ตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์ GSP มกราคม - กันยายน

รวมสินค้าตัวท็อปใช้สิทธิ GSP ส่งออกไปสหรัฐฯ ครองแชมป์

อัปเดตล่าสุด 14 ธ.ค. 2566
  • Share :
  • 885 Reads   

กรมการค้าต่างประเทศ เผยตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ระบบ GSP ส่งออกไปยังตลาดสหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ กลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) และนอร์เวย์ ในช่วง 3 ไตรมาสของปี 2566 (มกราคม - กันยายน) มีมูลค่ารวม 2,591.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสหรัฐฯ ยังคงครองแชมป์อันดับ 1 ใช้สิทธิ GSP ส่งออกสูงถึง 2,375.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีสินค้าส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ กรดมะนาว (หรือกรดซิทริก) อาหารปรุงแต่ง และกระเป๋าใส่เสื้อผ้า ถุงมือยาง เป็นสินค้าดาวเด่น

วันที่ 11 ธันวาคม 2566 นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยสถิติการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการส่งออกภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป หรือ GSP ที่ไทยได้รับในปัจจุบัน ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ และกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช โดยใน 9 เดือนแรกของปี 2566 มีมูลค่ารวม 2,591.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ 53.61% และตลาดที่ไทยมีการใช้สิทธิ GSP ส่งออกมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ยังคงเป็นสหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์อยู่ที่ 2,375.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 91.66% ของมูลค่าการส่งออกรวมที่ใช้สิทธิ GSP

นายรณรงค์ฯ เพิ่มเติมว่าจากการติดตามสถิติการค้าพบว่าสหรัฐฯ เป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยและมีการใช้สิทธิ GSP สูงสุดอีกด้วย โดยในช่วงตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2566 สินค้าดาวเด่นของไทยที่มีการใช้สิทธิ GSP สูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ มูลค่า 402.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กรดมะนาว (หรือกรดซิทริก) มูลค่า 130.30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อาหารปรุงแต่ง มูลค่า 110.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กระเป๋าใส่เสื้อ มูลค่า 104.00 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และถุงมือยาง มูลค่า 91.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ ซึ่งการใช้สิทธิ GSP ส่งออกไปสหรัฐฯ นั้น ทำให้ไทยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าสหรัฐฯ และสามารถช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ส่งออกไทยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีสินค้าสำคัญอื่นๆ ที่มีมูลค่าการใช้สิทธิ GSP ส่งออกไปสหรัฐฯ สูง อาทิ เลนส์แว่นตา ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ ขนมที่ไม่มีโกโก้ผสมทำจากน้ำตาล เป็นต้น

สำหรับโครงการ GSP ของสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ และกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) สินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์สูง อาทิ เพชรพลอยรูปพรรณทำด้วยโลหะมีค่า (สวิตเซอร์แลนด์) หน้าปัดนาฬิกาชนิดคล็อกหรือวอตซ์ (สวิตเซอร์แลนด์) ของผสมของสารที่มีกลิ่นหอมชนิดที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารหรือเครื่องดื่ม (สวิตเซอร์แลนด์) ข้าวโพดหวาน (นอร์เวย์) สูทของสตรีหรือเด็กหญิงทำด้วยขนแกะหรือขนละเอียดของสัตว์ (นอร์เวย์) ข้าวที่สีบ้างแล้วหรือสีทั้งหมด (นอร์เวย์) สับปะรดกระป๋อง ปลาทูน่า ปลาสคิปแจ็ก และปลาโบนิโตชนิดซาร์ดา (CIS) เป็นต้น

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH