เทสล่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2020

Tesla โชว์ผลงานโตต่อเนื่อง ไตรมาส 3 รายได้พุ่ง 39% ปีหน้า ตั้งเป้าใหญ่ ขายรถยนต์ไฟฟ้า 1 ล้านคัน

อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 2563
  • Share :
  • 725 Reads   

เทสล่า (Tesla) แรงไม่ตก ยืนหนึ่งบริษัทยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย Market Cap สูงสุด ในขณะที่ราคาหุ้นเทสล่าพุ่ง 400% ในปีนี้ ล่าสุด Elon Mask ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ของปี 2020 ตัวเลขเพิ่มขึ้นทั้งรายได้และกำไรที่ 39% และ 9.2% ตามลำดับ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมตั้งเป้าขายรถยนต์ไฟฟ้า 840,000 - 1,000,000 คัน ในปี 2021 

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา เทสล่ารายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2020 เผย รายได้รวมปิดที่ 8,771 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 5 และเพิ่มขึ้น 39% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและทำกําไรจากการดําเนินงานถึง 809 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.2% โดยเป็นผลจากการจัดส่งยานยนต์ได้มากขึ้น รวมถึงการลดราคารถยนต์ไฟฟ้า และการหันมาเน้นผลิต Model 3 และ Model Y ที่มีราคาถูกกว่า Model S และ Model X

โดยในไตรมาสนี้ เทสล่ามียอดผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 145,036 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 51% และยอดขาย 139,300 คัน เพิ่มขึ้น 44% สวนทางกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบหนักจากสถานการณ์โควิด

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าหุ้นของ Tesla พุ่งสูงขึ้นราว 400% ในปีนี้ มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 394,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เทสล่าขึ้นอันดับหนึ่งแซงโตโยต้าด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงสุด ซึ่งภายในงานแถลงข่าว Elon Musk ได้ยืนยันกับนักข่าวภายในงานว่า เทสล่าตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2021 ไว้ที่ 840,000 - 1,000,000 คัน พร้อมเปิดเผยถึงกำหนดจัดส่ง Cybertruck ซึ่งจะเริ่มได้อย่างเร็วที่สุดในปลายปีหน้า

เทสล่าย้ำถึงการคงแผนการดำเนินงานที่มุ่งทำกำไรด้วยการลงทุนเสริมกำลังผลิต Model 3 ในจีน และ Model Y ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ตามความต้องการในเร็ววัน รวมไปถึงวางแผนปรับปรุงโครงสร้างงบประมาณ ลดต้นทุนการผลิต และเปลี่ยนมาผลิตแบบ In-House มากขึ้น เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการในตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้ นอกจากนี้ ยังประเมินถึงการเพิ่มกำลังผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าจะเป็นก้าวสำคัญในการลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มผลกำไรให้กับบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี โดยเทสล่าจะยังใช้ แบตเตอรี่จาก Panasonic, LG Chem, และ CATL ไปจนถึงปี 2020 เป็นอย่างน้อย

นอกจากนี้ เทสล่ายังมีแผนเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจอื่นนอกจากยานยนต์ เช่น โซลาร์เซลล์ และระบบกักเก็บพลังงานในอนาคต โดยจะมุ่งให้ความสำคัญกับการเติบโตของธุรกิจควบคู่ไปกับการลดต้นทุนโดยเร็ว