ยอดขายฮอนด้า 2564, ยอดขายรถฮอนด้า 2564, ยอดขายฮอนด้า 2021, ยอดขายรถยนต์, ยอดขายรถยนต์ 2564

ฮอนด้า ครองแชมป์ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลปี'64 ยอดขายรวมกว่า 8.8 หมื่นคัน

อัปเดตล่าสุด 3 ก.พ. 2565
  • Share :
  • 2,517 Reads   

ฮอนด้า (Honda) โกยยอดขายทะลุ 88,000 คัน กวาดส่วนแบ่งตลาด 27.9% ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 2564 ครองแชมป์อันดับหนึ่งต่อเนื่องอีกปี

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2564 สามารถครองอันดับ 1 ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลปี 2564 ในประเทศไทย (มกราคม - ธันวาคม 2564) ด้วยยอดจำหน่ายสะสมรวม 88,692 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 27.9% และครองอันดับ 1 ต่อเนื่องอีกปี อีกทั้งเป็นผู้นำใน 4 เซกเมนต์หลัก ตอกย้ำการเป็นแบรนด์ยอดนิยมในประเทศไทย 

เมื่อวันที่ 24 มกราคมม 2565 ที่ผ่านมา นายโนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2564 ที่ผ่านมา นับเป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับการทำงานในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนการทำงาน ให้สอดคล้องและทันกับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา เพื่อตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเทในการทำงานของฮอนด้า ผู้จำหน่าย และทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุน ส่งผลให้เราได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วประเทศ ด้วยยอดจำหน่ายสะสม 88,692 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่งด้วยสัดส่วนถึง 27.9% (ยอดจำหน่ายสะสมและส่วนแบ่งทางการตลาดนับรวมกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์) ซึ่งในปี 2565 คาดว่าการแพร่ระบาดของ โควิด-19 และเศรษฐกิจจะมีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้น เราขอขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจในแบรนด์ฮอนด้ามาอย่างต่อเนื่อง ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน และหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนที่ดีเช่นนี้ต่อไป

ทั้งนี้ ฮอนด้าสามารถครองอันดับ 1 ใน 4 เซกเมนต์หลัก ได้แก่

1. กลุ่มรถยนต์ซับคอมแพคท์และอีโค ซับคอมแพคท์ ซีดาน (B and B-Eco Sedan segments) ยอดจำหน่ายสะสม 23,490 คัน คิดเป็น 28.2% โดยแบ่งเป็น

  • ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ยอดจำหน่ายสะสม 21,221 คัน
  • ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ยอดจำหน่ายสะสม 2,269 คัน

2. กลุ่มรถยนต์ซับคอมแพคท์และอีโค ซับคอมแพคท์ ซีดานและแฮทช์แบ็ก (B and B-Eco Sedan and Hatchback segments) ยอดจำหน่ายสะสม 47,962 คัน คิดเป็น 29.8% 

  • ฮอนด้า ซิตี้ ซีรีส์ ยอดจำหน่ายสะสม 47,962 คัน

3. กลุ่มรถยนต์คอมแพคท์ (C-segment) ยอดจำหน่ายสะสม 16,092 คัน คิดเป็น 65.9% โดยแบ่งเป็น

  • ฮอนด้า ซีวิค ยังครองความเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่อง ยอดจำหน่ายสะสม 14,755 คัน
  • ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ยอดจำหน่ายสะสม 1,337 คัน

4. กลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ (L-SUV segment) ยอดจำหน่ายสะสม 4,938 คัน คิดเป็น 45.7%

  • ฮอนด้า ซีอาร์-วี ยอดจำหน่ายสะสม 4,938 คัน

นายโนริยุกิ กล่าวด้วยว่า ในปีที่ผ่านมา ฮอนด้าได้นำเสนอระบบการขับขี่ที่ชาญฉลาดและทรงพลังให้กับลูกค้าชาวไทย ด้วยยนตรกรรมฟูลไฮบริด อี:เอชอีวี ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ซึ่งครอบคลุมในหลากหลายเซกเมนต์ ได้แก่ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว รวมทั้ง ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี และ ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี ส่งผลให้ยนตรกรรมอี:เอชอีวี ฟูลไฮบริด ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น โดยสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ทั้งด้านสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง ที่มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย และให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม

สำหรับการดำเนินงานในปี 2565 ฮอนด้าจะยังคงเดินหน้าสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า ด้วยการสร้างสรรค์และพัฒนายนตรกรรมคุณภาพที่ล้ำสมัยที่พร้อมด้วยเทคโนโลยีการขับเคลื่อนและความปลอดภัย โดยมุ่งไปสู่สังคมปลอดมลพิษและสร้างสังคมปลอดอุบัติเหตุ ตามเป้าหมายปี 2593 รวมทั้งยกระดับการบริการหลังการขาย ที่เพิ่มความสะดวกสบายและอุ่นใจในการใช้บริการแบบครบวงจรภายใต้มาตรฐานเดียวกันจากโชว์รูมและศูนย์บริการทั้ง 229 แห่งทั่วประเทศ พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า ด้วยทีมงานที่เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ อีกทั้งแพ็กเกจบริการต่างๆ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในผลิตภัณฑ์และการบริการของฮอนด้า

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH