บีโอไอเพิกถอนการใช้สิทธิชั่วคราว ซิน เคอ หยวน ระหว่างสอบข้อเท็จจริง

อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 2568

บอร์ดบีโอไอ เพิกถอนการใช้สิทธิประโยชน์ ซิน เคอ หยวน เป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างสอบสวนข้อเท็จจริง ในปีที่ผ่านมา บีโอไอได้ยกเลิกส่งเสริมกิจการเหล็กหลายประเภท เพื่อปกป้องผู้ประกอบการไทย ย้ำจุดยืนบีโอไอ ส่งเสริมกิจการที่มีความสำคัญต่อการสร้าง ซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย และเกิดประโยชน์ต่อประเทศ

11 เมษายน 2568 – คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สั่ง “เบรกสิทธิประโยชน์” บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด เป็นการชั่วคราว หลังพบพฤติกรรมเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายโรงงานอุตสาหกรรมและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ฯ พร้อมเร่งสอบสวนข้อเท็จจริงร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมอย่างใกล้ชิด

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการบีโอไอ เผยว่า บอร์ดบีโอไอ มีมติในวันนี้ (11 เม.ย.) ให้เพิกถอนการใช้สิทธิประโยชน์ชั่วคราวสำหรับบริษัท ซิน เคอ หยวน ซึ่งได้รับส่งเสริมการผลิตเหล็กแท่ง (Billet) ตั้งแต่ปี 2556 โดยจะไม่มีผลย้อนหลังต่อสิทธิที่เคยใช้ไปแล้ว การระงับชั่วคราวนี้จะคงอยู่จนกว่ากระทรวงอุตสาหกรรมจะแจ้งให้บริษัทกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ

“บีโอไอไม่ได้นิ่งนอนใจกับกรณีนี้ เราเริ่มตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พร้อมแจ้งเตือนให้บริษัทปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และได้ประชุมร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมเมื่อวันที่ 8 เม.ย. โดยมีรองนายกฯ พิชัย ชุณหวชิร เป็นประธาน ก่อนเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ดทันทีในวันนี้”

ย้ำจุดยืนชัดเจน – บีโอไอยังยืนยันนโยบาย “ไม่ส่งเสริมกิจการที่ไม่ก่อประโยชน์ต่อประเทศ” โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล็กที่กระทบต่อผู้ประกอบการไทย ในปีที่ผ่านมา บีโอไอยกเลิกการส่งเสริมเหล็กหลายประเภท เช่น เหล็กแท่ง เหล็กลวด และเหล็กแผ่นรีดร้อน เนื่องจากปัญหาการทุ่มตลาดและผลิตภัณฑ์ล้นตลาด

สำหรับการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเหล็กในปัจจุบัน จะเน้นเฉพาะกิจการที่สร้างซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น เหล็กทรงแบนและเหล็กทรงยาวที่มีมูลค่าเพิ่มสูง และยังคงสิทธิประโยชน์ที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tax) เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทย

บีโอไอย้ำ “เรามุ่งส่งเสริมเฉพาะกิจการที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สนับสนุนการจ้างงาน ถ่ายทอดเทคโนโลยี และพัฒนาบุคลากรไทย รวมถึงการสร้างรายได้จากการส่งออก” การวิจัยและพัฒนา การเพิ่มมูลค่าจากวัตถุดิบในประเทศ การส่งออกเพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ การเสริมสร้างความเข้มแข็งของ ซัพพลายเชน รวมทั้งการพัฒนาผู้ประกอบการในประเทศ