนือจากการปาฐกถาของผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคมและกิจกรรมในช่วงเช้าแล้ว ในงานนี้ ยังมีการจัดเสวนากลุ่มย่อยในภาคบ่าย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับฟังข้อมูลด้านเทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญด้านการคมนาคมขนส่งจากหลายประเทศ และการนำเสนอเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์ชั้นนำและโซลูชั่นส์ที่ทันสมัยจากฮันนี่เวลล์ หัวเว่ย และเคพีเอ็มจี โดยแบ่งออกเป็นสามหัวข้อย่อย ได้แก่ ท่าอากาศ-ยานที่เชื่อมต่อกัน ระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะ และการคมนาคมที่เชื่อมต่อกัน ซึ่งให้ภาพรวมในประเด็นที่เกี่ยวข้อง ผลกระทบ และโซลูชั่นส์เทคโนโลยีดิจิทัล ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของประเทศไทย
 

 

นายไบรอันด์ เกรียร์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ฮันนี่เวลล์ ประจำภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า “ฮันนี่เวลล์รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดงานครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนท่านรัฐมนตรีฯ ในการแสดงวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาคมนาคมของประเทศ ด้วยการผสานกันระหว่างความคาดหวังที่กำลังเปลี่ยนไปต่อการเดินทางและการคมนาคม การเติบโตของชุมชนเมือง และการเฟื่องฟูของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันได้ ผู้คนจึงคาดหวังให้การเดินทางและการคมนาคมของพวกเขาทั้งรวดเร็ว ง่ายดาย และปลอดภัย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้ทำให้เกิดความต้องการผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชั่นส์ที่มีนวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มผลผลิต และความปลอดภัยให้กับทุกคน”
 
“ผมขอชื่นชมรัฐบาลไทยที่ได้พยายามอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมของประเทศ และให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อกันอย่างยิ่งยวด สำหรับฮันนี่เวลล์ เรามีความมุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยีในระยะยาวกับประเทศไทย โดยจัดหาโซลูชั่นส์ต่าง ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของประเทศ รวมถึงอุตสาหกรรม 4.0 ด้วย” นายไบรอันด์ กล่าวเสริม
 
ในฐานะผู้ให้บริการซอฟต์แวร์อุตสาหกรรมชั้นแนวหน้าที่สามารถรองรับความต้องการด้านโซลูชั่นส์ที่เฉพาะเจาะจงของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ฮันนี่เวลล์จึงพร้อมที่จะให้บริการในประเทศไทย ด้วยโซลูชั่นส์เทคโนโลยีก้าวล้ำ เพื่อช่วยสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมและโลจิสติกส์ ที่สามารถรองรับการค้า การบริการ และการลงทุนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รู้จักฮันนี่เวลล์

ฮันนี่เวลล์เป็นบริษัทชั้นนำด้านซอฟต์แวร์อุตสาหกรรม ติดอันดับ 100 บริษัทใหญ่ที่สุดในโลก จัดอันดับโดยนิตยสารฟอร์จูน (Fortune 100) นำเสนอโซลูชั่นส์หลากหลายประเภท ได้แก่ ผลิตภัณฑ์และบริการด้านการบินและอวกาศ รวมถึงยานยนต์ เทคโนโลยีการควบคุมสำหรับอาคาร บ้านเรือน และโรงงานอุตสาหกรรม และวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมให้กับลูกค้าทั่วโลก เทคโนโลยีของฮันนี่เวลล์ช่วยพัฒนาทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็น อากาศยาน รถยนต์ บ้านและอาคาร โรงงานอุตสาหกรรม ซัพพลายเชน และผู้ปฏิบัติงาน ให้เชื่อมต่อกันได้มากขึ้