ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม 2564 กุมภาพันธ์

ดัชนีความเชื่อมั่นอุตฯ ก.พ.64 เริ่มฟื้น วอนรัฐเร่งฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยงสูง-อนุญาตเอกชนนำเข้า

อัปเดตล่าสุด 19 มี.ค. 2564
  • Share :

ดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรม เดือนกุมภาพันธ์ 2564 อยู่ที่ 85.1 ปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 83.5 ในเดือนก่อน หลังผ่อนคลายมาตรการควบคุม COVID-19 วอนรัฐเร่งฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยงสูง - อนุญาตเอกชนนำเข้าวัคซีน

วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 อยู่ที่ระดับ 85.1 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 83.5 ในเดือนมกราคม 2564 โดยค่าดัชนีฯ โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากภาคการผลิตกลับมาขยายตัวตามอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น

โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ของภาครัฐ อาทิ การอนุญาตให้สถานศึกษาเปิดเรียนตามปกติ การขยายเวลานั่งรับประทานในร้านอาหารถึง 23.00 น.รวมทั้งอนุญาตให้กิจการบางประเภทเปิดดำเนินการได้ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ มาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจาก  การระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ผ่านโครงการต่างๆ อาทิ โครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ รวมทั้งการเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศอย่างต่อเนื่อง ในด้านการส่งออกมี คำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า รวมทั้งความคืบหน้าในการกระจายวัคซีนโควิด-19 ในประเทศต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจการค้าโลกมีทิศทางที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการส่งออกยังคงประสบปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งเป็นปัญหาต่อเนื่อง รวมทั้งอัตราค่าระวางเรือที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มขึ้น ขณะที่การแข็งค่าของเงินบาทมากกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคบั่นทอนความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของผู้ส่งออก

จากการสำรวจผู้ประกอบการ 1,403 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมทั่วประเทศในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 พบว่า

- ปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้น ได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยน (มุมมองผู้ส่งออก) โดยอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ร้อยละ 55.4, ราคาน้ำมัน ร้อยละ 47.1 และสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ร้อยละ 42.5

- ส่วนปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความกังวลลดลง ได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจโลก ร้อยละ 68.5, และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ร้อยละ 35.1 ตามลำดับ

สำหรับดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 92.0 จากระดับ 91.1 ในเดือนมกราคม 2564 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมทั้งความคืบหน้าในการจัดหาและกระจายวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนในประเทศ ขณะที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวจากผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและภาค การผลิตขยายตัว รวมทั้งประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ อาทิ สหรัฐฯ และจีน มีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
 
สำหรับข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ สภาอุตสาหกรรมฯ ขอเสนอให้ภาครัฐ 

1. เร่งรัดการฉีดวัคซีน COVID-19 ให้เป็นไปตามแผนโดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง
2. อนุญาตให้เอกชนนำเข้าวัคซีน COVID-19 ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับ อย.แล้ว เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระภาครัฐและช่วยให้การฉีดวัคซีนเร็วขึ้น
3. ภาครัฐควรดำเนินมาตรการฟื้นฟูผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องหลังจากมีการฉีดวัคซีน COVID-19 ตามแผนให้แก่ประชาชนแล้ว
4. เร่งแก้ไขปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ของผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม
5. เร่งแก้ไขปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ที่ยังเป็นปัญหาต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออก

ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมฯ ได้ทำการรวบรวมข้อมูลผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม และข้อมูลตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมจากหน่วยงานต่าง ๆ ย้อนหลัง 3 ปี จัดทำเป็น Dashboard เผยแพร่ในเว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม Industry Data Space (iDS) ของสภาอุตสาหกรรมฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการและบุคคลทั่วไปให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ โดยสามารถเข้าไปใช้บริการข้อมูลดังกล่าวได้ที่ www.fti.or.th/ids

อ่านต่อ: