ยอดมิตซูฯไทย ปี 60 เติบโตมากกว่าตลาดเท่าตัว มั่นใจโตต่อเนื่อง ปี 61

อัปเดตล่าสุด 13 ก.พ. 2561
  • Share :

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความสำเร็จในปีปฏิทิน พ.ศ. 2560 ด้วยการเติบโตมากกว่าตลาดเท่าตัว และขยายส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็นร้อยละ 8.0 เมื่อเทียบกับร้อยละ 7.2 ในปี พ.ศ. 2559 โดยยอดจำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิในปี พ.ศ. 2560 รวมทั้งหมดอยู่ที่ 69,737 คัน เติบโตร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทยรวมทั้งหมดอยู่ที่ 871,650 คัน หรือขยายตัวร้อยละ 13 ซึ่งเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 ปี

ยอดจำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ นำโดยรถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน มียอดจำหน่ายสูงสุดที่ 32,450 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 38 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในขณะที่ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ซึ่งเป็นรถขายดีอันดับสองของบริษัทฯ มียอดจำหน่ายรวม 14,545 คัน สามารถครองส่วนแบ่งตลาดรถอเนกประสงค์บนพื้นฐานรถกระบะ (พีพีวี) ได้ถึงร้อยละ 24 ส่วนรถยนต์ซิตี้คาร์ มิตซูบิชิ แอททราจ และมิตซูบิชิ มิราจ มียอดจำหน่ายรวมกันอยู่ที่ 22,833 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 42

มร. โมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ผลประกอบการในภาพรวมของเราในปี พ.ศ. 2560 ถือว่าน่าพึงพอใจอย่างมาก ทั้งจุดแข็งด้านผลิตภัณฑ์ของเรา การจัดกิจกรรมทางการตลาด และความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อการบริการ ช่วยส่งเสริมให้เรามีการเติบโตที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างมาก อีกทั้งการผลิตและการส่งออกโดยรวมของบริษัทฯก็ยังคงแข็งแกร่ง”

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวรถหลายรุ่นในปี พ.ศ. 2560 เริ่มต้นจาก มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ค เอดิชั่น และ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ขับเคลื่อนสองล้อ ขณะที่ มิตซูบิชิ แอททราจ และ มิตซูบิชิ มิราจ เปิดตัวออกสู่ตลาดในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2560 ก่อนที่จะเปิดตัว มิตซูบิชิ  ไทรทัน รุ่นปี 2018 สู่สาธารณชนในเดือนตุลาคมในปีเดียวกัน และล่าสุดคือการเผยโฉม มิตซูบิชิ  ไทรทัน แอทลีท ครั้งแรกในโลกที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34

ทั้งนี้ บทบาทของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในฐานะการเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตและการส่งออกของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ยังมีความสำคัญโดดเด่นยิ่งขึ้น เห็นได้จากยอดการผลิตโดยรวมในปี พ.ศ. 2560 ที่เติบโตขึ้นร้อยละ 3 ด้วยสัดส่วนการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์สำเร็จรูปร้อยละ 11 จากสัดส่วนร้อยละ 5 ในปีก่อน ส่วนยอดการส่งออก (รวมรถยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนรถยนต์สำเร็จรูป)  เติบโตร้อยละ 2 โดยนับเป็นสัดส่วนการส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์สำเร็จรูปร้อยละ 13 จากสัดส่วนเพียงร้อยละ 5 ในปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทสำคัญต่อการสนับสนุนศูนย์การผลิตของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในประเทศอื่น ๆ ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายที่แข็งแกร่งมากถึง 217 แห่งทั่วประเทศ ที่พร้อมให้บริการลูกค้าอย่างเต็มที่

 “เราเริ่มต้นปี พ.ศ. 2561 ด้วยความเชื่อมั่นว่าจะสามารถขับเคลื่อนความสำเร็จและการเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาสู่ปีใหม่นี้ได้อย่างแน่นอน” มร. ชกกิกล่าวเพิ่มเติม

“สำหรับในปี พ.ศ. 2561 เราจะยังคงมุ่งมั่นตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย ด้วยการส่งมอบยานยนต์และบริการที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ เราจะทำการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 2 รุ่น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ หนึ่งในรถยนต์ที่ตลาดไทยให้ความสนใจมากที่สุด และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 3 รุ่นย่อย และ รุ่นพิเศษอีก  4 รุ่น ทั้งหมดนี้เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตและเสริมขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาด” มร. ชกกิกล่าวสรุป

สำหรับปีนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดมากกว่าร้อยละ 8.0 โดยคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศจะเติบโตที่ร้อยละ 3 และมียอดจำหน่ายรวมที่ 900,000 คันบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความสำเร็จในปีปฏิทิน พ.ศ. 2560 ด้วยการเติบโตมากกว่าตลาดเท่าตัว และขยายส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็นร้อยละ 8.0 เมื่อเทียบกับร้อยละ 7.2 ในปี พ.ศ. 2559 โดยยอดจำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิในปี พ.ศ. 2560 รวมทั้งหมดอยู่ที่ 69,737 คัน เติบโตร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทยรวมทั้งหมดอยู่ที่ 871,650 คัน หรือขยายตัวร้อยละ 13 ซึ่งเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 ปี

ยอดจำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ นำโดยรถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน มียอดจำหน่ายสูงสุดที่ 32,450 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 38 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในขณะที่ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ซึ่งเป็นรถขายดีอันดับสองของบริษัทฯ มียอดจำหน่ายรวม 14,545 คัน สามารถครองส่วนแบ่งตลาดรถอเนกประสงค์บนพื้นฐานรถกระบะ (พีพีวี) ได้ถึงร้อยละ 24 ส่วนรถยนต์ซิตี้คาร์ มิตซูบิชิ แอททราจ และมิตซูบิชิ มิราจ มียอดจำหน่ายรวมกันอยู่ที่ 22,833 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 42

มร. โมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ผลประกอบการในภาพรวมของเราในปี พ.ศ. 2560 ถือว่าน่าพึงพอใจอย่างมาก ทั้งจุดแข็งด้านผลิตภัณฑ์ของเรา การจัดกิจกรรมทางการตลาด และความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อการบริการ ช่วยส่งเสริมให้เรามีการเติบโตที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างมาก อีกทั้งการผลิตและการส่งออกโดยรวมของบริษัทฯก็ยังคงแข็งแกร่ง”

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวรถหลายรุ่นในปี พ.ศ. 2560 เริ่มต้นจาก มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ค เอดิชั่น และ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ขับเคลื่อนสองล้อ ขณะที่ มิตซูบิชิ แอททราจ และ มิตซูบิชิ มิราจ เปิดตัวออกสู่ตลาดในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2560 ก่อนที่จะเปิดตัว มิตซูบิชิ  ไทรทัน รุ่นปี 2018 สู่สาธารณชนในเดือนตุลาคมในปีเดียวกัน และล่าสุดคือการเผยโฉม มิตซูบิชิ  ไทรทัน แอทลีท ครั้งแรกในโลกที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34

ทั้งนี้ บทบาทของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในฐานะการเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตและการส่งออกของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ยังมีความสำคัญโดดเด่นยิ่งขึ้น เห็นได้จากยอดการผลิตโดยรวมในปี พ.ศ. 2560 ที่เติบโตขึ้นร้อยละ 3 ด้วยสัดส่วนการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์สำเร็จรูปร้อยละ 11 จากสัดส่วนร้อยละ 5 ในปีก่อน ส่วนยอดการส่งออก (รวมรถยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนรถยนต์สำเร็จรูป)  เติบโตร้อยละ 2 โดยนับเป็นสัดส่วนการส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์สำเร็จรูปร้อยละ 13 จากสัดส่วนเพียงร้อยละ 5 ในปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทสำคัญต่อการสนับสนุนศูนย์การผลิตของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในประเทศอื่น ๆ ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายที่แข็งแกร่งมากถึง 217 แห่งทั่วประเทศ ที่พร้อมให้บริการลูกค้าอย่างเต็มที่

 “เราเริ่มต้นปี พ.ศ. 2561 ด้วยความเชื่อมั่นว่าจะสามารถขับเคลื่อนความสำเร็จและการเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาสู่ปีใหม่นี้ได้อย่างแน่นอน” มร. ชกกิกล่าวเพิ่มเติม

“สำหรับในปี พ.ศ. 2561 เราจะยังคงมุ่งมั่นตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย ด้วยการส่งมอบยานยนต์และบริการที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ เราจะทำการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 2 รุ่น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ หนึ่งในรถยนต์ที่ตลาดไทยให้ความสนใจมากที่สุด และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 3 รุ่นย่อย และ รุ่นพิเศษอีก  4 รุ่น ทั้งหมดนี้เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตและเสริมขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาด” มร. ชกกิกล่าวสรุป

สำหรับปีนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดมากกว่าร้อยละ 8.0 โดยคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศจะเติบโตที่ร้อยละ 3 และมียอดจำหน่ายรวมที่ 900,000 คัน