อัปเดตสถานการณ์และภาวะอุตสาหกรรมพลาสติกไทย เดือนเมษายน 2563
ศูนย์ข้อมูลและวิจัยอุตสาหกรรมพลาสติก สถาบันพลาสติก โดยนายศตพร สภานุชาต ผู้จัดการศูนย์ฯ ได้ออกบทวิเคราะห์และจัดทำ ภาพรวมอุตสาหกรรมพลาสติกไทย เดือนเมษายน 2563 (Thailand Plastics Industry Snapshot March 2020) ดังนี้
จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงทรุดตัวต่อเนื่องในอัตรา -20.9% MoM มีราคาเฉลี่ย ณ เดือนเมษายน 2020 ที่ 24.7 USD/Barrel แม้ว่าเหตุการณ์สงครามราคาน้ำมันจะเริ่มคลีคลาย กลุ่ม OPEC และประเทศพันธมิตรกลับมาเจรจาเพื่อควบคุมระดับราคาน้ำมันดิบ พร้อมมีแผนลดกำลังการผลิตต่อเนื่องถึงช่วงเมษายน 2021 แต่ผลกระทบจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในหลายประเทศทั่วโลก ยังคงส่งผลให้ความต้องการบริโภคน้ำมันลดต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งกลายเป็นปัจจัยหลักที่เข้ากดดันราคาน้ำมันดิบในช่วงเวลานี้ ทางด้านทิศทางราคาเม็ดพลาสติก แม้ว่าในช่วงต้นเดือนราคามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ จาก Demand ในประเทศจีนที่เริ่มฟื้นตัว แต่ทิศทางราคาเม็ดพลาสติกในภาพรวมยังคงอ่อนตัวตามราคาน้ำมันดิบและระดับความต้องการที่เบาบางทำให้คาดว่าทิศทางราคาเม็ดพลาสติกมีแนวโน้มทรงตัวถึงอ่อนตัวเล็กน้อย
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมกลุ่มเม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติกภาพรวมหดตัวลงจากเดือนที่ผ่านมาทั้งในกลุ่มเม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์ ในขณะที่ดัชนีสินค้าคงคลังภาพรวมปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบทุกรายการ ทางด้านการส่งออกในกลุ่มเม็ดพลาสติกขยายตัวได้ +3.69% MoM จาก Demand ที่กลับมาของประเทศจีนส่งผลให้ระดับการส่งออกเม็ดพลาสติกไปตลาดจีนมีมูลค่าอยู่ในระดับปกติที่เฉลี่ย 8,300 ล้านบาท/เดือน (ค่าเฉลี่ยปี 2562) ในทางกลับกันการส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติกหดตัว -14.2% MoM จากการหดตัวในตลาดอาเซียนในอัตรา -26.3% MoM และตลาดสำคัญอย่างอินเดีย ญี่ปุ่น เป็นต้น ทั้งนี้ หากพิจารณามูลค่าการส่งออกสะสม 4 เดือนแรกของอุตสาหกรรมพลาสติกพบว่า ยังคงชะลอตัวจากปีที่ผ่านมาทั้งในกลุ่มเม็ดพลาสติกหดตัวในอัตรา -19.2% YoY และผลิตภัณฑ์พลาสติกหดตัวในอัตรา -3.7% YoY อย่างไรก็ตาม ภาวะการส่งออกในช่วงระยะเวลานี้ยังมีความสัมพันธ์กับผลกระทบจากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 เป็นปัจจัยหลัก ยังคงส่งผลกระทบโดยตรงต่อระดับความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคและความสามารถทางการส่งออกสินค้า
โดยภาพรวมแล้วจะเห็นได้ว่าตัวเลขของอุตสาหกรรมพลาสติกไทยยังคงอยู่ในคำนิยามว่า “อ่อนตัว” เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ ซึ่งการอ่อนตัวดังกล่าวยังคงเป็นผลทางตรงจากภาวะเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบันที่ยังไม่สู้ดีนัก ดัชนีสะท้อนภาวะทางธุรกิจหลายตัวส่งสัญญาณเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญ อาทิ Global PMI หดตัวจากเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ ระดับที่ 39.8 จุด ซึ่งใกล้เคียงกับวิกฤตในช่วงเวลา Subprime Crisis ในปี 2008 ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอ่อนตัวแตะระดับที่ 75.9 จุด เกิดจากการหดตัวของดัชนีองค์ประกอบย่อยในทุกรายการ อาทิ คำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ผลประกอบการ เป็นต้น สำหรับการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจในอนาคตจะดีขึ้นหรือทรุดตัวลงอีก ต้องพิจารณาจากความสามารถในการปรับตัวของการใช้ชีวิตและการประกอบการในบริบท “New Normal” ต่อไป
อ่านบทความและข่าวสารเพิ่มเติม https://www.thaiplastics.org/