แม้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ “เอไอ” จะสร้างความสะดวกสบายให้กับชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน แต่อีกด้านเอไอก็สร้างความวิตกกังวลให้กับมนุษย์ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าจนเอไอสามารถประมวลผลข้อมูลได้ภายในเวลาไม่ถึงเสี้ยววินาที และยังมีศักยภาพในการทำงานได้แม่นยำยิ่งกว่ามนุษย์ จนหลายฝ่ายกังวลว่าท้ายสุดแล้วมนุษย์อาจตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเทคโนโลยี

จากความกังวลดังกล่าวทำให้ “อีลอน มัสก์” มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน นักลงทุนและนักประดิษฐ์อุปกรณ์ไฮเทครายใหญ่เจ้าของบริษัทสตาร์ตอัพ “นิวราลิงก์” ได้ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาอุปกรณ์ที่จะช่วยเชื่อมโยงคำสั่งจากสมองของมนุษย์ไปยังอุปกรณ์คอมพิวเตอร์

“บีบีซี” รายงานว่าอุปกรณ์ต้นแบบล่าสุดที่นิวราลิงก์พัฒนาจะประกอบไปด้วยชิปด้านหลังใบหูที่เชื่อมต่อกับ “เส้นใยสื่อประสาท” ที่ถูกฝังเข้าไปภายในสมอง โดยเส้นใยนี้มีขนาดบางเพียง 1 ใน 4 ของเส้นผมของมนุษย์ ประกอบด้วยขั้วไฟฟ้ามากกว่า 3,000 ขั้ว และมีเครื่องมือที่สามารถรับคำสั่งจากเซลล์ประสาทได้ 1,000 ชนิด

มัสก์ เปิดเผยว่า อุปกรณ์ดังกล่าวยังอยู่ในช่วงของการทดลอง โดยได้ประสบผลสำเร็จในการทดลองกับ “ลิง” ที่สามารถสั่งการคอมพิวเตอร์ด้วยสมองได้ แต่ยังคงต้องรอการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา เพื่อให้สามารถทดลองกับมนุษย์ได้ต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทดลองกับมนุษย์ได้ภายในสิ้นปี 2020

“กริตติกา ดิ ซิลวา” นักวิจัยเอไอของ Frontier Development Lab ระบุว่า “โครงการนี้ยังคงต้องใช้เวลาอีกนานหลายปี ในการพัฒนาและจัดการความท้าทาย ทั้งทางด้านเทคนิคและด้านจริยธรรม แต่เทคโนโลยีนี้ถือเป็นก้าวสำคัญทางการแพทย์”

เนื่องจากเป้าหมายของการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ ในเบื้องต้นคือการช่วยเหลือผู้ป่วยทางระบบประสาท อย่างผู้ป่วยโรคลมชัก โรคอัลไซเมอร์ และโรคพาร์กินสัน แต่ “มัสก์” ตั้งเป้าไปที่การเชื่อมต่อระบบร่างกายของมนุษย์เข้ากับปัญญาประดิษฐ์ให้ได้ในท้ายที่สุด

“ด้วยเครื่องมือที่สามารถเชื่อมต่อสมอง เราสามารถก้าวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีตัวเลือกในการประสานกับเอไอ กลายเป็นการสร้างความฉลาดขั้นสุดยอดของมนุษย์” มัสก์กล่าว

ทั้งนี้ไม่ได้มีแค่โปรเจ็กต์นิวราลิงก์เท่านั้น มัสก์ยังได้ทุ่มทุนและพยายามพัฒนาเทคโนโลยีให้เกิดขึ้นจริงในอนาคตอีกหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็น “สเปซเอ็กซ์” ที่กำลังสำรวจความเป็นไปได้ในการพาทัวร์ดาวอังคาร รวมถึง “บอริ่ง คอมปะนี” ก็กำลังสร้างอุโมงค์ระบบขนส่งลอดใต้นครลอสแองเจลีส ด้วยยานพาหนะที่เรียกว่า “ไฮเปอร์ลูป” เพื่อเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัด

หากเทคโนโลยีเหล่านี้เป็นจริงขึ้นมาเมื่อไหร่ก็จะทำให้โลกอนาคตเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่