Fujitsu ประกาศพัฒนาระบบควบคุมการผลิตโดยอาศัยเทคโนโลยี Blockchain เทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์มากกว่า 1 เครื่อง ด้วยการรับข้อมูลและบันทึกข้อมูลไปพร้อมกัน โดยระบบควบคุมการผลิตที่พัฒนาขึ้นนี้ ใช้การพิมพ์ QR Code ลงบนผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ได้แบบชิ้นต่อชิ้น คาดว่า จะช่วยเพิ่มความสามารถในการสอบกลับ (Traceability) บนสายการผลิตที่มีผลิตภัณฑ์หลากชนิด หรือผลิตภัณฑ์จำนวนมากได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบัน ระบบที่ว่านี้มีการทดสอบใช้อยู่ที่โรงงาน Augsburg ประเทศเยอรมนี และมีกำหนดนำเสนอให้กับบริษัทอื่นในเดือนมิถุนายนนี้ พร้อมยกระดับความน่าเชื่อถือ เพื่อให้พร้อมใช้งานจริงในเดือนธันวาคม โดยจะนำใช้กับโรงงานต่าง ๆ ของ Fujitsu และจำหน่ายให้กับบริษัทอื่น ซึ่ง QR Code ที่ใช้นั้น ได้รับความร่วมมือจากผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ ทำให้สามารถพิมพ์ลงไปบนผลิตภัณฑ์โดยตรงได้

ระบบดังกล่าวนี้ ได้นำเทคโนโลยี “IOTA” Crypto Currency ซึ่งใช้ Bockchain มาพัฒนา โดย IOTA มีจุดเด่นคือคุณสมบัติในการรักษาความเร็วในการประมวลผล สามารถทำงานได้โดยสูญเสียความเร็วเพียงเล็กน้อยแม้มีปริมาณข้อมูลมาก จึงสามารถนำมาใช้ในการบริหารข้อมูลในโรงงานซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลถี่ได้ง่าย เหมาะแก่การใช้งานกับ IoT และ M2M (Machine to Machine)
 
ในการทำงานนั้น ระบบจะทำการอ่าน QR Code ที่พิมพ์ไว้บนผลิตภัณฑ์ซึ่งอยู่บนสายการผลิต นำข้อมูลที่ได้รับเข้าสู่ระบบการจัดการของ Blockchain จากนั้นจึงตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ เช่น หมายเลขของสินค้า หรืออุณหภูมิที่ต้องใช้ในการแปรรูป จึงสามารถวางชิ้นงานหลากชนิดปนกันบนสายการผลิตได้

หากนำหุ่นยนต์และ Machine Tools มาใช้ร่วมกับระบบนี้แล้ว จะสามารถใช้ในการผลิตชิ้นงานแบบ Mass Customization ได้ หรือหากสินค้าที่ส่งออกไปแล้วมีข้อบกพร่อง ก็จะสามารถตรวจสอบหาชิ้นส่วนที่เป็นที่มาของข้อผิดพลาดนั้น ๆ แล้วเรียกคืนมาได้โดยสะดวก อีกด้วย

ซึ่งการนำมาใช้งานเช่นนี้เอง เป็นการยืนยันว่าเทคโนโลยี Blockchain ไม่ได้มีค่าในฐานะ Crypto Currency เท่านั้น และเป็นที่น่าจับตามองว่า คุณสมบัติการประมวลผลเช่นนี้ จะถูกนำมาใช้กับเทคโนโลยี IoT เช่นไร ซึ่งปัจจุบันคาดการณ์ว่า จะสามารถนำไปใช้ในการลดต้นทุนและสร้างความน่าเชื่อถือให้มากขึ้นได้