♦ เทคโนโลยี Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) รับอานิสงส์โควิด จากการล็อคดาวน์ ลดสัมผัส และธุรกิจเกมที่เติบโต
♦ IDC คาดการณ์ว่า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค (ไม่รวมญี่ปุ่น) จะมีการลงทุนด้าน VR และ AR ในปี 2019-2024 เติบโตเฉลี่ย 47.7% ต่อปี ทำให้ตลาดมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 28,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2021 International Data Corporation (IDC) เปิดเผยรายงานคาดการณ์ตัวเลขการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค (ไม่รวมประเทศญี่ปุ่น) ในช่วงปี 2019 - 2024 ซึ่งจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 47.7% และมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 28,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีปัจจัยหลักมาจากการนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้นจากการระบาดของโควิด

• เทคโนโลยี VR ใกล้ใช้จริงในอุตสาหกรรมการผลิตและโลจิสติกส์

Ritika Srivastava นักวิเคราะห์ตลาดจาก IDC Asia/Pacific แสดงความเห็นว่า การระบาดของโควิดทำให้หลายองค์กรหันมาพึ่งพาเทคโนโลยีเพื่อดำเนินธุรกิจในช่วงการล็อคดาวน์ ลดการพบปะของพนักงานและลูกค้า ส่งผลให้เกิดการนำ VR/AR มาใช้ในส่วนงานบริการลูกค้า การตรวจสุขภาพทางไกล การประชุม และอื่น ๆ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปี 2020

โดยในกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคทั่วไปจะมีการเติบโตระหว่างปี 2019 - 2024 เฉลี่ยปีละ 43.2% ในขณะที่ภาคการศึกษาจะเป็นผู้นำด้านการลงทุนเทคโนโลยี VR/AR ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค สืบเนื่องจากความจำเป็นของชั้นเรียนออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น ตามด้วยธุรกิจค้าปลีก และการผลิตแบบนับชิ้น (Discrete Manufacturing) ซึ่งทั้งสามส่วนนี้มีมูลค่ารวมแล้วราวเกือบครึ่งหนึ่งของตลาด VR/AR ปี 2020 ที่ผ่านมา 

ระหว่างปี 2019 - 2024 ธุรกิจการเงินเป็นเซกเตอร์ที่การลงทุน VR/AR มีแนวโน้มเติบโตสูงสุดด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 313.7% ตามด้วยการลงทุนจากภาครัฐบาล ผู้ให้บริการด้านการสุขภาพ ธุรกิจหลักทรัพย์และบริการการลงทุน เนื่องจากมีการนำมาใช้ในรูปแบบใหม่ ๆ และมีแนวโน้มที่จะช่วยเพิ่ม ROI ได้ ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มนำไปใช้ในการฝึกฝนพนักงานเป็นหลัก

ส่วนในปี 2020 ที่ผ่านมา กลุ่มผลิตภัณฑ์ AR/VR ที่มียอดขายสูงสุดคือธุรกิจเกม ซึ่งมีสัดส่วนราว 1 ใน 3 ของมูลค่าตลาด ตามด้วยอุปกรณ์ฝึกฝนพนักงาน และการดูภาพยนตร์

ในมุมของเทคโนโลยีแล้ว คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ AR/VR จะมีสัดส่วนมากถึง 2 ใน 3 ของตลาดในปี 2024 ในขณะที่ส่วนที่เหลือคือซอฟต์แวร์และบริการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดการณ์ว่ากลุ่ม Systems Integrator (SIer) จะมีการลงทุนด้าน AR/VR เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 62.4% ส่วนกลุ่มผู้พัฒนาแอปพลิเคชันและซอฟต์แวร์ ไปจนถึงบริการที่ปรึกษาคาดการณ์ว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 63.8%

ในช่วงเริ่มต้น โซลูชัน VR จะมีการเติบโตรวดเร็วกว่า AR แต่ AR จะมีการลงทุนเติบโตโดยรวมสูงกว่าจากฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะมีอัตราเติบโตอยู่ที่เฉลี่ยปีละ 118.0%

ในช่วงวิกฤตโควิด AR/VR ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นส่วนสำคัญของ Digital Transformation ในหลายองค์กร เช่น การนำ AR/VR มาใช้ทางการแพทย์ซึ่งได้รับการลงทุนสนับสนุนอย่างมากในช่วงวิกฤต ในขณะที่การทำงานแบบ Remote Working, การจัดอีเวนต์ออนไลน์, และอื่น ๆ ก็มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นในอนาคต

Deepan Pathy ผู้จัดการฝ่ายวิจัยจาก Future of Work, AR/VR and Mobility research IDC Asia/Pacific แสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า การพบปะระหว่างลูกค้าและพนักงานทำให้การลงทุนด้าน AR/VR เติบโตอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ซึ่งองค์กรจำเป็นต้องพัฒนากลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นสำหรับการนำ AR/VR มาปรับใช้

นอกจากนี้ ในช่วงที่หลายบริษัทเริ่มกลับมาทำงานที่สำนักงาน การยกระดับความปลอดภัยของพนักงานก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่องค์กรต้องให้ความสำคัญ ซึ่ง AR/VR ที่สามารถลดการพบปะระหว่างพนักงานและลูกค้าจะกลายเป็นกุญแจสำคัญในการลดสัมผัส โดยนำมาใช้ในการประชุมทางไกล, การควบคุมเครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปใช้งานรูปแบบอื่น เช่น สำหรับการชอปปิ้งได้อีกด้วย

IDC รายงานว่า ในปี 2020 จีนมีสัดส่วนการใช้จ่ายด้าน AR/VR มากกว่า 90% ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค และมีแนวโน้มเติบโตสูงสุดในช่วงปี 2019 - 2024 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 47.1% ในขณะที่หลายประเทศในอาเซียนก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวด้วยการร่วมมือพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น