หุ่นยนต์อุตสาหกรรม ทำงานร่วม AI หนุนทำงานจากทางไกล (Remote Working)

หุ่นยนต์อุตสาหกรรม ร่วม AI หนุนทำงานทางไกล (Remote Working)

อัปเดตล่าสุด 20 ก.ย. 2561
  • Share :

“ระบบควบคุมหุ่นยนต์อุตสาหกรรมจากทางไกล แบบถ่ายทอดแรงกระทำ” แนวคิดที่กำลังถูกพัฒนาโดย Taisei Corporation  ประเทศญี่ปุ่น เพื่อต่อยอดการใช้งานหุ่นยนต์ และนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence​) มาใช้ร่วม เชื่อการพัฒนาจะแพร่หลายยิ่งขึ้นเมื่อเครือข่าย 5G ถูกใช้งานจริง

Taisei Corporation ทำธุรกิจหลักด้านงานก่อสร้างอาคารและวิศวกรรมโยธา ได้ประกาศพัฒนา “ระบบควบคุมหุ่นยนต์อุตสาหกรรมจากทางไกล แบบถ่ายทอดแรงกระทำ” พร้อมทดลองทำงานด้วย AI ภายในปีงบประมาณ 2018 นี้

โดยระบบนี้ มีคุณสมบัติในการถ่ายทอดแรงกระทำเมื่อแขนหุ่นยนต์ทำการหยิบจับชิ้นงาน ส่งผลให้พนักงานสามารถควบคุมแขนหุ่นยนต์ให้ทำงานจากระยะไกล (Remote Working) ได้เหมือนตัวเองยืนอยู่ในสายการผลิต และใช้ AI ในการช่วยประมวลผลข้อมูลเพื่อให้ระบบทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่าภายในปีงบประมาณ 2019 พนักงานจะสามารถใช้ระบบนี้ในการควบคุมแบบกึ่งอัตโนมัติโดยมี AI ช่วยเหลือ และพัฒนาสู่ระบบอัตโนมัติโดยสมบูรณ์ต่อไปภายในปีงบประมาณ 2020

ปัจจุบัน เครื่องทดสอบที่ผลิตออกมาคือเครื่องหมายเลข 2 ซึ่งถูกทดลองใช้งานภายในไซต์ก่อสร้าง และมีพนักงานควบคุมหุ่นยนต์จากทางไกล โดยกล้องที่ติดตั้งไว้กับหุ่นยนต์จะฉายภาพมายังห้องทำงาน ซึ่งพนักงานสามารถควบคุมหุ่นยนต์ผ่าน “5G x IoT Studio” เทคโนโลยี 5G ซึ่งเกิดจากการร่วมมือพัฒนากับ SoftBank และสามารถรับส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็วไม่ต่างจากการรับส่งผ่านสายสัญญาณ ซึ่งระหว่างการทำงาน AI จะเรียนรู้กระบวนการทำงาน ตั้งแต่ลำดับการทำงาน วิธีการทำงาน ไปจนถึงแรงที่ใช้ ซึ่งจะกลายเป็นขุมข้อมูลให้หุ่นยนต์สามารถทำงานโดยอัตโนมัติได้ในอนาคต

ในขั้นถัดไป บริษัทมีกำหนดการทดลองใช้ระบบนี้ควบคุมให้แขนหุ่นยนต์เรียงลูกเต๋าเป็นแนวตั้ง และจับลูกโป่งให้ไม่แตกอีกด้วย

Taisei Corporation คาดการณ์ว่า เมื่อเทคโนโลยี AI และ 5G เป็นที่แพร่หลายมากขึ้นแล้ว กระบวนการทำงานจะเปลี่ยนจากการใช้แรงงานไปสู่ระบบอัตโนมัติ (Automation) และการทำงานจากทางไกลก็จะกลายเป็นเรื่องปกติ ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณานำเสนอระบบในขั้นปัจจุบัน ซึ่งยังไม่ใช่ระบบอัตโนมัติให้กับบริษัทที่มีความต้องการทำงานจากทางไกลในขณะนี้