ผลสำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล ชี้แนวโน้มเศรษฐกิจ 61 ทรงตัว
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ร่วมกับ “สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย” (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม เรื่อง “ทิศทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรมปี 2561” โดยสอบถามความคิดเห็นจากตัวแทนผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ กระจายทั่วทุกภูมิภาค รวมทั้งสิ้นจำนวน 207 ราย เกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรมปี 2561 ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม ถึง 30 พฤศจิกายน 2560 อาศัยการสุ่มตัวอย่างจากบัญชีรายชื่อผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พบว่าผู้ประกอบการ ร้อยละ 35.75 ระบุว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2561 จะขยายตัว ร้อยละ 42.51 ระบุว่า ทรงตัว และร้อยละ 21.74 ระบุว่า หดตัว
ด้านความคิดเห็นของผู้ประกอบการต่อแนวโน้มภาพรวมภาวะอุตสาหกรรมในปี 2561 พบว่า ผู้ประกอบการร้อยละ 37.20 ระบุว่าภาพรวมภาวะอุตสาหกรรมในปี 2561 จะขยายตัว ร้อยละ 41.55 ระบุว่าทรงตัว และร้อยละ 21.25 ระบุว่าจะหดตัว
สำหรับปัจจัยที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนของเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทยในปี 2561 พบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ร้อยละ 44.93 ระบุว่า เป็นเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลกที่ขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก และการใช้จ่ายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ของภาครัฐฯ ในสัดส่วนที่เท่ากัน
ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทยปี 2561 พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ร้อยละ 43.00 ระบุว่า เป็นความเสี่ยงจากปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ
ด้านการวางแผนของผู้ประกอบการในการดำเนินกิจการในช่วงปี 2561 พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ร้อยละ 62.32 ระบุว่ามีการวางแผน และมีแนวทางในการรับมือ ขณะที่ ร้อยละ 37.68 ระบุว่า ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนแผนมากนักจากช่วงครึ่งหลังของปี 2560
สำหรับความคิดเห็นของผู้ประกอบการต่อสิ่งที่ต้องการให้ภาครัฐเร่งดำเนินการ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจปี 2561 พบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ร้อยละ 46.86 ระบุว่า เร่งเจรจาการค้ากับประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ เพื่อขยายตลาด ลดอุปสรรคทางการค้า และมาตรการกีดกันสินค้าที่มิใช่ภาษีและเพิ่มช่องทางการส่งออก และออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ ในสัดส่วนที่เท่ากัน
ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของผู้ประกอบการเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรมปี 2561 สามารถสรุปได้ ดังนี้
1) รัฐบาลควรมีมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือ ส่งเสริม หรือสนับสนุนผู้ประกอบการ ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของไทย ส่งเสริมการอบรมพัฒนาฝีมือของผู้ใช้แรงงาน ส่งเสริมการสร้างรายได้ในชนบท ส่งเสริมด้านการเกษตร การท่องเที่ยว แถบชายแดน ขยายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน การสร้างคลังสินค้าในประเทศแถบอาเซียนเพื่อขยายเศรษฐกิจ การพัฒนาธุรกิจ SMEs อย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการลงทุนของนักลงทุนไทยและต่างชาติ รวมไปถึงการเจรจาการค้าเสรี
2) ภาครัฐควรสนับสนุนด้านการอบรมแบบไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านฝีมือให้ได้เปรียบในเชิงแข่งขันกับต่างประเทศ ผลิตแรงงานที่มีคุณภาพมากกว่าปริมาณ การออกใบรับรองต่าง ๆ ให้กับแรงงาน และผู้ประกอบการ ตลอดจนการดูแลสหภาพแรงงานต้องให้เกิดความเป็นธรรมกับนายจ้าง
3) มีมาตรการสนับสนุนด้านภาษีหรือทางการเงินเพื่อการส่งออกต่าง ๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ การยื่นเอกสารต่าง ๆ ให้มีความคล่องตัว การลดภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่ธุรกิจโลจิสติกส์ที่ให้บริการแก่บริษัทส่งออก ลดอัตราภาษีการส่งออกชายแดน ค่าเงินและระวางเรือ
4) รัฐบาลควรทบทวนหรือแก้ไขกฎระเบียบของภาครัฐให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินกิจการได้คล่องตัวมากกว่านี้
5) การผลิตควรใช้ข้อมูลสารสนเทศเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก
ลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง