ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ตุลาคม 2562
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนตุลาคม 2562 อยู่ที่ระดับ 91.2 ปรับตัวลดลงจากระดับ 92.1 ในเดือนกันยายน โดยเป็นการปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 17 เดือน นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561 เนื่องจากผู้ประกอบการยังคงมีความกังวลกำลังซื้อในส่วนภูมิภาคที่ยังชะลอตัว และผู้ประกอบการ SMEs ประสบปัญหาด้านการเงิน เนื่องจากสถาบันการเงินมีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น รวมทั้งสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังคงยืดเยื้อ และการแข็งค่าของเงินบาทที่ทำให้ความสามารถในการแข่งขันด้านราคาลดลง
จากการสำรวจผู้ประกอบการ 1,211 ราย ทั่วประเทศในเดือนตุลาคม ผู้ประกอบการร้อยละ 75.1 ยังคงกังวลปัญหาสภาวะเศรษฐกิจโลก, ร้อยละ 58.4 มีความกังวลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน (บาทต่อดอลลาร์) ในมุมมองผู้ส่งออก ส่วนปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความกังวลลดลง ได้แก่ ราคาน้ำมัน การเมืองในประเทศ และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 43.8, 36.5, และ 21.0 ตามลำดับ
อย่างไรก็ตามปัจจัยบวกในเดือนนี้ ได้แก่ ผู้ประกอบการส่งออกมียอดขายและคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับผลดีจากการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศเพื่อใช้ในเทศกาลช่วงปลายปีโดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่นและอาหาร ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐผ่านโครงการชิมช็อปใช้ส่งผลดี ต่อยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภค
สำหรับดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลง อยู่ที่ระดับ 102.9 โดยลดลงจากระดับ 103.4 ในเดือนกันยายน เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจในประเทศและเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอน ปัญหาเบร็กซิท รวมทั้งการที่ไทยถูกสหรัฐฯ ตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ซึ่งกำลังจะมีผลบังคับใช้ในปี 2563 ทำให้สินค้าส่งออกของไทยราคาสูงขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง
สำหรับข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มีความเห็นว่าภาครัฐควร
1) ให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือบริหารจัดการความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศเรื่องปรับปรุงกฎเกณฑ์เพื่อเอื้อให้เงินทุนไหลออกและลดแรงกดดันต่อค่าเงินบาท
2) เร่งการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย-อียู (Thailand - EU Free Trade Agreement) และเร่งการเจรจาขอคืนสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) กับสหรัฐฯ
3) เร่งการลงทุนภาครัฐเพื่อให้เกิดการลงทุนต่อเนื่องของภาคเอกชน อันจะส่งผลต่อห่วงโซ่มูลค่าของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
4) ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้จ่ายในประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อชดเชยภาคการส่งออกที่ชะลอตัวจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลก
อ่านต่อ
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม กันยายน 2562