Nissan - Renault ปรับโครงสร้างพันธมิตร ถือหุ้นเท่าเทียม

Nissan - Renault ปรับโครงสร้างพันธมิตร ถือหุ้นเท่าเทียม

อัปเดตล่าสุด 8 ส.ค. 2566
  • Share :
  • 10,927 Reads   

ผู้ผลิตรถยนต์ Nissan และ Renault ปรับโครงสร้างความร่วมมืออันยาวนาน สร้างสมดุลผ่านการถือหุ้นไขว้เท่าเทียม 15% ซึ่งเรโนลต์ต้องปรับสัดส่วนลงจากเดิมที่ถือหุ้น 43% ในนิสสัน

Advertisement

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนับเป็นก้าวสำคัญในพันธมิตรยานยนต์อายุ 24 ปี นับตั้งแต่ปี 1999 ผู้ผลิตรถยนต์ทั้งสองรายได้ทำงานร่วมกัน ควบคู่ไปกับพันธมิตรรุ่นเยาว์อย่าง Mitsubishi Motors ความร่วมมือในกลุ่มพันธมิตรนี้ทำให้บริษัทต่าง ๆ สามารถแบ่งปันการผลิตและเทคโนโลยี และช่วยลดต้นทุนได้ปีละหลายพันล้านดอลลาร์

ในที่สุด Renault Group และ Nissan Motor ก็ได้บรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายและประกาศเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2023 ซึ่งมีโครงสร้างความร่วมมือหลักสามประการ ดังนี้

1. โครงการที่สร้างสรรค์มีมูลค่าสูง: 

สองพันธมิตรวางแผนที่จะดำเนินโครงการเชิงกลยุทธ์ในอินเดีย ละตินอเมริกา และยุโรป โดยมีเป้าหมายเพื่อมอบผลประโยชน์ที่สำคัญให้กับแต่ละบริษัท โดย Renault และ Nissan ได้ยืนยันความมุ่งมั่นในการดำเนินงานในอินเดียอีกครั้งผ่านการลงทุนและการเปิดตัวรถยนต์ใหม่

2. ความคล่องตัวเชิงกลยุทธ์ที่เพิ่มขึ้น: 

พันธมิตรจะสำรวจความคิดริเริ่มร่วมกันในด้านเทคโนโลยีการใช้พลังงานไฟฟ้าและการปล่อยมลพิษต่ำ โดยลงทุนในโครงการที่เพิ่มมูลค่าให้กับแต่ละธุรกิจ ในฐานะส่วนหนึ่งของความร่วมมือนี้ Nissan จะกลายเป็นนักลงทุนเชิงกลยุทธ์ใน Ampere ซึ่งเป็นหน่วยงาน EV และซอฟต์แวร์ในยุโรปของ Renault 

3. ปรับสมดุลด้วยการถือหุ้นไขว้และเสริมการกำกับดูแลพันธมิตร: 

ข้อตกลงขั้นสุดท้ายได้กำหนดโครงสร้างการถือหุ้นไขว้ที่ปรับโครงสร้างแล้ว ระหว่าง Renault และ Nissan โดย Renault จะโอนหุ้น Nissan จำนวน 28.4% ไปยังทรัสต์ของฝรั่งเศส เพื่อให้มั่นใจว่าการลงคะแนนเสียงเป็นกลางในหุ้นที่ได้รับมอบหมาย ทั้งสองบริษัทจะรักษาสัดส่วนการถือหุ้นไขว้ที่ 15% ซึ่งจะทำให้นิสสันสามารถใช้สิทธิออกเสียงที่เกี่ยวข้องกับการถือหุ้นในเรโนลต์ได้ โดย Renault จะมีความยืดหยุ่นในการขายหุ้นของ Nissan ที่ถืออยู่ในกองทรัสต์ โดยประสานกระบวนการกับ Nissan

 

#nissan #renault #alliance #automotive #electricvehicle #Mreport #ข่าวอุตสาหกรรม

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH