Lenovo เผยผลประกอบการ ปี 2019 แรงไม่ตก รักษาแชมป์อันดับ 1 ยอดขายคอมพิวเตอร์

อัปเดตล่าสุด 5 มิ.ย. 2563
  • Share :
  • 1,606 Reads   

เลอโนโว (Lenovo Group) เผย รายงานผลประกอบการ ประจำปีงบประมาณ 2019 รายได้ปิดที่ 50,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นรายได้มากกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 มีกำไรก่อนหักภาษีอยู่ที่ 1,020 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 19% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 665 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12% โดยมี PC และ Smart Device ที่ทำยอดขายได้อย่างโดดเด่น และยังคงครองแชมป์ยอดขายเครื่องคอมพิวเตอร์อันดับหนึ่งในตลาด

Yang Yuanqing ประธานและ CEO บริษัทฯ กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมา โลกประสบกับความเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก และผมภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ Lenovo สร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น” และแสดงความมั่นใจว่า ในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ Lenovo จะสามารถก้าวต่อไป พร้อมคว้าโอกาสที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแน่นอน 

Lenovo รายงานว่า ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา มีหลายปัจจัยที่ไม่แน่นอนในภาคอุตสาหกรรม ทั้งอัตราแลกเปลี่ยน, การขาดแคลนสินค้า, และการระบาดของโควิด-19 ในไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ ซึ่งทางบริษัท ได้ปรับเปลี่ยนการผลิตในโรงงานและฐานการผลิตกว่า 30 แห่ง และซัพพลายเออร์ทั่วโลกให้มีความยืดหยุ่น เพื่อให้สามารถผลิตและจัดส่งสินค้าได้ตามความต้องการในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่ง Lenovo เล็งเห็นว่า “New Normal” หลังสิ้นสุดการระบาด จะเป็นโอกาสทางธุรกิจอันดีที่จะกระตุ้นให้บริษัทเติบโตได้ในะระยะยาว เนื่องจากความต้องการ Work From Home และการศึกษาออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่ PC และ Smart Device เท่านั้น แต่จะทำให้ความต้องการ Data Center, โครงสร้างเครือข่ายพื้นฐาน, และการบริโภคผลิตภัณฑ์ดิจิทัล (Digital Consumption) เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

Lenovo เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจ Intelligent Devices Group (IDG) หนึ่งในสองกลุ่มธุรกิจของบริษัท ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ PC และ Smart Device เป็นสินค้าหลัก มีมูลค่ายอดขายราว 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณก่อน 3.6% และครองตำแหน่งผู้นำตลาดได้อีกปีหนึ่งด้วยส่วนแบ่ง 24.5% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 1% ซึ่งเป็นผลจากการลงทุนในเซกเมนต์ที่มีการเติบโตสูง คือ คอมพิวเตอร์เกมมิ่ง, Workstation, คอมพิวเตอร์แล็ปท็อป, และจอภาพ ซึ่งมีการเติบโตถึง 2 หลักทั้งสิ้น

ในทางกลับกัน Mobile Business Group (MBG) อีกหนึ่งธุรกิจหลัก ซึ่งมีผลิตภัณฑ์หลักเป็นสมาร์ทโฟนสามารถทำยอดได้ตามเป้า ยกเว้นในไตรมาสสุดท้าย ซึ่งโรงงานในมณฑลอู่ฮั่นไม่สามารถเดินสายการผลิตได้จากโควิด-19 ทำให้สูญเสียรายได้ถึง 43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่ง Lenovo ตัดสินใจจะผลักดันการพัฒนาสินค้าเพื่อกลับเข้าสู่ตลาดสมาร์โฟนหรู ด้วยสมาร์ทโฟนแบบพับได้ต่อไป

ส่วน Data Center Group (DCG) ทำรายได้ลดลง 8.7% สืบเรื่องจากความต้องการที่ลดลงหลังเพิ่มสูงเป็นพิเศษ และราคาผลิตภัณฑ์ที่ลดลงในตลาด แต่ยังคงเติบโตจากปีที่แล้วถึง 5.3% ซึ่งเป็นผลจากผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐาน, หน่วยความจำ, ซอฟต์แวร์, และบริการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยความจำที่ทำรายได้เพิ่มขึ้นถึง 50% จากปีก่อน และมีการเติบโตถึง 23% ในตลาดจีน และยังครองตำแหน่งผู้นำตลาดด้วยตัวเลขผู้ใช้งาน 173 รายจาก 500 บริษัทชั้นนำทั่วโลก

ในส่วนของธุรกิจอื่น ๆ IoT ทำรายได้เพิ่มขึ้นสูงถึง 296% ในปีงบประมาณที่ผ่านมา โดยมี Augmented Reality / Virtual Reality และ Smart Office เป็นแรงขับหลัก ส่วนโครงสร้างพื้นฐานเติบโต 37% ซอฟต์แวร์ และบริการอื่น ๆ เติบโต 43.2%

ไฮไลต์ไตรมาสที่ 4

ในช่วงไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงการระบาดของโควิด-19 ทำให้บริษัทสูญเสียรายได้ 10,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 9.7% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า แต่กลับสามารถทำกำไรได้มากขึ้น 15%  โดย PC และ Smart Device มียอดขายลดลง ในขณะที่ Data Center ทำยอดขายได้มากขึ้น 14%  อย่างไรก็ตาม Lenovo ยังคงทำยอดขายเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอันดับหนึ่งในตลาด