ติดตามยูเออีเรื่องความก้าวหน้าของ IoT และ 5G รวมถึงการเปิดใช้ robotaxi ภายในปี 2020
Sheikh Hamdan Bin Muhammed Bin Rashid Al Maktoum มงกุฎราชกุมารของดูไบและประธาน Dubai Executive Council ได้เป็นประธานในการเปิดงาน Gitex Technology Week ครั้งที่ 39 ที่ดูไบ เผยว่า Internet of Things (IoT) และระบบ 5G ของยูเออี จะใช้เวลาอีก 4-5 ปี ที่จะทําให้ประชาชนชาวยูเออีใช้ประโยชน์ในชีวิตประจําวันมากขึ้น
Gitex ซึ่งเป็นงานเทคโนโลยีด้านการสื่อสารที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง และยูเออีอยู่ในอันดับ 1 ของโลกอาหรับและอันดับ 4 ของโลกที่เปิดใช้เทคโนโลยีเครือข่าย 5G จากการจัดอันดับใน Global Connectivity Index ซึ่งจัดอันดับโดย Carphone Warehouse ทั้งนี้ ภายในปี 2022 บริษัทโทรคมนาคมทั้งหมดของยูเออีจะใช้ระบบ 5G อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะการใช้ IoT
นอกจากนี้ นาย Haitham Saif ผู้จัดการระบบของ Juniper Networks ภูมิภาคตะวันออกกลาง ตุรกีและแอฟริกา ได้กล่าวไว้ว่า ยูเออีจะใช้เวลา 5 ปี ในการใช้ IoT ให้เกิดประโยชน์ในประเทศ ทั้งในระบบอุตสาหกรรมและบ้านเรือนประชาชน ซึ่งจะใช้ตั้งแต่การเปิดปิดตู้เย็น โทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ จากภายนอก ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องมือกว่า 1 พันล้านเครื่องทั่วโลก ที่สามารถติดต่อโดยอินเตอร์เน็ตได้ ทั้งนี้ ภายในปี 2030 อุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ จะติดต่อผ่านอินเตอร์เน็ตกว่า 120,000 ล้านเครื่อง
อีกทั้ง นาย Jyoti Lalchandani รองประธานบริษัท IDC ซึ่งเป็นบริษัทด้าน IoT ภูมิภาคตะวันออกกลาง ตุรกี และแอฟริกา กล่าวว่า IDC คาดการณ์ว่า ผู้บริโภคและบริษัทต่าง ๆ จะลงทุนกว่า 9.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในธุรกิจเกี่ยวกับด้าน IoT ในปี 2020 ในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา มากว่านั่น นาย Ahmed Khashan ประธานบริษัท Schneider Electric กล่าวว่า เทคโนโลยี 5G ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของ IoT Big data AI รวมถึง 5G จะทําให้รูปแบบการทําธุรกิจในโลกเปลี่ยนไปมากและเป็นประโยชน์ ต่อประชาชนด้วย อาทิ อุตสาหกรรมโลจิสติกส์จะใช้หุ่นยนต์และ Big data สร้างโกดังสินค้าอัจฉริยะที่ลดต้นทุน และปรับปรุงประสิทธิภาพให้สูงขึ้น ทําให้ประชาชนได้รับสินค้าไวขึ้นและต้นทุนที่ต่ำลง ส่งผลต่อชีวิตที่ง่ายขึ้นและสะดวกสบายยิ่งขึ้น และสามารถตรวจสอบ สินค้าของตนได้ง่าย อีกทั้งบ้านต่าง ๆ จะเป็นบ้านอัจฉริยะ เป็นต้น
สําหรับความก้าวหน้าทางด้านรถแท็กซี่ไร้คนขับ (robotaxi) ในยูเออีนั้น ขณะนี้ บริษัท Autox ซึ่งมี ฐานอยู่ในฮ่องกงกําลังหารือกับบริษัทในยูเออีเพื่อหาหุ้นส่วนทํา robotaxi ซึ่งหากการหารือเป็นไปได้ด้วยดี จะทำให้มีการเปิดตัวของ robotaxi และระบบบริการการจัดส่งสินค้าอัตโนมัติขึ้นภายในปี 2020
นาย Jianxiong Xiao ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Autox ซึ่งมีสํานักงานในสหรัฐฯ และจีน และขณะนี้ได้ย้ายสํานักงานใหญ่จาก Silicon Valley มายังฮ่องกง กล่าวในงาน Gitex ว่า บริษัทดังกล่าวได้แสดงเทคโนโลยีไร้คนขับในการจัดส่งเบอร์เกอร์และ เฟรนช์ฟรายส์ในงาน CES ที่ลาสเวกัสเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งนี้ ได้กล่าวอีกว่า ดูไบเหมาะสมสําหรับเป็นศูนย์กลาง เทคโนโลยีระดับโลกและเป็นผู้นําด้าน AI และบริษัทของตนได้ไปหารือกับ Roads and Transport Authority ของดูไบและอาบูดาบีแล้ว รวมถึงที่รัฐชาร์จาห์ ทั้งนี้ ระบบ Dubai Integrated Mobility platform ซึ่งมีชื่อว่า Shail ของดูไบจะทําให้ยานพาหนะขนส่งอัจฉริยะเป็นไปด้วยดี
อ่านบทความ และรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ www.globthailand.com