“ชลบุรี” แชมป์โรงงานใหม่ ทุนรวมเฉียด 2 หมื่นล้าน
กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยข้อมูลว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จนถึง 30 มิถุนายน 2562 หรือในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 นั้น มีโรงงานจำพวก 2 (โรงงานขนาดกลาง การประกอบกิจการอาจก่อมลพิษ หรือก่อให้เกิดความรำคาญเพียงเล็กน้อย) และจำพวก 3 (โรงงานขนาดใหญ่ ก่อปัญหามลพิษ ซึ่งทางราชการต้องควบคุมดูแล ซึ่งจะต้องได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการก่อนประกอบการ) ได้รับใบอนุญาตทั่วประเทศรวม 1,586 แห่ง เป็นเงินทุนรวม 104,091.90 ล้านบาท มีคนงานรวม 44,683 คน
โดยในจังหวัดสมุทรสาคร มีจำนวนโรงงานได้รับอนุญาตเป็นอันดับที่ 1 จำนวน 171 แห่ง เงินทุนรวม 6,118.79 ล้านบาท คนงานรวม 6,578 คน แบ่งเป็นจำพวก 2 จำนวน 4 แห่ง จำพวก 3 จำนวน 167 แห่ง โดยมีโรงงานที่มีเงินทุนมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.บริษัท สยามฟิตติ้งส์ จำกัด ประกอบกิจการหล่อหลอมโลหะ ผลิตภัณฑ์โลหะ เช่น ข้อต่อเหล็ก ชุบสังกะสี ตั้งอยู่ที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เครื่องจักร 7,600.00 แรงม้า เงินทุน 418,000,000 บาท 2.บริษัท แอล อาร์ ห้องเย็น จำกัด ประกอบกิจการห้องเย็นเก็บสินค้าเครื่องจักร ตั้งอยู่ที่ อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร 2,547.00 แรงม้า เงินทุน 320,027,833 บาท และ 3.บริษัท สยามนทีโกลด์ จำกัด ประกอบกิจการผลิตเครื่องประดับทองรูปพรรณต่าง ๆ ตั้งอยู่ที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เครื่องจักร 417.19 แรงม้า เงินทุน 210,000,000 บาท
ส่วนจังหวัดที่มียอดจำนวนโรงงานได้รับอนุญาตในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 รองลงมาคือ จังหวัดสมุทรปราการ มีจำนวนโรงงานได้รับอนุญาตทั้งสิ้น 103 แห่ง เงินทุนรวม 6,156.22 ล้านบาท คนงานรวม 5,195 คน รองลงมาคือ จังหวัดชลบุรี มีจำนวนโรงงานได้รับอนุญาตทั้งสิ้น 97 แห่ง เงินทุนรวม 19,570.05 ล้านบาท คนงานรวม 2,183 คน ถัดมาคือ จังหวัดปทุมธานี มีจำนวนโรงงานได้รับอนุญาตทั้งสิ้น 81 แห่ง เงินทุนรวม 5,344.08 ล้านบาท คนงานรวม 3,815 คน และจังหวัดนครปฐม มีจำนวนโรงงานได้รับอนุญาตทั้งสิ้น 78 แห่ง เงินทุนรวม 1,783.46 ล้านบาท คนงานรวม 1,574 คน ตามลำดับ ในขณะที่พื้นที่กรุงเทพฯ อยู่ในอันดับที่ 6 มีจำนวนโรงงานได้รับอนุญาตทั้งสิ้น 62 แห่ง เงินทุนรวม 1,965.16 ล้านบาท คนงานรวม 1,256 คน
ทั้งนี้ หากเทียบในจำนวนทุนของโรงงาน พบว่า อันดับ 1 คือ จังหวัดชลบุรี มีทุนรวม 19,570.05 ล้านบาท โรงงานที่มีทุนมากที่สุดคือบริษัท เทรเชอร์ โปรดักส์ จำกัด ตั้งอยู่ที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และมีสำนักงานหลักอยู่ที่เชตราชเทวี กรุงเทพฯ ประกอบกิจการผลิตเครื่องนอนสำเร็จรูปจากยางพารา มีเครื่องจักร 4,348.94 แรงม้า เงินทุน 790 ล้านบาท คนงาน 258 คน
รองลงมาคือ จังหวัดระยอง มีทุน 16,090.63 ล้านบาท โรงงานที่มีทุนมากที่สุด คือ บริษัท มิตซูบิชิ อิเลคทริค ไทย ออโต้-พาร์ท จำกัด อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ประกอบกิจการ 1.ผลิตประกอบเครื่องเสียง และอุปกรณ์เกี่ยวกับเครื่องเสียงรถยนต์ 2.ผลิตอุปกรณ์ต่าง ๆ ของรถยนต์ เช่น ชุดจ่ายไฟ ไดชาร์จ ไดสตาร์ต ฯลฯ 3.ผลิตอุปกรณ์ต่าง ๆ ของรถจักรยานยนต์ เช่น ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น มีเครื่องจักร 24,725.61 HP เงินทุน 12,227,114,315 บาท มีคนงาน 3,992 คน
และจังหวัดสระบุรี มีทุนรวม 6,680.55 ล้านบาท โรงงานที่มีทุนมากที่สุดเป็นโรงงานของบริษัท กัลฟ์ เอ็นพีเอ็ม จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.หนองแค จ.สระบุรี และมีสำนักงานหลักอยู่ที่เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ประกอบกิจการผลิตกระแสไฟฟ้าโดยใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง กำลังการผลิต 137 เมกะวัตต์ ผลิตไอน้ำ และผลิตน้ำเย็น เครื่องจักร 202,300.78 แรงม้า เงินทุน 6,130 ล้านบาท มีคนงาน 29 คน