ดัชนีราคาผู้ผลิตไทย 2565 เดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 13.8% ภาพรวมครึ่งปีแรกเพิ่ม 11.5%
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยสรุปรายงานดัชนีราคาผู้ผลิตของประเทศไทย เดือนมิถุนายน 2565 อยู่ที่ระดับ 116.2 เพิ่มขึ้น 13.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ภาพรวมครึ่งปีแรก (มกราคม - มิถุนายน) เพิ่มขึ้น 11.5%
ดัชนีราคาผู้ผลิต แบ่งตามกิจกรรมการผลิต (CPA : Classification of Products by Activity) เดือนมิถุนายน 2565 (ปี 2558 = 100) เท่ากับ 116.2 เทียบกับเดือนมิถุนายน 2564 สูงขึ้นร้อยละ 13.8 (YoY) เป็นผลมาจากการปรับสูงขึ้นของราคาวัตถุดิบ และต้นทุนด้านพลังงาน ทั้งราคาน้ำมันและค่าไฟฟ้า ประกอบกับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากทั่วโลกมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยราคาสินค้าของผู้ผลิตมีการปรับสูงขึ้นทั้ง 3 หมวดหลัก ประกอบด้วย
Advertisement | |
- หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 12.9 จากกลุ่มสินค้าสำคัญ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ผลิตภัณฑ์อาหาร เคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่น ๆ
- หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง สูงขึ้นร้อยละ 54.0 จากสินค้าสำคัญ ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ และแร่โลหะ
- หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง สูงขึ้นร้อยละ 9.1 เป็นผลจากสินค้าสำคัญ ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า หัวมันสำปะหลังสด ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พืชผัก ผลปาล์มสด ยางพารา สุกรมีชีวิต ไก่มีชีวิต ไข่ไก่ และผลิตภัณฑ์จากการประมง
ขณะที่ ดัชนีราคาผู้ผลิต แบ่งตามขั้นตอนการผลิต (SOP : Stage of Processing) พบว่าดัชนีหมวดสินค้าสำเร็จรูป หมวดสินค้ากึ่งสำเร็จรูป (แปรรูป) และหมวดสินค้าวัตถุดิบ สูงขึ้นร้อยละ 5.8 25.2 และ 29.9 ตามลำดับ โดยมีสินค้าสำคัญในห่วงโซ่อุปทาน ที่ราคาปรับสูงขึ้นตามวัตถุดิบ ได้แก่ ผลปาล์มสด น้ำมันปาล์มดิบ น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ หัวมันสำปะหลังสด มันเส้น/มันอัดเม็ด/แป้งมันสำปะหลัง อ้อย น้ำตาลทรายดิบ น้ำตาลทรายขาว และ น้ำยางสด/ยางแผ่นดิบ ยางแผ่นรมควัน/ยางแท่ง ยางล้อ/ยางรัดของ เนื่องจากความต้องการของตลาดยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม MPI ปี 2565 เม.ย. หดตัวจากเดือนก่อน ภาพรวม 4 เดือนแรกขยายตัว 1.37%
- ดัชนีราคาผู้ผลิตไทย 2565 เดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 12.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรกลญี่ปุ่น 2565 เดือนเมษายน โตทั่วโลก 25% ไม่เจอชิ้นส่วนขาด-ล็อกดาวน์จีน
ดัชนีราคาผู้ผลิต 2565 เดือนมิถุนายน เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน (YoY) สูงขึ้นร้อยละ 13.8 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายหมวด ดังนี้
-
หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 12.9 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91, 95 น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันเตา และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ซึ่งเป็นไปตามทิศทางราคาน้ำมันและก๊าซในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร ได้แก่ เนื้อสุกร ไก่สด น้ำมันปาล์ม มันเส้น ปลาทูน่ากระป๋อง น้ำมันถั่วเหลืองบริสุทธิ์ และน้ำสับปะรด เนื่องจากราคาวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์รวมทั้งค่าขนส่งวัตถุดิบปรับสูงขึ้น ประกอบกับปริมาณวัตถุดิบมีน้อย ขณะที่ความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศอยู่ในระดับสูง น้ำตาลทราย ราคาปรับตัวตามภาวะราคาตลาดโลก กลุ่มเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี ได้แก่ เม็ดพลาสติก โซดาไฟ และปุ๋ยเคมีผสม เนื่องจากราคาวัตถุดิบและราคาอ้างอิงตลาดต่างประเทศปรับสูงขึ้น กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์) จากการปรับโครงสร้างต้นทุนสินค้าใหม่ และเงินบาทที่อ่อนค่าลง กลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้แก่ ทองคำ เนื่องจากราคาปรับตามตลาดโลก กลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ได้แก่ ยางแท่ง ถุงพลาสติก บรรจุภัณฑ์พลาสติกอื่นๆ ยางแผ่นรมควัน ท่อพลาสติก และข้อต่อพลาสติก เนื่องจากราคาวัตถุดิบปรับสูงขึ้น กลุ่มยานยนต์ ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ ได้แก่ รถยนต์นั่ง รถบรรทุก และชิ้นส่วนและอุปกรณ์สำหรับรถยนต์ เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ประกอบกับผู้ผลิตบางรายมีการปรับเปลี่ยนรถเป็นรูปโฉมใหม่ นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับราคาสูงขึ้นตามราคาวัตถุดิบและต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิตอื่นๆ ทั้งราคาน้ำมันและค่าไฟฟ้า ประกอบด้วย กลุ่มเครื่องจักรและเครื่องมือ ได้แก่ เครื่องสูบน้ำ และเครื่องเก็บเกี่ยว กลุ่มสิ่งทอ ได้แก่ สิ่งทอจากฝ้าย (ด้าย/ผ้า) และสิ่งทอจากใยสังเคราะห์ (เส้นใย/ด้าย/ผ้า) กลุ่มโลหะขั้นมูลฐาน ได้แก่ เหล็กแผ่น เหล็กลวด เหล็กเส้น ลวดแรงดึงสูง และเหล็กฉาก กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแร่อโลหะ ได้แก่ ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ เสาเข็มคอนกรีต คอนกรีตผสมเสร็จ กระเบื้องปูพื้น-บุผนัง ท่อคอนกรีต และแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป กลุ่มกระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ ได้แก่ เยื่อกระดาษ กระดาษคร๊าฟท์ และกล่องกระดาษ และกลุ่มผลิตภัณฑ์โลหะประดิษฐ์ ได้แก่ ประตูเหล็ก กระป๋อง กุญแจ และตะปู/สกรู/น๊อต
- หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง สูงขึ้นร้อยละ 54.0 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ ได้แก่ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันปิโตรเลียมดิบ และแร่โลหะ (แร่เหล็ก ดีบุก สังกะสี วุลแฟรม) ตามทิศทางราคาตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้น เนื่องจากอุปทานของน้ำมันดิบลดลง ซึ่งเป็นผลจากมาตรการคว่ำบาตรการนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย ในขณะที่กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันโอเปกพลัสยังคงประสบปัญหาในการเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้ตามเป้าหมาย
- หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง สูงขึ้นร้อยละ 9.1 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ประกอบด้วย กลุ่มพืชล้มลุก ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า และหัวมันสำปะหลังสด เนื่องจากความต้องการของตลาดต่างประเทศยังมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากยังมีความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนวัตถุดิบอาหารสัตว์อื่นที่ราคาสูงกว่า พืชผัก (พริกสด ต้นหอม หน่อไม้ฝรั่ง กระเทียม มะเขือ พริกชี้ฟ้าสด) เนื่องจากปริมาณผลผลิตลดลง กลุ่มไม้ยืนต้น ได้แก่ ผลปาล์มสด เนื่องจากผลผลิตปาล์มน้ำมันที่ออกสู่ตลาดยังมีปริมาณไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลก ยางพารา เนื่องจากความต้องการใช้ยางพาราที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มสัตว์ ได้แก่ สุกรมีชีวิต เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง ประกอบกับต้นทุนการเลี้ยงที่สูงขึ้นส่งผลให้เกษตรกรชะลอการเลี้ยง ไก่มีชีวิต ไข่ไก่ และไข่เป็ด เนื่องจากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้นจากมาตรการเปิดประเทศ กลุ่มผลิตภัณฑ์จากการประมง ได้แก่ ปลาหมึกกล้วย กุ้งแวนนาไม ปลาทรายแดง ปูม้า กุ้งทะเล ปลาดุก และปลานิล เนื่องจากความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้นจากมาตรการเปิดประเทศ ส่งผลให้ผู้ประกอบการร้านอาหารและสถานบันเทิงเริ่มกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ
ดัชนีราคาผู้ผลิต 2565 เดือนมิถุนายน เทียบกับเดือนก่อนหน้า (MoM) สูงขึ้นร้อยละ 1.0 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายหมวด ดังนี้
-
หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 1.8 จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91, 95 น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันก๊าด และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ซึ่งราคาเคลื่อนไหวตามภาวะตลาดโลก เนื่องจากอุปทานน้ำมันโลก มีแนวโน้มตึงตัวต่อเนื่อง จากผลของมาตรการคว่ำบาตรประเทศรัสเซีย ประกอบกับประเทศจีนและสหรัฐมีความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้ราคาสูงขึ้น กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร ได้แก่ ไก่สด เนื้อสุกร ข้าวสารเจ้า น้ำตาลทราย ข้าวนึ่ง น้ำมันถั่วเหลืองบริสุทธิ์ และกุ้งแช่แข็ง เนื่องจากวัตถุดิบสินค้าเกษตร บรรจุภัณฑ์ และค่าขนส่ง มีการปรับราคาสูงขึ้น ประกอบกับได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทอ่อนค่า กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์) ราคาปรับสูงขึ้นตามค่าเงินบาทที่อ่อนค่า กลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้แก่ ทองคำ เนื่องจากราคาปรับตามตลาดโลก
- หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง สูงขึ้นร้อยละ 10.3 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ และแร่โลหะ (แร่สังกะสี วุลแฟรม) ตามภาวะตลาดโลก
- หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง ลดลงร้อยละ 0.7 จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ประกอบด้วย กลุ่มไม้ยืนต้น ได้แก่ ยางพารา เนื่องจากปริมาณยางเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ขณะที่ความต้องการใช้ยางชะลอตัว โดยเฉพาะตลาดจีนที่ยังมีปริมาณยางอยู่ในสต็อก ผลปาล์มสด เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ประกอบกับอินโดนีเซียหันมาส่งออกน้ำมันปาล์มอีกครั้ง และมะพร้าวผล เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น กลุ่มพืชล้มลุก ได้แก่ พืชผัก (มะนาว กะหล่ำปลี มะระจีน ผักกวางตุ้ง ขิง ฟักทอง และบวบ) ผลไม้ (ทุเรียน สับปะรดโรงงาน/บริโภค เงาะ กล้วยไข่ และส้มเขียวหวาน) เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก สำหรับสินค้าที่ราคาสูงขึ้น ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรสำคัญบางรายการ ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียว หัวมันสำปะหลังสด กลุ่มสัตว์ ได้แก่ สุกร/ไก่มีชีวิต และผลิตภัณฑ์จากการประมง ได้แก่ ปลาหมึกกล้วย ปูม้า ปลาลัง ปลากะพง และปลาทรายแดง
ดัชนีราคาผู้ผลิต 2565 เฉลี่ย 6 เดือน (ม.ค.- มิ.ย.) เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (AoA) สูงขึ้นร้อยละ 11.5 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายหมวด ดังนี้
- หมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สูงขึ้นร้อยละ 10.5
- หมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง สูงขึ้นร้อยละ 65.0
- หมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง สูงขึ้นร้อยละ 6.2
แนวโน้มดัชนีราคาผู้ผลิต 2565 ไตรมาสที่ 3
ดัชนีราคาผู้ผลิต 2565 ไตรมาสที่ 3 มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะสูงขึ้นในทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มปิโตรเลียมดิบ ก๊าซธรรมชาติ และสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง จากหลายปัจจัย ได้แก่
1) ต้นทุนการผลิต ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบที่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งราคาปุ๋ย อาหารสัตว์ วัตถุดิบ และค่าขนส่ง นอกจากนี้ เงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า ทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าสูงขึ้น
2) ความขัดแย้งในยูเครน และมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งส่งผลต่ออุปทานของสินค้าโภคภัณฑ์
3) อุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว และการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 และ
4) การส่งออกที่ขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์อาหาร ขณะที่มีการจำกัดการส่งออกในหลายประเทศ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ดัชนีราคาผู้ผลิตขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันและผู้ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เริ่มกลับมาสูงขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก อาจส่งผลต่อความต้องการและราคาสินค้า ซึ่งจะกระทบต่อภาคการผลิตและดัชนีราคาผู้ผลิตของประเทศไทย ตามลำดับ ทั้งนี้ จะต้องมีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
#ดัชนีราคาผู้ผลิต 2565 #ดัชนีราคาผู้ผลิต ppi #ดัชนีราคาผู้ผลิต ย้อนหลัง #แนวโน้มดัชนีราคาผู้ผลิต #ดัชนีราคา #ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม #กองดัชนีเศรษฐกิจการค้า #สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า #กระทรวงพาณิชย์
บทความยอดนิยม 10 อันดับ
- 10 ตัวอย่างที่นำ 5G มาใช้งานได้อย่างน่าสนใจและประสบผลสำเร็จ
- เทคโนโลยีแห่ง G สู่ 5G เครือข่ายไร้สาย
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคืออะไร ตลาดจะก้าวไปในทางไหนในปี 2030?
- เทคโนโลยีสำหรับโลจิสติกส์ ทางเลือกสู่ทางรอด ปรับก่อนโดนเบียด
- นิยามใหม่ SME ใช้ “รายได้” เป็นตัวกำหนด
- ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ปี 2564
- กลยุทธ์การ PR และ Communication ในยุคดิจิทัล
- ปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน เจาะลึกตู้สินค้าหายไปไหน?
- เทรนด์การทำงานในอนาคต หลังไทยติดโควิด นานเกือบสองปี!
- FTA ไทย มีกี่ประเทศ พอหรือไม่ ทำไมต้องคิดเรื่อง CPTPP
อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th
Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH