ภาวะอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ของประเทศไทย เดือนตุลาคม 2563
อุตสาหกรรมแม่พิมพ์ภาพรวมในเดือนตุลาคม 2563 ประเทศไทยมีการนำเข้าและส่งออกขยับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ยังมีการขาดดุลการค้ามูลค่า 1,111 ล้านบาท โดยแม่พิมพ์ยางและพลาสติกเป็นกลุ่มที่ขาดดุลสูงสุด 815 ล้านบาท
ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรม สถาบันไทย-เยอรมัน (TGI) ได้จัดทำรายงานภาวะอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ในเดือนตุลาคม 2563 การนำเข้าและส่งออกขยับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย เนื่องจากประเทศไทยยังคงเป็นฐานการผลิตหลักที่ต้องใช้แม่พิมพ์จากต่างประเทศ จึงยังคงภาวะขาดดุลการค้า (Trade Balance) มูลค่า 1,111 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.7% จากเดือนก่อนหน้า แต่ลดลง 41.3% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยแม่พิมพ์ยางและพลาสติกเป็นกลุ่มที่ขาดดุลสูงสุด 815 ล้านบาท
การส่งออกแม่พิมพ์ในเดือนตุลาคม 2563 ประเทศไทยส่งออกแม่พิมพ์เป็นมูลค่ารวม 851 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 27.9% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 โดยไทยส่งออกแม่พิมพ์ไปยังประเทศญี่ปุ่นมากเป็นอันดับ 1 คิดเป็น 22% รองลงมาเป็นแอฟฟริกาใต้ 13% และเวียดนาม 12%
การนำเข้าแม่พิมพ์ในเดือนตุลาคม 2563 มีมูลค่ารวม 1,962 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% จากเดือนก่อนหน้า แต่ลดลง 23.3% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีแล้ว โดยเป็นการนำเข้าในกลุ่มแม่พิมพ์ยางและพลาสติกเป็นหลัก มีมูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ราว 1,252 ล้านบาท โดย 3 ประเทศหลักที่ไทยนำเข้าแม่พิมพ์มา ได้แก่ ญี่ปุ่น 38%, จีน 36%, และเกาหลีใต้ 11%
อ่านบทความ และรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : www.tgi.or.th