ยอดขายสมาร์ทโฟน 2019 ทั่วโลกร่วงอีกปี ลุ้น 5G ดันยอดปีนี้
รายงานยอดขายสมาร์ทโฟน ปี 2019 จาก International Data Corporation (IDC) เผย ยอดขายทั่วโลกรวมแล้วปิดที่ 1,371 ล้านเครื่อง ลดลงจากปีก่อน 2.6% ในขณะที่ส่วนยอดขายในไตรมาสที่ 4 ปิดที่ 368.8 ล้านเครื่อง ลดลงจากปีก่อน 1.1% ส่งผลให้ยอดรวมตลอดปีต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระหว่างปี 2015 - 2018 โดยเป็นผลจากกการชะลอตัวของสมาร์ทโฟนจีน รวมกับการมาของเทคโนโลยี 5G ที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคส่วนหนึ่งรอการเปิดตัวสินค้าใหม่ และการลดราคาสมาร์ทโฟนตกรุ่น พร้อมคาดการณ์ว่า 5G จะช่วยให้ยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกสูงขึ้นอย่างแน่นอนในปีนี้
Melissa Chau ผู้อำนวยการวิจัยจาก IDC's Worldwide Mobile Device Trackers แสดงความเห็นว่า “ในช่วงปีที่ผ่านมานี้ Huawei ยังเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในตลาดจีน อย่างไรก็ตาม การเติบโตของเทคโนโลยีที่รวดเร็ว และการเข้าสู่ตลาดของบริษัทหน้าใหม่ โดยเฉพาะในยุโรป ส่งผลให้ยอดขายในตลาดโลกของ Huawei ลดลงอย่างมาก” นอกจากนี้ ยังมีอีกปัจจัยหนึ่งซึ่งเป็นสาเหตุหลักคือสงครามการค้าจีน - สหรัฐฯ ที่ยังไม่สิ้นสุด นอกจากนี้ ในปี 2020 นี้ การระบาดของไวรัสโคโรน่า อาจส่งผลกระทบต่อยอดขาย และซัพพลายเชนของ Huawei และสมาร์ทโฟนจีนแบรนด์อื่น ๆ ในปีนี้ก็เป็นได้
ในอีกด้านหนึ่ง Apple สามารถทำยอดได้อย่างดีในไตรมาสสุดท้ายนี้เช่นเดียวกับเมื่อปี 2018 อย่างไรก็ตาม ยอดที่เพิ่มขึ้นนี้ ก็ไม่อาจทำให้ยอดรวมตลอดปีแซงหน้า Huawei ได้ ในขณะที่ Samsung ครองตำแหน่งผู้นำยอดขายตลอดปี 2019
Anthony Scarsella ผู้จัดการแผนกวิจัย IDC's Worldwide Quarterly Mobile Phone Tracker แสดงความเห็นว่า การมาของ 5G นั้น เนื่องจากยังไม่เป็นที่แพร่หลายนัก ทำให้ยอดขายสมาร์ทโฟนยังคงลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 อีกทั้งสมาร์ทโฟนพับได้ก็ยังเป็นเรื่องใหม่ อย่างไรก็ตาม แม้ยอดรวมทั้งปีจะลดลง แต่ในไตรมาสสุดท้าย บริษัทที่ทำยอดโดดเด่นคือ Apple, Xiaomi, และ OPPO ซึ่งมียอดหลักมาจากสมาร์ทโฟนโมเดลใหม่ และการเจาะตลาดนอกประเทศจีน ซึ่ง Xiaomi และ OPPO ทำยอดขายได้ดีมากในอินเดีย และกำลังเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในยุโรปเหมือน Huawei ในช่วงกลางปีก่อน ในขณะที่ Apple ทำยอดจากสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก และแสดงความแน่ใจว่าในปี 2020 5G จะช่วยให้ยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกสูงขึ้นอย่างแน่นอน
ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ
Apple
Apple ทำยอดขาย iPhone ในไตรมาสที่ 4 ได้ 73.8 ล้านเครื่อง ส่งผลให้เป็นบริษัทที่มีการเติบโตของยอดขายสูงสุด ซึ่งอยู่ที่ 7.9% โดย iPhone 11 มีลูกค้าหลักคือตลาดสหรัฐฯ ในขณะที่ iPhone XR ทำยอดได้ดีทั่วโลก โดยเฉพาะในเดือนธันวาคม อีกทั้งโมเดลใหม่ของบริษัทยังสามารถทำยอดติดอันดับท็อป 3 ได้ตลอดไตรมาสอีกด้วย
Samsung
หลายปีที่ผ่านมา Samsung มักทำยอดขายได้ดีที่สุดในช่วงไตรมาสที่ 3 ส่วนไตรมาสที่ 4 นั้น Apple สามารถแซงไปได้ แต่อย่างไรก็ตาม Samsung ก็สามารถทำยอดขายรวมตลอดปีได้ดี ทั้งที่มีโมเดลใหม่น้อย และประสบปัญหาความล่าช้าของ 5G ในประเทศเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าการมาของสมาร์ทโฟนแบบพับได้ในช่วงต้นปี 2020 จะช่วยให้ยอดขายในปีนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
Huawei
ราคาของ Mate 30 เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดขายลดลงในไตรมาสสุดท้าย รวมถึงการมีสินค้าค้างในสต็อก ทำให้ยอดขายโดยรวมลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ไม่สามารถใช้ Google Mobile Services ทำให้ยอดขายในมาเลเซีย และสิงคโปร์ลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคในจีนก็ยังให้ความนิยม Huawei ซึ่งขนาดตลาดจีนนี้เอง ที่ช่วยให้ยอดขายรวมของบริษัทยังคงเป็นอันดับ 2 จากทั่วโลกได้
Xiaomi
ยอดขายส่วนใหญ่ของ Xiaomi มาจากประเทศอินเดีย โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังซึ่งเป็นสัดส่วนสูงสุดของบริษัท อีกทั้งยังมียอดขายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นจำนวนมากในช่วงไตรมาสที่ 4 อย่างไรก็ตาม ปัญหาการบริหารช่องทางการขาย และผู้เล่นใหม่อย่าง Realme ทำให้การแข่งขันของ Xiaomi ในอินเดีย และอินโดนีเซียมีความรุนแรงมากขึ้น อีกทั้งยังไม่สามารถสู้กับ Huawei ได้ในตลาดจีนอีกด้วย
OPPO
OPPO เริ่มตีตัวห่างตลาดจีน เนื่องจากยอดขายในประเทศจีนมีสัดส่วนไม่ถึง 50% ของยอดขายทั้งหมด โดยยอดขายส่วนใหญ่มาจากสมาร์ทโฟนราคาถูก และ A ซีรี่ย์ ส่วนในตลาด 5G นั้น สเปกที่ต่ำกว่า ทำให้ไม่สามารถสู้กับแบรนด์อื่นได้ในประเทศจีน และเป็นอีกรายที่เข้าทำตลาดอินเดีย โดยเน้นไปที่โมเดลราคาสูง และทำตลาดด้วยโปรโมชันลดราคา ทำให้ครองส่วนแบ่งได้เป็นอย่างมาก และมีแผนจะเข้าสู่ตลาดอินโดนีเซีย พร้อมเข้าตั้งฐานการผลิตในอนาคต