ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย ไตรมาส 4/2564
กองวิจัยเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผย รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในไตรมาสที่ 4 ปี 2564 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) อยู่ที่ 100.71 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา ร้อยละ 10.76 และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2563 ร้อยละ 4.9
ผลผลิตมวลรวมของภาคอุตสาหกรรม ไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 ขยายตัวเร่งขึ้นอย่างมีนัยสําคัญจากไตรมาสก่อนหน้า และช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยขยายตัวตามความต้องการสินค้าและบริการทั้งในประเทศและต่างประเทศปรับตัวดีขึ้นในตลาดคู่ค้าของไทยจากสินค้าคงทน เช่น ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์
อิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว และการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่การผลิตโรงงาน
อุตสาหกรรมสถานประกอบการต่าง ๆ ยังคงดําเนินการอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง
GDP ภาคอุตสาหกรรม ไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 ขยายตัวร้อยละ 3.8 ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ 0.9 และขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่หดตัวร้อยละ 0.4
ดัชนีอุตสาหกรรมที่สําคัญ
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ไตรมาสที่ 4 ปี 2564 อยู่ที่ระดับ 100.71 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา (90.93) ร้อยละ 10.76 และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2563 (95.99) ร้อยละ 4.9
- อุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา ได้แก่ การผลิตยานยนต์ การผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม และการผลิตน้ำตาล เป็นต้น
- อุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า ได้แก่ การผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม การผลิตชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์และการผลิตยานยนต์ เป็นต้น
ดัชนีการส่งสินค้า ไตรมาสที่ 4 ปี 2564 อยู่ที่ระดับ 102.36 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา (92.5) ร้อยละ 10.7 และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2563 (97.40) ร้อยละ 5.1
- อุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีการส่งสินค้าเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา ได้แก่ การผลิตยานยนต์ การผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม และการผลิตมอลต์และสุราที่ทําจากข้าวมอลต์ เป็นต้น
- อุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีการส่งสินค้าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า ได้แก่ การผลิตยานยนต์ การผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม และการผลิตชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง ไตรมาสที่ 4 ปี 2564 ดัชนีอยู่ที่ระดับ 154.22 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา (150.81) ร้อยละ 2.3 และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2563 (127.32) ร้อยละ 21.1
- อุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา ได้แก่ การผลิตคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง การผลิตยานยนต์ และการผลิตชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
- อุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลังเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า ได้แก่ การผลิตยานยนต์ การผลิตคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง และการผลิตผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ เป็นต้น
อัตราการใช้กำลังการผลิต ไตรมาสที่ 4 ปี 2564 อยู่ที่ระดับร้อยละ 65.43 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา (ร้อยละ 59.34) และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2563 (ร้อยละ 63.71)
- อุตสาหกรรมที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา ได้แก่ การผลิตยานยนต์ การผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม และการผลิตจักรยานยนต์ เป็นต้น
- อุตสาหกรรมที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า ได้แก่ การผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม และการผลิตยานยนต์ และการผลิตเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ไตรมาสที่ 4 ปี 2564 มีค่าดัชนี 84.77 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา (78.23) และลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี 2563 (86.40) ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ล่วงหน้า 3 เดือน อยู่ที่ระดับ 95.83 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2563 (92.90)
ปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อการลดลงของความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในช่วงไตรมาส 3 ปี 2564 เป็นผลจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มีทิศทางดีขึ้นจํานวนผู้ติดเชื้อรายวันลดลง รวมทั้งผู้ได้รับวัคซีนมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว และการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวแบบ test and go เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 รวมทั้งอุปสงค์ทั้งภายในและต่างประเทศขยายตัวต่อเนื่องในสินค้าคงทน อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักรกลโลหะการ เป็นต้น
แม้ว่าในช่วงเดือนธันวาคมเกิดการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 (สายพันธุ์โอไมครอน) เป็นระลอกที่ 5 ในต่างประเทศ (แอฟริกา) และเริ่มกระจายวงกว้างในหลายประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ดียังมีปัจจัยเสี่ยงที่ผู้ประกอบการมีความกังวล อาทิเช่น ปัญหาต้นทุนประกอบการที่สูงขึ้นจากราคาพลังงาน (นํ้ามัน) ราคาวัตถุดิบ ราคาค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทรนเนอร์และอัตราการระวางเรือขนส่งสินค้าทางทะเลที่ยังคงอยู่ระดับสูงต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี 2564 ปัญหาขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่กระทบห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ทั้งในอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
อ่านต่อ:
- ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย ไตรมาส 4/2563
- ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย ไตรมาส 1/2564
- ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย ไตรมาส 2/2564
- ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย ไตรมาส 3/2564
บทความยอดนิยม 10 อันดับ
- 10 ตัวอย่างที่นำ 5G มาใช้งานได้อย่างน่าสนใจและประสบผลสำเร็จ
- เทคโนโลยีแห่ง G สู่ 5G เครือข่ายไร้สาย
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคืออะไร ตลาดจะก้าวไปในทางไหนในปี 2030?
- เทคโนโลยีสำหรับโลจิสติกส์ ทางเลือกสู่ทางรอด ปรับก่อนโดนเบียด
- นิยามใหม่ SME ใช้ “รายได้” เป็นตัวกำหนด
- ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ปี 2564
- กลยุทธ์การ PR และ Communication ในยุคดิจิทัล
- ปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน เจาะลึกตู้สินค้าหายไปไหน?
- เทรนด์การทำงานในอนาคต หลังไทยติดโควิด นานเกือบสองปี!
- FTA ไทย มีกี่ประเทศ พอหรือไม่ ทำไมต้องคิดเรื่อง CPTPP
อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th
Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH