ยอดขายชิปเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก ไตรมาส 3/2020 โตต่อเนื่อง จีนครองแชมป์ยอดสูงสุด
ยอดขายชิปเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก ประจำไตรมาสที่ 3/2020 ปิดที่ 113,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากจากไตรมาสก่อน 11.0% สหรัฐอเมริกาและจีนยังโตต่อเนื่อง ในขณะที่ยุโรปหดตัวหนักสุด
Semiconductor Industry Association (SIA) เปิดเผยรายงานยอดขายชิปเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก ประจำไตรมาสที่ 3/2020 เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ยอดขายปิดที่ 113,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 11.0% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 5.8% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน
โดยในไตรมาสที่ 3 นี้ ตัวเลขการเติบโตมีการฟื้นตัวจากไตรมาส 2 ซึ่งหลายประเทศได้รับผลกระทบจากโควิดอย่างรุนแรง ทำให้เศรษฐกิจและการลงทุนชะลอตัวในหลายภาคส่วน โดยสหรัฐอเมริกา และจีนยังคงมีการเติบโตของยอดขายชิปเซมิคอนดักเตอร์โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ยุโรปซึ่งมีการระบาดอย่างรุนแรงกลายเป็นภูมิภาคที่ยอดขายลดลงต่ำสุด
John Neuffer ประธาน และ CEO สมาคม SIA กล่าวแสดงความเห็นว่า ยอดขายชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่เติบโตในไตรมาสที่สามนี้ เป็นตัวเลขสะท้อนความต้องการผลิตภัณฑ์ซึ่งมีชิปเซมิคอนดักเตอร์เป็นส่วนประกอบที่มากขึ้นท่ามกลางสภาวะความไม่แน่นอนจากโควิดและเศรษฐกิจโลก
โดยตัวเลขยอดขายในแต่ละภูมิภาค และการเปลี่ยนแปลงเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มีรายละเอียดดังนี้
- สหรัฐอเมริกา 23,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20.1%
- จีน 38,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.5%
- เอเชียแปซิฟิก 27,410 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.9%
- ญี่ปุ่น 9,080 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 1.8%
- ยุโรป 8,760 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 9.8%
ในขณะที่สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์นานาชาติ หรือ SEMI รายงานเพิ่มเติมเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาถึง ซิลิคอนเวเฟอร์ (Silicon Wafer) ผลิตภัณฑ์หลักของตลาดเซมิคอนดักเตอร์ และชิ้นส่วนสำคัญของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แทบทุกชนิด มีปริมาณการขายในไตรมาสที่ 3 รวม 3,135 ล้านตารางเมตร ลดลง 0.5% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 6.9% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน ซึ่ง Mr. Neil Weaver ประธาน SEMI Silicon Manufacturers Group (SMG) หน่วยงานในเครือสมาคม SEMI แสดงความเห็นว่าเป็นผลจากการที่ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้มีการเติบโตของยอดขายที่มากผิดปกติ
Mr. Clark Tseng ผู้อำนวยการสมาคมฯ คาดการณ์ถึงการเติบโตของตลาดซิลิคอนเวเฟอร์จะเพิ่มขึ้น 2.4% ในช่วงสิ้นปี 2020 นี้และจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อยจนถึงปี 2022 ผลจากความต้องการด้าน Digitalization ที่เพิ่มขึ้นจากการระบาดของโควิด
และด้วยการระบาดของโควิดนี้เอง ยังได้กระตุ้นให้ความต้องการชิปขนาด 300 มม. ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการผลิตชิปเซ็ตมีมากขึ้น ทำให้คาดการณ์ถึงการลงทุนอุปกรณ์สำหรับผลิตชิปขนาด 300 มม. หรือ 300mm semiconductor Fabricating Equipment เพิ่มขึ้นถึง 13% ในช่วงสิ้นปี 2020 ก่อนจะลดลงในปี 2021-2022 และพุ่งกลับมาอีกครั้งในปี 2023 ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก ตอบรับความต้องการระบบคลาวด์, 5G, AI, IoT, และอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ ซึ่ง Mr. Ajit Manocha CEO สมาคมฯ แสดงความเห็นว่า
“โควิดกระตุ้นให้วิถีชีวิต และแทบทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมเกิดการ Digital Transformation เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งแนวโน้มเช่นนี้เองที่จะย้ำอย่างชัดเจนว่า ชิปเซมิคอนดักเตอร์ คือ พื้นฐานของเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกนี้”
อ่านต่อ:
- ยอดขายชิปเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก คาดปี 2020 ตลาดโต 3.3%
- อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทย ไตรมาสที่ 2/2563 และแนวโน้มไตรมาสที่ 3/2563