ยอดจดทะเบียนธุรกิจใหม่ปี 2565 เพิ่มขึ้น 5%

ยอดจดทะเบียนธุรกิจใหม่ปี 2565 เพิ่มขึ้น 5%

อัปเดตล่าสุด 26 ม.ค. 2566
  • Share :
  • 3,142 Reads   

ยอดจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่ ปี 2565 รวม 76,488 ราย เพิ่มขึ้น 5% สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ ธุรกิจในภัตตาคาร/ร้านอาหาร

วันที่ 25 มกราคม 2566 นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แถลงข่าวการจดทะเบียนธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประจำเดือนธันวาคม 2565 และปี 2565 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

 
ธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนธันวาคม 2565

จำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่  มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ ในเดือนธันวาคม 2565 จำนวน 4,008 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 21,215.60 ล้านบาท

ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 352 ราย คิดเป็น 9% รองลงมา คือ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 318 ราย คิดเป็น 8% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจในภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 201 ราย คิดเป็น 5% ตามลำดับ

ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน  โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 2,379 ราย คิดเป็น 59.36% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 1,526 ราย คิดเป็น 38.07% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 86 ราย คิดเป็น 2.15% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 17 ราย คิดเป็น 0.42% ตามลำดับ

ธุรกิจจัดตั้งใหม่ปี 2565

จำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศปี 2565 จำนวน 76,488 ราย เมื่อเทียบกับปี 2564 จำนวน 72,958 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 3,530 ราย คิดเป็น 5% และเมื่อเทียบปี 2563 จำนวน 63,340 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 13,148 ราย คิดเป็น 21%

ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 7,061 ราย คิดเป็น 9% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 4,833 ราย คิดเป็น 6% และธุรกิจในภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 3,014 ราย คิดเป็น 4% ตามลำดับ

มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ในปี 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 429,828.81 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2564 จำนวน 229,808.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 200,020.30 ล้านบาท คิดเป็น 87.04% และเมื่อเทียบกับปี 2563 จำนวน 235,278.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 194,550.08 ล้านบาท คิดเป็น 82.69%

ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่     ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 52,674 ราย คิดเป็น 68.84% รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 22,583 ราย คิดเป็น 29.52% รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 1,014 ราย คิดเป็น 1.33% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 217 ราย คิดเป็น 0.28% 

ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนธันวาคม 2565

จำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ประจำเดือนธันวาคม 2565 มีจำนวน 5,784 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 22,069.76 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา 

ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 514 ราย  คิดเป็น 9% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 241 ราย คิดเป็น 4% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 167 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ

ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 4,125 ราย คิดเป็น 71.32% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 1,407 ราย คิดเป็น 24.33% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 234 ราย คิดเป็น 4.04% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 18 ราย คิดเป็น 0.31% ตามลำดับ

ธุรกิจเลิกประกอบกิจการปี 2565

จำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ประจำปี 2565 มีจำนวน 21,880 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 127,048.39 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา 

ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 2,012 ราย คิดเป็น 9% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 1,023 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 623 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ

ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน  โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 15,649 ราย คิดเป็น 71.52% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1- 5  ล้านบาท จำนวน 5,200 ราย คิดเป็น 23.77% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 916 ราย คิดเป็น 4.19% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 115 ราย คิดเป็น 0.53% ตามลำดับ 

ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนธันวาคม 2565

ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น  (ณ วันที่ 31 ธ.ค. 65) ธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 850,480 ราย มูลค่าทุน 21.19 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 200,437 ราย คิดเป็น 23.57% บริษัทจำกัด จำนวน 648,661 ราย คิดเป็น 76.27% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,382 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ

ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่แบ่งตามช่วงทุน  ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 499,669 ราย คิดเป็น 58.75% รวมมูลค่าทุน 0.44 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.07% รองลงมา คือ ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 257,061 ราย คิดเป็น 30.22% รวมมูลค่าทุน 0.88 ล้านล้านบาท คิดเป็น 4.13% ช่วงถัดไปคือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 76,340 ราย คิดเป็น 8.98% รวมมูลค่าทุน 2.10 ล้านล้านบาท คิดเป็น 9.89%  และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 17,410 ราย คิดเป็น 2.05% รวมมูลค่าทุน 17.78 ล้านล้านบาท คิดเป็น 83.91% ตามลำดับ

การลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าว

เดือนธันวาคม 2565  มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น มีจำนวน 53 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจจำนวน 20 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจจำนวน 33 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 16,308 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 170% จากเดือนพฤศจิกายน 2565 (เพิ่มขึ้น 10,279 ล้านบาท)

นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ได้แก่ ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 14 ราย เงินลงทุน 515 ล้านบาทรองลงมา ได้แก่ สิงคโปร์ จำนวน 13 ราย เงินลงทุน 3,894 ล้านบาท และจีน จำนวน 6 ราย เงินลงทุน 629 ล้านบาท ตามลำดับ

ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม 2565 มีคนต่างชาติได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในไทย จำนวน 583 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 128,774 ล้านบาท

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH