ติดตามยูเออีเรื่องความก้าวหน้าของ IoT และ 5G รวมถึงการเปิดใช้ robotaxi ภายในปี 2020

อัปเดตล่าสุด 13 พ.ย. 2562
  • Share :

Sheikh Hamdan Bin Muhammed Bin Rashid Al Maktoum มงกุฎราชกุมารของดูไบและประธาน Dubai Executive Council ได้เป็นประธานในการเปิดงาน Gitex Technology Week ครั้งที่ 39 ที่ดูไบ เผยว่า Internet of Things (IoT) และระบบ 5G ของยูเออี จะใช้เวลาอีก 4-5 ปี ที่จะทําให้ประชาชนชาวยูเออีใช้ประโยชน์ในชีวิตประจําวันมากขึ้น

Gitex ซึ่งเป็นงานเทคโนโลยีด้านการสื่อสารที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง และยูเออีอยู่ในอันดับ 1 ของโลกอาหรับและอันดับ 4 ของโลกที่เปิดใช้เทคโนโลยีเครือข่าย 5G จากการจัดอันดับใน Global Connectivity Index ซึ่งจัดอันดับโดย Carphone Warehouse ทั้งนี้ ภายในปี 2022 บริษัทโทรคมนาคมทั้งหมดของยูเออีจะใช้ระบบ 5G อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะการใช้ IoT
 
นอกจากนี้ นาย Haitham Saif ผู้จัดการระบบของ Juniper Networks ภูมิภาคตะวันออกกลาง ตุรกีและแอฟริกา ได้กล่าวไว้ว่า ยูเออีจะใช้เวลา 5 ปี ในการใช้ IoT ให้เกิดประโยชน์ในประเทศ ทั้งในระบบอุตสาหกรรมและบ้านเรือนประชาชน ซึ่งจะใช้ตั้งแต่การเปิดปิดตู้เย็น โทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ จากภายนอก ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องมือกว่า 1 พันล้านเครื่องทั่วโลก ที่สามารถติดต่อโดยอินเตอร์เน็ตได้ ทั้งนี้ ภายในปี 2030 อุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ จะติดต่อผ่านอินเตอร์เน็ตกว่า 120,000 ล้านเครื่อง
 
อีกทั้ง นาย Jyoti Lalchandani รองประธานบริษัท IDC ซึ่งเป็นบริษัทด้าน IoT ภูมิภาคตะวันออกกลาง ตุรกี และแอฟริกา กล่าวว่า IDC คาดการณ์ว่า ผู้บริโภคและบริษัทต่าง ๆ จะลงทุนกว่า 9.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในธุรกิจเกี่ยวกับด้าน IoT ในปี 2020 ในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา มากว่านั่น นาย Ahmed Khashan ประธานบริษัท Schneider Electric กล่าวว่า เทคโนโลยี 5G ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของ IoT  Big data  AI รวมถึง 5G จะทําให้รูปแบบการทําธุรกิจในโลกเปลี่ยนไปมากและเป็นประโยชน์ ต่อประชาชนด้วย อาทิ อุตสาหกรรมโลจิสติกส์จะใช้หุ่นยนต์และ Big data สร้างโกดังสินค้าอัจฉริยะที่ลดต้นทุน และปรับปรุงประสิทธิภาพให้สูงขึ้น ทําให้ประชาชนได้รับสินค้าไวขึ้นและต้นทุนที่ต่ำลง ส่งผลต่อชีวิตที่ง่ายขึ้นและสะดวกสบายยิ่งขึ้น  และสามารถตรวจสอบ สินค้าของตนได้ง่าย อีกทั้งบ้านต่าง ๆ จะเป็นบ้านอัจฉริยะ เป็นต้น

สําหรับความก้าวหน้าทางด้านรถแท็กซี่ไร้คนขับ (robotaxi) ในยูเออีนั้น ขณะนี้ บริษัท Autox ซึ่งมี ฐานอยู่ในฮ่องกงกําลังหารือกับบริษัทในยูเออีเพื่อหาหุ้นส่วนทํา robotaxi ซึ่งหากการหารือเป็นไปได้ด้วยดี จะทำให้มีการเปิดตัวของ robotaxi และระบบบริการการจัดส่งสินค้าอัตโนมัติขึ้นภายในปี 2020
 
นาย Jianxiong Xiao ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Autox ซึ่งมีสํานักงานในสหรัฐฯ และจีน และขณะนี้ได้ย้ายสํานักงานใหญ่จาก Silicon Valley มายังฮ่องกง กล่าวในงาน Gitex ว่า บริษัทดังกล่าวได้แสดงเทคโนโลยีไร้คนขับในการจัดส่งเบอร์เกอร์และ เฟรนช์ฟรายส์ในงาน CES ที่ลาสเวกัสเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งนี้ ได้กล่าวอีกว่า ดูไบเหมาะสมสําหรับเป็นศูนย์กลาง เทคโนโลยีระดับโลกและเป็นผู้นําด้าน AI และบริษัทของตนได้ไปหารือกับ Roads and Transport Authority ของดูไบและอาบูดาบีแล้ว รวมถึงที่รัฐชาร์จาห์ ทั้งนี้ ระบบ Dubai Integrated Mobility platform ซึ่งมีชื่อว่า Shail ของดูไบจะทําให้ยานพาหนะขนส่งอัจฉริยะเป็นไปด้วยดี

 

อ่านบทความ และรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่  : ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ www.globthailand.com