รายงานภาวะอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ของประเทศไทย ประจำเดือนเมษายน 2563
อุตสาหกรรมแม่พิมพ์ภาพรวมในเดือนเมษายน 2563 ประเทศไทยมีการนำเข้าและส่งออกขยับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ยังมีการขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า
ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรม สถาบันไทย-เยอรมัน (TGI) ได้จัดทำรายงานภาวะอุตสาหกรรมแม่พิมพ์รายเดือน โดยในเดือนเมษายน 2563 การนำเข้าและส่งออกขยับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย เนื่องจากประเทศไทยยังคงเป็นฐานการผลิตหลักที่ต้องใช้แม่พิมพ์จากต่างประเทศ จึงยังคงภาวะขาดดุลการค้า (Trade Balance) มูลค่า 1,734 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากเดือนก่อนหน้า แต่ลดลง 4% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยแม่พิมพ์ยางและพลาสติกเป็นกลุ่มที่ขาดดุลสูงสุด 1,155 ล้านบาท
ในเดือนเมษายน 2563 ประเทศไทยส่งออกแม่พิมพ์เป็นมูลค่ารวม 854 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 27% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยไทยส่งออกแม่พิมพ์ไปยังประเทศเวียดนามมากเป็นอันดับ 1 คิดเป็น 22% รองลงมาเป็นญี่ปุ่น 21% และจีน 10%
สำหรับการนำเข้าแม่พิมพ์ในเดือนเมษายน 2563 มีมูลค่ารวม 2,588 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีแล้ว โดยเป็นการนำเข้าในกลุ่มแม่พิมพ์ยางและพลาสติกเป็นหลัก มีมูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ราว 1,497 ล้านบาท โดย 3 ประเทศหลักที่ไทยนำเข้าแม่พิมพ์มา ได้แก่ จีน 47%, ญี่ปุ่น 32%, และเกาหลีใต้ 9%
อ่านบทความ และรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : www.tgi.or.th
อ่านต่อ:
- รายงานภาวะอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ของประเทศไทย ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2563
- ส่องสถานการณ์อุตสาหกรรมแม่พิมพ์ไตรมาส 3 ปี 62 สะท้อนอนาคตอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ไทย
- รายงานภาวะอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ ประจำเดือนตุลาคม ปี2562