รถยนต์ เดือน มี.ค. ขายลดลง 11.96% จากเดือนก่อน

อัปเดตล่าสุด 25 เม.ย. 2563
  • Share :

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยยอดขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ภายในประเทศ ประจำเดือนมีนาคม 2563 ดังต่อไปนี้

ยอดขายรถยนต์ มีจำนวนทั้งสิ้น 60,105 คัน ลดลง 41.74% (MoM) และลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2563 11.96% ยอดขายภายในประเทศลดลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 

สำหรับภาพรวมตั้งแต่เดือนมกราคม - มีนาคม 2563 รถยนต์มียอดขาย 200,064 คัน ลดลง 24.09% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 

ยอดขายรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 146,740 คัน ลดลง 12.54% (MoM) แต่เพิ่มขึ้น 5.57% จากเดือนกุมภาพันธ์ 2563 

สำหรับภาพรวมตั้งแต่เดือนมกราคม - มีนาคม 2563 รถจักรยานยนต์มียอดขาย 430,730 คัน ลดลง 6.78% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 

นอกจากนี้ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้รายงานสถานการณ์ตลาดรถยนต์และส่วนแบ่งตลาดในเดือนมีนาคม 2563  จากตัวเลขยอดขายรวม 60,105 คัน ซึ่งลดลง 41.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 48.3% และตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 37.6% สืบเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลต่อการดำเนินชีวิต การทำธุรกิจ และภาวะเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม ด้วยหลายเหตุปัจจัยทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นความสนใจในการซื้อรถใหม่จึงชะลอตัว และผู้บริโภคยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย 

ในส่วนของตลาดรถยนต์สะสม 3 เดือน มีปริมาณการขาย 200,064 คัน ลดลง 24.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 23.6% ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 24.4% เป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 นอกจากส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศและระดับโลก ยังส่งผลต่อภาพรวมของตลาดรถยนต์ แต่อย่างไรก็ตามค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ยังคงพยายามหามาตรการเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะการนำเสนอผลิตภัณฑ์และกิจกรรมส่งเสริมการขายให้กับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ดังนั้นแนวโน้มของตลาดรถยนต์ในเดือนเมษายนยังคงต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด  

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมีนาคม 2563

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 60,105 คัน ลดลง 41.7%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 17,332 คัน ลดลง 48.9% ส่วนแบ่งตลาด 28.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 13,629 คัน ลดลง 21.8% ส่วนแบ่งตลาด 22.7%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 7,506 คัน ลดลง 31.9% ส่วนแบ่งตลาด 12.5%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 20,698 คัน ลดลง 48.3%                                 

อันดับที่ 1 ฮอนด้า 6,070 คัน ลดลง 25.5% ส่วนแบ่งตลาด 29.3%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 5,406 คัน ลดลง 55.6% ส่วนแบ่งตลาด 26.1%
อันดับที่ 3 มาสด้า 2,161 คัน ลดลง 56.5% ส่วนแบ่งตลาด 10.4%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 39,407 คัน ลดลง 37.6%                     

อันดับที่ 1 อีซูซุ 13,629 คัน ลดลง 21.8% ส่วนแบ่งตลาด 34.6%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 11,926 คัน ลดลง 45.2% ส่วนแบ่งตลาด 30.3%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 2,930 คัน ลดลง 47.5% ส่วนแบ่งตลาด  7.4%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 30,296 คัน ลดลง 41.8%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 12,634 คัน ลดลง 21.9% ส่วนแบ่งตลาด 41.7%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 10,349 คัน ลดลง 46.3% ส่วนแบ่งตลาด 34.2%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 2,930 คัน ลดลง 47.5% ส่วนแบ่งตลาด 9.7%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 3,081 คัน
โตโยต้า 962 คัน, มิตซูบิชิ 773 คัน, อีซูซุ 640 คัน, ฟอร์ด 419  คัน, เชฟโรเลต 228 คัน, และนิสสัน 59 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 27,215 คัน ลดลง 39.5%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 11,994 คัน ลดลง 19.7% ส่วนแบ่งตลาด 44.1%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 9,387 คัน ลดลง 41.6% ส่วนแบ่งตลาด 34.5%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 2,157 คัน ลดลง 46.8% ส่วนแบ่งตลาด  7.9%

 

อ่านต่อ: ยอดขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เดือน ก.พ. 2563