GO-JEK เผย บทเรียนจากความล้มเหลวของ Uber ในเอเชีย
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา Nadiem Makarim ผู้ก่อตั้ง และ CEO ของ GO-JEK ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับทาง CNBC’s Managing Asia ถึงบทเรียนที่นักธุรกิจสามารถเรียนรู้ได้จากความล้มเหลวของ Uber ในเอเชีย ว่า
“ผมคิดว่า สิ่งแรกที่ได้เรียนรู้จากเรื่องนี้ ก็คือ เรื่องที่ยากและมีราคาแพงอย่างมากในการปกป้องธุรกิจที่มีบริการเพียงด้านเดียว เพื่อที่จะรักษาและยึดครองผู้ใช้บริการไว้กับตน ในขณะที่ความต้องการในชีวิตจริงของผู้ใช้บริการนั้นมีความหลายหลายและแตกต่างกัน สำหรับ GO-JEK แล้วเรามองเรื่องนี้ ในรูปแบบของความเป็นจริงเพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน บริการของเราจึงถูกออกแบบมาอย่างหลากหลาย และให้ผู้ใช้บริการได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องจากกลยุทธ์ในการเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ ซึ่งยังช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการจากผลิตภัณฑ์ใหม่ ดังนั้น แพลตฟอร์มของ GO-JEK จึงสามารถสร้างรายได้มากขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง จากลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และบริการที่มากขึ้น ความสำคัญนั้นไม่ได้อยู่ที่ว่าพวกเขาจะมาใช้บริการใดของเรา แต่ประเด็นก็คือ บริการจากเราสามารถทำให้ชีวิตของพวกเขาง่ายขึ้นและถูกขึ้น ซึ่งจะเป็นวัฏจักรที่ดี”
กลยุทธ์ที่จะรับมือกับ Grab
หลังจาก Grab เข้าซื้อกิจการ Uber เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นการปิดดีลครั้งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย โดย Grab เข้าควบคุมกิจการของ Uber ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวน 8 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม โดยจะได้ทุกอย่างของ Uber ไปตั้งแต่ Uber Taxi ไปจนถึงบริการสั่งอาหารอย่าง Uber Eats นับเป็นข่าวใหญ่ที่สุดในวงการ Start up ในเอเชียช่วงปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว
Mr. Makariam กล่าว “แน่นอนว่าการแข่งขันระหว่าง GO-JEK และ Grab ย่อมมีความท้าทายและจะเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เกิดการพัฒนา ซึ่งเราเองยังมุ่งมั่นต่อไปในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาให้ผู้ใช้บริการ ด้วย GO-JEK เกิดมาจากการต่อสู้เพื่อมาถึงจุดนี้ เราจึงเข้าใจดีว่าจะสร้างประสิทธิภาพในการโปรโมตและขยายตลาดได้อย่างไร ในมุมมองของแรงขับเคลื่อนตลาดนั้น ผู้ขับขี่ (ผู้ให้บริการ) ทุกคนต้องการตัวเลือก ในขณะที่ลูกค้า (ผู้ใช้บริการ) ทุกคนต้องการการแข่งขัน และด้วยเหตุนี้ผมคิดว่านี่เป็นตัวขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่จะทำให้มั่นใจได้ว่า เรามีความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นแรงผลักดันจากทั้งสิ่งที่ผู้บริโภคสมควรได้รับและต้องการเป็นผู้เลือก และจากคนขับรถที่ต้องการตัวเลือก”
เกี่ยวกับ Go-Jek
Go-Jek (โกเจ็ก) ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 โดย Nadiem Makarim เป็นธุรกิจสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นรายแรกในอินโดนีเซีย เติบโตจากเทคโนโลยีในการให้บริการเรียกรถ (Ride-hailing), โลจิสติกส์ (Logistics) และการชำระเงินบนดิจิตอล (Digital Payments) เริ่มต้นธุรกิจจากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เพียง 20 คน จนปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านคนและมีบริการตามคำขอ (On-demand service) บนแอพพลิเคชั่นมากถึง 18 บริการ และได้เข้าสู่ตลาดประเทศไทยภายใต้ชื่อ “GET” ที่คาดว่าจะพร้อมให้บริการในกันยายนปีนี้