BMW Group เผย ยอดขายยานยนต์ 1H 2020 ลดลง 23.0% หลังเผชิญสถานการณ์โควิด ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้ามียอดขายเพิ่มขึ้น 3.4%

ไม่หวั่นโควิด BMW Group เผยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าโต

อัปเดตล่าสุด 31 ก.ค. 2563
  • Share :

BMW Group เผย ยอดขายยานยนต์ครึ่งปีแรกได้รับผลกระทบหนักจากการระบาดของโควิด โดยยานยนต์ทุกแบรนด์ในเครือ ประกอบด้วย BMW, MINI, และ Rolls-Royce มียอดขายรวมปิดที่ 962,575 คัน ลดลงจากปีก่อน 23.0% ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ารวมที่ 61,652 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.4%

Pieter Nota สมาชิกบอร์ดบริหาร BMW AG รายงานว่า ทางบริษัทฯ มีการติดตามสถานการณ์และปรับแผนธุรกิจอย่างต่อเนื่องในแต่ละภูมิภาค โดยพบว่า ไตรมาสที่ 2 ตลาดจีนมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ยอดขายรวมสูงกว่าปี 2019 ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทฯ สามารถทำยอดได้ดีกว่าแนวโน้มตลาดในตลอดช่วงครึ่งปีที่ผ่านมานี้ ซึ่งทั้งโมเดลรถยนต์ไฟฟ้า และ Plug-in Hybrid (PHV) แบรนด์ MINI ได้รับการตอบรับในกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี

โดยยอดขายยานยนต์ในช่วงครึ่งแรกปี 2020  แบ่งตามแบรนด์ ดังนี้

  • BMW ยอดขายปิดที่ 842,153 คัน ลดลง 21.7% 
  • MINI ยอดขายปิดที่ 118,862 คัน ลดลง 31.1% 
  • Rolls-Royce Motor Cars ยอดขายปิดที่ 1,560 คัน ลดลง 37.6%

ซึ่งในจำนวนนี้มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้ารวมที่ 61,652 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.4% โดยมีโมเดลรถยนต์ไฟฟ้าของ MINI ที่ได้รับผลตอบรับอย่างดีจากตลาดคือ MINI Cooper SE และรุ่น PHV ของ MINI Cooper SE Countryman ALL4 โดยมียอดขายรวม 8,587 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4.1%

ส่วนยอดขายจักรยานยนต์ ปิดที่ 76,707 คัน ลดลง 17.7%

BMW Group รายงานว่า การเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว ด้วยโมเดล Plug-in Hybrid (PHV) เป็นผลดีในตลาดยานยนต์เยอรมัน และตลาดโลกเป็นอย่างมาก ดยเชื่อว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและยานยนต์ไฟฟ้าจากภาครัฐ จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ

โดยปัจจุบัน BMW Group มีแผนเริ่มผลิต BMW iX3 โมเดลที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ พร้อมกับโมเดลรถยนต์ไฟฟ้าของ BMW i4 และ BMW iNEXT ในช่วงปีหน้า ตามเป้าหมายของแผนผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารวม 25 รุ่น ภายในปี 2023 ซึ่งเกินครึ่งจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

ส่วนยอดขายแบ่งตามภูมิภาคนั้น ในเยอรมนี BMW Group มียอดขายรวมปิดที่ 116,255 คัน ลดลง 29.1% อย่างไรก็ตามแนวโน้มความนิยมในรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น โดยในครึ่งปีที่ผ่านมานี้ มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็น 10.8% จากยอดขายทั้งหมด 

ส่วนยอดขายในยุโรป ปิดที่ 372,428 คัน ลดลง 32.3% ซึ่งเป็นผลจากการปิดโชว์รูมเป็นเวลานาน โดยมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในสัดส่วน 10.9% จากยอดขายทั้งหมด

อเมริกาเหนือเป็นอีกภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบหนัก และทำยอดได้เพียง 133,844 คันเท่านั้น ซึ่งลดลงจากปีก่อนหน้าถึง 30.6%

อย่างไรก็ตาม ภูมิภาคที่มีการระบาดของโควิดอย่างรุนแรงในช่วงต้นปีอย่างประเทศจีน กลับมียอดขายสูงถึง 329,069 คัน ซึ่งลดลงเพียง 6.0% เท่านั้น และมีการเติบโตอย่างมากตั้งแต่เดือนมีนาคม และตลอดในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา

ส่วนในภูมิภาคเอเชียไม่รวมจีน ยอดขายปิดที่ 87,084 คัน ลดลง 14.8%