ยอดขายรถยนต์ไทย ก.ย. 2568 พุ่ง 23.8% หนุนโดยตลาด EV เติบโตแรง

ยอดขายรถยนต์ไทยเดือน ก.ย. 2568 โตแรง 23.8% หนุนโดยตลาด EV ขยายตัวต่อเนื่อง

อัปเดตล่าสุด 22 ต.ค. 2568

ยอดขายรถยนต์เดือนกันยายน 2568 อยู่ที่ 48,350 คัน เพิ่มขึ้น 1.53% เมื่อเทียบกับปีก่อน ด้รับแรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทุกประเภทที่เติบโตอย่างโดดเด่น ขณะที่กลุ่มรถกระบะยังชะลอตัวจากปัจจัยด้านสินเชื่อและภาวะเศรษฐกิจในประเทศ

22 ตุลาคม 2568 — นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยยอดขายรถยนต์ของประเทศไทยในเดือนกันยายน 2568 ดังต่อไปนี้

ภาพรวมยอดขายรถยนต์กันยายน 2568

ยอดขายรถยนต์ในไทยเดือนกันยายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 48,350 คัน เพิ่มขึ้น 1.53% จากเดือนสิงหาคม 2568 และเพิ่มขึ้น 23.82% จากเดือนกันยายน 2567 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ายังเติบโตดีเนื่องจากรถหลายรุ่นมีราคาถูกลงจนสามารถซื้อได้มากขึ้น รวมทั้งเทคโนโลยีที่ติดตั้งในรถยนต์ไฟฟ้าน่าสนใจมากขึ้น แต่รถกระบะยังคงขายลดลง 4.00% จากการเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินเพราะหลักฐานการเงินอ่อนแอจากเศรษฐกิจในประเทศที่ขยายเติบโตในอัตราต่ำ ค่าครองชีพสูง และดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงติดลบ แรงงานในภาคอุตสาหกรรมมีรายได้ลดลงจึงขาดกำลังซื้อ ผู้ขายสินค้าอื่น ๆ และอาหารรวมทั้งการท่องเที่ยวมีรายได้ลดลง

รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 31,722 คัน เท่ากับ 65.61% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้น 40.87% จากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) มีจำนวน 9,065 คัน เท่ากับ 18.75% ของยอดขายทั้งหมด ลดลง 22.08%
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 9,107 คัน เท่ากับ 18.84% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้น 99.10%
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) มีจำนวน 637 คัน เท่ากับ 1.32% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้น 223.35%
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ REEV (Range-Extended Electric Vehicle) มีจำนวน 149 คัน เท่ากับ 0.31% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้น 100%
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) มีจำนวน 12,764 คัน เท่ากับ 26.40% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้น 108.73%
รถกระบะ มีจำนวน 11,049 คัน ลดลง 4.00% จากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว
รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 48 คัน ในปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย
รถกระบะ REEV มีจำนวน 7 คัน ในปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย
รถ PPV มีจำนวน 3,250 คัน เพิ่มขึ้น 31.95% จากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว
รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 1,321 คัน ลดลง 5.84% จากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว
รถประเภทอื่น ๆ มีจำนวน 953 คัน ลดลง 17.42% จากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว

ยอดขายสะสม ม.ค.–ก.ย. 2568

ตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2568 มีทั้งสิ้น 477,969 คัน เพิ่มขึ้น 2.12% จากปี 2567 แยกเป็น

รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 288,391คันเท่ากับ 64.44% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้น 9.87% จากระยะเวลาเดียวกัน
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) มีจำนวน 97,287 คัน เท่ากับ 21.72% ของยอดขายทั้งหมด ลดลง 17.47% จากปีที่แล้ว
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 81,351 คัน เท่ากับ 18.16% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้น 55.79% จากปีที่แล้ว
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) มีจำนวน 6,803 คัน เท่ากับ 1.52% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้น 311.55% จากปีที่แล้ว
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ REEV (Range-Extended Electric Vehicle) มีจำนวน 580 คัน เท่ากับ 0.19% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้น 100%
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) มีจำนวน 102,370 คัน เท่ากับ 22.85% ของยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ เพิ่มขึ้น 12.82% จากปีที่แล้ว
รถกระบะ มีจำนวน 106,603 คัน ลดลง 15.77% จากระยะเวลาเดียวกัน
รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 534 คัน ปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย
รถกระบะ REEV มีจำนวน 13 คัน ปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย
รถ PPV มีจำนวน 31,360 คัน เพิ่มขึ้น 16.39% จากระยะเวลาเดียวกัน
รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 11,048 คัน ลดลง 10.27% จากระยะเวลาเดียวกัน
รถประเภทอื่น ๆ มีจำนวน 10,020 คัน เพิ่มขึ้น 3.22% จากระยะเวลาเดียวกัน