ชาร์ปถอนตัวจากธุรกิจ LCD เลิกผลิตจอทีวีขนาดใหญ่
Sharp ประกาศลดขนาดธุรกิจ Devices ซึ่งรวมถึงแผงลิควิดคริสตัลและเซมิคอนดักเตอร์ โดยบริษัทจะหยุดการผลิตจอ LCD ขนาดใหญ่ที่โรงงาน Sakai Display Products (SDP) ในเมืองซาไก ประเทศญี่ปุ่น ภายในสิ้นเดือนกันยายน และเตรียมแผนลดกำลังการผลิตจอ LCD ขนาดเล็กและขนาดกลางที่โรงงานสองแห่งในจังหวัดมิเอะ พร้อมปรับลดจำนวนพนักงาน
บริษัทกำลังมองหาผู้ซื้อสำหรับธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ เซนเซอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เพื่อถอนตัวจากตลาดเหล่านั้น
- ก้าวถัดไปของ Sharp ทิ้ง “ราคาถูก” เร่งสร้าง “ภาพลักษณ์ใหม่”
- Sharp มุ่งจอ OLED พร้อมผลิตจำนวนมากในปีนี้
Advertisement | |
ญี่ปุ่น 14 พฤษภาคม 2567 - ชาร์ป (Sharp) ประกาศผลประกอบการทางการเงินสำหรับปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2567 แสดงให้เห็นถึงการขาดทุนสุทธิ 149.9 พันล้านเยน ซึ่งเป็นการขาดทุนต่อเนื่องจากปีที่แล้ว (ขาดทุนสุทธิ 260.8 พันล้านเยนในปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2566) สาเหตุหลักจากการด้อยค่าของธุรกิจ LCD
ชาร์ปคาดการณ์สำหรับปีงบประมาณสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2568 จะกลับมามีกำไรสุทธิ 5 พันล้านเยน
บริษัทมีเป้าหมายที่จะ “หยุดการขาดทุน” ในธุรกิจ LCD ดำเนินการปฏิรูปโครงสร้าง และสร้างพื้นฐานสำหรับการเติบโตในระยะกลางถึงยาว
ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2567 บริษัทบันทึกการขาดทุนจากการด้อยค่ามูลค่า 117.9 พันล้านเยน เนื่องจากการลดขนาดธุรกิจ LCD โดย SDP จะมอบอุปกรณ์การผลิตและสินทรัพย์ทางเทคโนโลยีให้กับบริษัทอื่น ๆ และจะใช้สิ่งปลูกสร้างและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เพื่อดำเนินการปรับเปลี่ยนธุรกิจ สำหรับแผง LCD ขนาดเล็กและขนาดกลาง บริษัทจะลดกำลังการผลิตและจำนวนพนักงานที่โรงงานคาเมยามะ (Kameyama City, จังหวัดมิเอะ) และโรงงานมิเอะ (Taki Town, จังหวัดมิเอะ) เพื่อประหยัดต้นทุนคงที่ บริษัทลดค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างธุรกิจลง 10.8 พันล้านเยน และจะถอนตัวจากธุรกิจ OLED พร้อมทั้งดำเนินการลดพนักงานในธุรกิจทีวีในเอเชีย
- ก้าวถัดไปของ Sharp ทิ้ง “ราคาถูก” เร่งสร้าง “ภาพลักษณ์ใหม่”
- Sharp มุ่งจอ OLED พร้อมผลิตจำนวนมากในปีนี้
SDP ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 ในฐานะโรงงานผลิตแผง LCD รุ่นที่ 10 แห่งแรกของโลก การลงทุนมหาศาลส่งผลให้เกิดวิกฤตการบริหารสำหรับชาร์ป ในปี 2012 บริษัทรับการลงทุนจาก Hon Hai Precision Industry Group ของไต้หวัน และถูกถอดออกจากงบการเงินรวม แต่ในปี 2022 ชาร์ปซื้อคืนและทำให้เป็นบริษัทในเครือที่ถือหุ้นทั้งหมด