'คูห์เน่ พลัส นาเกิ้ล' จับมือ 'แชฟฟ์เลอร์' ยกระดับโลจิสติกส์อะไหล่รถยนต์ในเอเชียแปซิฟิก
คูห์เน่ พลัส นาเกิ้ล เตรียมบริหารศูนย์จัดเก็บและกระจายสินค้าอะไหล่ทดแทนยานยนต์ สำหรับ แชฟฟ์เลอร์ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
-
ศูนย์จัดเก็บและกระจายสินค้าอะไหล่ทดแทนยานยนต์เป็นศูนย์กลางในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนลูกค้าทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
-
ศูนย์ประกอบและบรรจุสินค้าที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการโลจิสติกส์และความสามารถในการจัดส่งสินค้า สำหรับแผนกธุรกิจโซลูชันอะไหล่ทดแทนของแชฟฟ์เลอร์
กรุงเทพฯ 16 ธันวาคม 2567 - แชฟฟ์เลอร์ เอเชียแปซิฟิก แผนกธุรกิจโซลูชันอะไหล่ทดแทน (Schaeffler Vehicle Lifetime Solutions Asia Pacific) ได้เลือก คูห์เน่ พลัส นาเกิ้ล (Kuehne+Nagel) เป็นผู้บริหารศูนย์จัดเก็บและกระจายสินค้าอะไหล่ทดแทนยานยนต์ (Central Logistics Center) ในประเทศไทย โดยศูนย์ขนาด 3,000 ตารางเมตรแห่งนี้ ตั้งอยู่ในเขตปลอดอากรในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี และยังตั้งอยู่ใกล้กับโรงงานผลิตของแชฟฟ์เลอร์ ศูนย์นี้จะดำเนินการต่าง ๆ เช่น การจัดสินค้า การรับสินค้า และการจัดส่งสินค้า โดยได้รับการออกแบบมาสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการโลจิสติกส์และขยายขีดความสามารถในการจัดส่งที่มีมาตรฐานสูง เพื่อให้บริการลูกค้าของแชฟฟ์เลอร์ในแผนกธุรกิจโซลูชันอะไหล่ทดแทนทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
คุณไมก้า เชฟพาร์ด ประธานฝ่ายธุรกิจโซลูชันอะไหล่ทดแทน (Vehicle Lifetime Solutions) บริษัท แชฟฟ์เลอร์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ศูนย์จัดเก็บและกระจายสินค้านี้ จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการจัดเก็บและกระจายสินค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยคูห์เน่ พลัส นาเกิ้ลเป็นพันธมิตรด้านโลจิสติกส์ที่มีความเชี่ยวชาญและความน่าเชื่อถือเป็นอย่างสูง โดยเป้าหมายของเราคือการมุ่งมั่นพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายสินค้าอะไหล่ทดแทนยานยนต์ โดยการมุ่งเน้นไปที่นวัตกรรม ความก้าวหน้า และความพร้อมครบครันสำหรับกลุ่มลูกค้า"
“ความร่วมมือระยะยาวของเรากับแชฟฟ์เลอร์ได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา จากความมุ่งมั่นและการทำงานร่วมกัน เราได้เห็นถึงความก้าวหน้าที่สำคัญและเดินหน้าต่อไปในทิศทางสร้างสรรค์จากรากฐานที่มั่นคงนี้ พร้อมทั้งรับมือกับโอกาสใหม่ ๆ ที่กำลังจะมาถึง” คุณเดวิด รุสเซียร์ กรรมการผู้จัดการของ คูห์เน่ พลัส นาเกิ้ล ประเทศไทย กัมพูชา และเมียนมา กล่าว
คูห์เน่ พลัส นาเกิ้ลมองเห็นว่าภูมิภาคเอเชียเป็นพื้นที่เติบโตที่สำคัญ โดยประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในแผนงาน Roadmap 2026 บริษัทได้รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าผ่านการลงทุนในท้องถิ่นและการสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตัวอย่างล่าสุดคือศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ในเขตปลอดอากรที่สนามบินสุวรรณภูมิในกรุงเทพฯ ประเทศไทย
เกี่ยวกับ คูห์เน่ พลัส นาเกิ้ล (Kuehne+Nagel)
ด้วยพนักงานมากกว่า 80,000 คนที่ดำเนินงานในกว่า 1,300 แห่งในเกือบ 100 ประเทศ กลุ่มคูห์เน่ พลัส นาเกิ้ลเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำของโลก สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และคูห์เน่ พลัส นาเกิ้ลยังได้จดทะเบียนในดัชนีหุ้นบลูชิปของสวิตเซอร์แลนด์ SMI ซึ่งกลุ่มนี้เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในด้านโลจิสติกส์ทางอากาศและทางทะเล และมีตำแหน่งตลาดที่แข็งแกร่งในด้านโลจิสติกส์ทางบกและบริการรับเหมาด้านโลจิสติกส์
คูห์เน่ พลัส นาเกิ้ลเป็นพันธมิตรด้านโลจิสติกส์ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลกกว่า 400,000 ราย โดยใช้เครือข่ายระดับโลก ความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ และข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล กลุ่มนี้จึงสามารถให้บริการโซลูชันซัพพลายเชนแบบครบวงจรสำหรับบริษัทและอุตสาหกรรมทั่วโลก ในฐานะสมาชิกของ Science Based Target Initiative (SBTi) คูห์เน่ พลัส นาเกิ้ลมุ่งมั่นในการพัฒนาโลจิสติกส์อย่างยั่งยืนโดยการลดผล กระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนลูกค้าด้วยโซลูชันโลจิสติกส์ที่มีคาร์บอนต่ำ
เกี่ยวกับ กลุ่มแชฟฟ์เลอร์ (Schaeffler Group)
กลุ่มแชฟฟ์เลอร์ได้ขับเคลื่อนนวัตกรรมและการพัฒนาในด้านเทคโนโลยีการเคลื่อนไหวมาเป็นเวลามากกว่า 75 ปี ด้วยเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับการเคลื่อนที่ไฟฟ้า การขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพ CO₂ ระบบช่วงล่าง และพลังงานทดแทน บริษัทจึงเป็นพันธมิตรที่มีความน่าเชื่อถือในการทำให้การเคลื่อนไหวมีประสิทธิภาพ ฉลาด และยั่งยืน โดยแชฟฟ์เลอร์จัดกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการเคลื่อนที่ออกเป็น 8 หมวดหมู่หรือกลุ่มหลัก ได้แก่ ตั้งแต่โซลูชันการหล่อลื่นและระบบการชี้นำทุกประเภท ไปจนถึงบริการซ่อมแซมและการตรวจสอบ บริษัทแชฟฟ์เลอร์มีพนักงานประมาณ 120,000 คน และมีสำนักงานประมาณ 250 แห่งใน 55 ประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีเจ้าของเป็นครอบครัวและเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีนวัตกรรมที่สุดในประเทศเยอรมนี