สถานการณ์การค้าต่างประเทศของไทย ไตรมาส 3/2567

สถานการณ์การค้าต่างประเทศของไทย ไตรมาส 3/2567

อัปเดตล่าสุด 16 ธ.ค. 2567
  • Share :

กองวิจัยเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) รายงานสถานการณ์การค้าต่างประเทศของไทยในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ขยายตัวร้อยละ 9.04 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) ขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า ตามการฟื้นตัวของภาคการผลิตและภาคบริการของประเทศเศรษฐกิจหลัก เช่น สหรัฐฯ และจีน ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกสินค้าของประเทศต่าง ๆ กลับมาขยายตัวในเกณฑ์ดี รวมทั้งเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ส่งผลให้ธนาคารกลางเศรษฐกิจหลักส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้น

โดยการค้าระหว่างประเทศของไทยไตรมาสที่ 3 ปี 2567 มีมูลค่าทั้งสิ้น 156,486.24 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 77,886.03 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 7.46 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) และมูลค่าการนำเข้า 78,600.20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 10.65 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) ดุลการค้าไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ขาดดุล 714.17 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Advertisement

โครงสร้างการส่งออกสินค้า

การส่งออกในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 มีมูลค่า 77,886.03 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ  7.46 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) โดยหมวดสินค้าหลักมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้

  • สินค้าเกษตรกรรม มูลค่าการส่งออก 7,224.14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 7.03 (YOY) 
  • สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร มูลค่าการส่งออก  6,221.85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ  13.16 (YOY)
  • สินค้าอุตสาหกรรม มูลค่าการส่งออก 61,442.97 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 7.26  (YOY)  
  • สินค้าแร่และเชื้อเพลิง มูลค่าการส่งออก 2,997.08 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 1.82 (YOY)

ตลาดส่งออก ไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ไทยมีสัดส่วนการส่งออกสินค้าไปยังตลาดคู่ค้าหลัก รวม 5 ตลาด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อาเซียน สหภาพยุโรป (27 ประเทศ) จีน และญี่ปุ่น คิดเป็นร้อยละ 51.5 และสัดส่วนการส่งออกไปยังตลาดอื่น ๆ คิดเป็นร้อยละ 48.5 ของการส่งออกทั้งหมด มีรายละเอียด ดังนี้

  • สัดส่วนการส่งออกของไทย ไทยมีสัดส่วนมูลค่าการส่งออกไปสหรัฐอเมริกา อาเซียน สหภาพยุโรป (27 ประเทศ) จีน และญี่ปุ่น
    ร้อยละ 17.10, 14.80, 7.00, 6.90 และ 5.70 ตามลำดับ
  • มูลค่าการส่งออกของไทย ไทยมีมูลค่าการส่งออก 77,886.03 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 7.46 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) ประเทศที่การส่งออกขยายตัว ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ขยายตัวสูงสุดร้อยละ20.75 รองลงมา คือ สหภาพยุโรป (27 ประเทศ) ขยายตัวร้อยละ 14.57 จีน ขยายตัวร้อยละ 7.83 อาเซียน (9) ขยายตัวร้อยละ 6.76 ส่วนประเทศที่การส่งออกหดตัว คือ ญี่ปุ่น หดตัวร้อยละ 8.71

ตลาดส่งออกสินค้า

 

โครงสร้างการนำเข้าสินค้า

การนำเข้าสินค้าของไทยในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 มีมูลค่า 78,600.20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 10.65 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) โดยหมวดสินค้าหลักมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้ 

  • สินค้าเชื้อเพลิง มีมูลค่าการนำเข้า  13,099.49 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 7.03 (YOY)
  • สินค้าทุน มีมูลค่าการนำเข้า 19,129.18 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 12.01 (YOY)
  • สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป มีมูลค่าการนำเข้า  33,610.74 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 19.69 (YOY)
  • สินค้าอุปโภคบริโภค มีมูลค่าการนำเข้า  8,866.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 8.73 (YOY)
  • ยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง มีมูลค่าการนำเข้า 2,814.85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ  36.43(YOY) 
  • สินค้าหมวดอาวุธ ยุทธปัจจัยและสินค้าอื่น ๆ มีมูลค่าการนำเข้า  1,079.38 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ  2.21 (YOY)  

ตลาดนำเข้าสินค้า  ไทยมีสัดส่วนการนำเข้าสินค้าหลักรวม 5 ตลาด ได้แก่ จีน อาเซียน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาและ สหภาพยุโรป (27 ประเทศ) คิดเป็นร้อยละ 65.28 และการนำเข้าจากตลาดอื่น ๆ คิดเป็นร้อยละ 34.72 ของการนำเข้าทั้งหมด มีรายละเอียด ดังนี้

  • สัดส่วนการนำเข้าของไทย ไทยมีสัดส่วนการนำเข้าจากจีน อาเซียน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป (27 ประเทศ) มีสัดส่วนร้อยละ 26.50, 16.50, 9.00, 6.90 และ 6.20 ตามลำดับ
  • ไทยมีมูลค่าการนำเข้า ไทยมีมูลค่าการนำเข้า 78,600.20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 10.65 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) ประเทศที่การนำเข้าขยายตัว ได้แก่ จีน ขยายตัวสูงสุดร้อยละ 18.93 รองลงมา คือ อาเซียน ขยายตัวร้อยละ 13.36 สหรัฐอเมริกา ขยายตัวร้อยละ 9.10 ส่วนประเทศที่การนำเข้าหดตัว ได้แก่ ญี่ปุ่น หดตัวสูงสุดร้อยละ 7.73 รองลงมา คือ สหภาพยุโรป (27 ประเทศ) หดตัวร้อยละ 0.76 

ตลาดนำเข้าสินค้า

อ่านต่อ:

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH