Samsung คาดใช้ 6G ก่อนปี 2030

อัปเดตล่าสุด 25 พ.ค. 2565

“ซัมซุง” คาดการณ์เทคโนโลยีเครือข่าย 6G จะเริ่มใช้งานก่อนปี 2030 รับส่งข้อมูลได้ 1 TBps รองรับการใช้งานจาก 5 แสนล้านเครื่อง สำหรับประชากร 7 พันล้านคนทั่วโลก

6G มาแล้ว เร็วขึ้น 50 เท่า Samsung ล้ำ เปิดตัวต้นแบบอุปกรณ์ 6G Terahertz

Advertisement

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2022 บริษัท Samsung Electronics ได้จัดงาน Samsung 6G Forum ภายใต้ธีม The Next Hyper-Connected Experience for All ซึ่งมีการบรรยายถึงเทคโนโลยีเครือข่าย 6G ในด้านต่าง ๆ ดังนี้

ทำไมต้อง 6G

White Paper ของซัมซุงระบุว่า ที่ผ่านมาเทคโนโลยีเครือข่ายแต่ตั้งแต่ยุค 3G ถึง 5G มีการเว้นระยะห่างราว 10 ปี แต่สำหรับ 6G มีความเป็นไปได้อย่างมากที่เครือข่าย 6G จะเริ่มใช้งานก่อนปี 2030 ซึ่งการเตรียมความพร้อมสำหรับยุค 6G มีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยคุณสมบัติต่าง ๆ ของ 5G อย่าง enhanced mobile broadband (eMBB), ultra-reliable and low latency communications (URLLC), และ massive machine-type communications (mMTC) จะถูกพัฒนาไปอีกขั้น และทำให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ทั้งภาพ เสียง และ AI ไปจนถึงบริการใหม่ ๆ อย่าง Extended Reality (XR), โฮโลแกรมมือถือความแม่นยำสูง (high-fidelity mobile hologram), Digital Replica, และอื่น ๆ

ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นไปได้ว่า 6G จะสามารถรับส่งข้อมูลได้มากถึง 1 Terabytes per second (TBps) และต้องใช้ความถี่หลายร้อย MHz ไปจนถึงหลายสิบ GHz จึงจะสามารถทำงานได้จริง นั่นคือจำเป็นต้องใช้ทั้งคลื่นความถี่ในย่านความถี่ต่ำ กลาง และสูง ซึ่งในปัจจุบันย่านความถี่ที่ต่ำกว่า 6 GHz ถูกใช้งานสำหรับ 2G/3G/4G/5G จะต้องถูกเรียกคืนและจัดสรรใหม่เพื่อนำมาใช้กับ 6G ได้

อย่างไรก็ตาม 6G ยังคงมีความท้าทายและอุปสรรคที่ใหญ่กว่า 5G อยู่ เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า 6G จะต้องรองรับการใช้งานของเครื่องมือกว่า 5 แสนล้านเครื่อง สำหรับประชากร 7 พันล้านคนทั่วโลก ซึ่งซัมซุงคาดว่าย่านความถี่ที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องมีย่านความถี่เพิ่มเติมในย่านความถี่กลาง (Mid Band) หรือที่เรียกว่า sub-THz ทำให้การจัดสรรย่านความถี่ใหม่ และความร่วมมือระดับโลกเป็นสิ่งจำเป็นต่อ 6G เป็นอย่างยิ่ง

นานาทัศนะต่อ 6G

นาย Sebastian Seung ประธานและหัวหน้าศูนย์วิจัย Samsung Research กล่าวแสดงความเห็นว่า เทคโนโลยีเครือข่าย 6G จะนำมาซึ่งขีดความสามารถในการเชื่อมต่อขั้นถัดไป ซึ่งจะเป็นพื้นฐานของวิสัยทัศน์ด้าน 6G ของบริษัท ซึ่งซัมซุงเชื่อมั่นว่า ถึงเวลาแล้วที่บริษัทจะต้องเตรียมความพร้อมด้าน 6G ซึ่งแม้ว่าอาจจะยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีจึงจะสำเร็จเหมือนเทคโนโลยีเครือข่ายยุคที่ผ่าน ๆ มา

อ่านความเป็นมาของเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายแต่ละยุค คลิก

ศาสตราจารย์ Jeffrey Andrews จาก University of Texas แสดงความเห็นในฟอรัมว่า เทคโนโลยี Deep Learning (DL) จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เครือข่าย 6G เกิดขึ้นได้จริง เนื่องจากจะนำมาซึ่งความก้าวหน้าของระบบรับส่งข้อมูลทางอากาศ (Air interface)

นาย Charlie Zhang รองประธานอาวุโส Samsung Research America เปิดเผยความคืบหน้าการวิจัยและพัฒนา 6G ว่า ปัจจุบัน เทคโนโลยีเครือข่าย 5G ยังอยู่ในขั้นต้น และมีการนำเสนอไอเดียที่มีทิศทางแตกต่างกันทั้งในภาคอุตสาหกรรมและภาควิชาการ ซึ่งซัมซุงอยู่ระหว่างการพิจารณาคลื่นความถี่ upper mid-band ที่ 7-24 GHz และ sub-terahertz band ที่ 92-300 GHz และเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการทำงานร่วมกันระหว่างสถาบัน บริษัท และรัฐบาลเพื่อนำมาซึ่งนวัตกรรมในอนาคต

นาย Takehiro Nakamura รองประธานอาวุโส และผู้จัดการทั่วไปจาก NTT DOCOMO หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญซึ่งถูกรับเชิญให้ขึ้นพูดในฟอรัมแสดงความเห็นว่า ขณะนี้ทั่วโลกกำลังมีความพยายามพัฒนาเทคโนโลยี 5G และ 6G อย่างต่อเนื่อง

นาย John Smee รองประธานอาวุโสจาก Qualcomm Technologies แสดงความเห็นว่า การวิจัยและพัฒนาระบบไร้สายขั้นสูงในทิศทางต่าง ๆ จะนำนวัตกรรมที่เข้ามาดิสรัปและผลักดันเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทำให้ประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ดียิ่งขึ้น

ด้าน ศาสตราจารย์ Tarik Taleb จาก University of Oulu ได้แสดงความเห็นว่า ควรมีการสนับสนุนให้นำ 6G มาใช้กับเทคโนโลยี AI, เครือข่ายเน็ตเวิร์ค, Virtualization, software-defined networking, และการคำนวณผ่านระบบคลาวด์/edge เพื่อใช้ลดต้นทุน และเล็งเห็นว่า 6G จะเป็นมากกว่าเทคโนโลยีเพื่อการสื่อสาร แต่จะเป็น “Service of services” แทน