สงครามการค้ายังทำพิษ ยอดสั่งหุ่นยนต์ญี่ปุ่นร่วง เว้นอุตฯ ยานยนต์
Japan Robot Association (JARA) รายงาน ยอดสั่งหุ่นยนต์อุตสาหกรรมค่ายญี่ปุ่น ประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2019 ปิดที่มูลค่า 1.775 แสนล้านเยน ลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน 16.5% และลดต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 นับจากไตรมาสสุดท้ายของปี 2018 โดยเป็นผลจากสงครามการค้า ที่กระทบยอดยอดสั่งจากต่างประเทศเป็นอย่างมาก ในขณะที่ประมาณการผลิตปิดที่ 41,945 เครื่อง หรือคิดเป็นมูลค่า 1.534 แสนล้านเยน ลดลงจากไตรมาสเดียวกันถึง 16.7%
ส่วนยอดการจัดส่ง ปิดที่มูลค่า 1.578 แสนล้านเยน ลดลง 16.1% จากปีก่อน และลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 โดยยอดการจัดส่ง แบ่งเป็นภายในประเทศญี่ปุ่น 4.43 หมื่นล้านเยน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.1% เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 และต่างประเทศ 1.136 แสนล้านเยน ลดลงจากปีก่อน 21.5% ลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4
โดยยอดจัดส่งหุ่นยนต์อุตสาหกรรม แบ่งตามการใช้งาน มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
- งานเชื่อม 8,189 เครื่อง มูลค่า 23,265 ล้านเยน
- งานทำสี 380 เครื่อง
- งานแปรรูป 2,495 เครื่อง มูลค่า 5,924 ล้านเยน
- งานประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 3,373 เครื่อง
- งานประกอบทั่วไป 10,529 เครื่อง มูลค่า 14,634 ล้านเยน
- งานลำเลียง 908 เครื่อง
- งานขนถ่ายวัสดุ 8,953 เครื่อง
- งานคลีนรูม 2,037 เครื่อง มูลค่า 6,464 ล้านเยน
- อื่น ๆ 1,218 เครื่อง
- ไม่แน่ชัด 2,686 เครื่อง
โดยในไตรมาสนี้ ยอดสั่งจากอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง อย่างไรก็ตาม ยอดสั่งจากอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และงานเชื่อม ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ส่งผลให้มียอดลดลงจากปีก่อน ส่นยอดสั่งจากต่างประเทศ ลดลงทั้งในภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และอเมริกา