ถอดรหัสเทคโนโลยียานยนต์ MG ขยับใกล้เทรนด์ยานยนต์โลกมากยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีของโลกยานยนต์เวลานี้ ทุกคนคงทราบกันดีว่า ทิศทางของทุกค่ายรถคือการพัฒนาโดยมุ่งเน้นไปที่ “ยานยนต์ไฟฟ้า” (Electric Vehicles) เนื่องด้วยปัญหาในเรื่องของมลพิษ ที่กำลังคุกคามสุขภาพของทุกคนและทำลายสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอากาศที่เราหายใจเข้าไป ดังนั้นรัฐบาลในหลายประเทศทั่วโลกจึงมีมาตรการทางกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมออกมาบังคับใช้ เพื่อบรรเทาปัญหามลพิษที่กำลังเข้าสู่ขั้นวิกฤต และในปัจจุบันแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว คือการบังคับใช้มาตรฐานด้านไอเสียที่เข้มงวดมากขึ้น บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จึงมีการพัฒนารถที่ใช้เครื่องยนต์ที่มีการปล่อยไอเสียน้อยลง รวมทั้งแสวงหาวิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้องและถือเป็นการลดมลพิษอย่างแท้จริง นั่นก็คือ การพัฒนายานยนต์ที่ไม่มีการปล่อยไอเสีย ซึ่งทำให้หลายบริษัทหันมาพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ที่ใช้การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแทนจากการใช้พลังงานจากเครื่องยนต์
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ทางเลือกที่ดีที่สุดของยนตรกรรมไร้มลพิษ (Zero-Emission Vehicles)
คำว่า รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV (Electric Vehicle) นั้นมีความหมายที่ค่อนข้างกว้าง ครอบคลุมถึงรถทุกชนิดที่มีการใช้พลังงานไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้องในระบบขับเคลื่อน ซึ่งสามารถจำแนกแยกย่อยออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ได้แก่ รถไฮบริด (HEV) รถปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ 100% (BEV) ทั้งนี้รถแบบไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริดนั้น ระบบขับเคลื่อนยังต้องมีเครื่องยนต์เข้ามาเกี่ยวเนื่องด้วย จึงถือเป็นเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ หรือรถยนต์ไฟฟ้าชนิดใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ 100% ที่ไม่มีมลพิษหรือไอเสียออกมาเลยเรียกว่า Zero Emission
* จากข้อมูลการศึกษาของ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยคำนวณจากค่าเฉลี่ยของอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานบน ECO Sticker เทียบกับราคาเชื้อเพลิงในเดือนมิถุนายน 2563 และอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยทั่วประเทศ (ข้อมูลอ้างอิงจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เดือนมิถุนายน 2563)
SAIC Motor ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์โลก และผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า
เมื่อกล่าวถึงรถยนต์ไฟฟ้า SAIC Motor คือหนึ่งในผู้นำทางด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าอันดับต้นๆ ของโลกและเป็นบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในจีน ที่มียอดขายรถยนต์รวมกว่า 7 ล้านคันต่อปี โดยมียอดขายรถไฟฟ้า ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 จนถึงปัจจุบัน สูงถึง 270,000 คันทั่วโลก
ปัจจุบัน SAIC Motor ยังคงพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีการแนะนำออกมาแล้วถึง 14 รุ่น แบ่งเป็น รถไฮบริด (HEV) 8 รุ่น และรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV (Electric Vehicle) 6 รุ่น โดยได้เพิ่มขีดความสามารถของผลิตภัณฑ์ ทั้งในด้านของระยะทางการขับขี่ ระบบการควบคุมอัตโนมัติ ระบบขับเคลื่อน และระบบการเชื่อมต่ออย่างต่อเนื่อง
สำหรับประเทศไทย SAIC Motor ได้จับมือกับพันธมิตรสำคัญอย่างเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ก่อตั้ง SAIC Motor-CP ขึ้น ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการผลิตและส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวา ภายใต้แบรนด์ MG อีกทั้งยังสร้างจุดเปลี่ยนให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยเป็นผู้ริเริ่มในการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมต่าง ๆ มาปรับใช้ในรถยนต์เอ็มจีทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นระบบปฎิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ที่สามารถสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยได้เป็นครั้งแรกของโลก ระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System ที่โดดเด่นด้วยระบบช่วยขับขี่ Advanced Driver Assistance System (ADAS) รวมถึงการเปิดตัว NEW MG ZS EV รถยนต์ไฟฟ้าชนิดที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ 100% รุ่นแรกของเอ็มจี ที่ทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยคึกคักขึ้นอีกครั้ง
NEW MG ZS EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของเอ็มจี ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสุด และให้ความคุ้มค่าที่เหนือชั้น
NEW MG ZS EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่มีพละกำลังสูงสุดถึง 110 kWh หรือเทียบเท่า 150 แรงม้า พร้อมแรงบิดที่มีมากถึง 350 นิวตันเมตร ดีที่สุดในรถระดับเดียวกัน ตอบสนองผู้ขับขี่ได้ทันท่วงที ซึ่งกำลังที่ดีเยี่ยมนั้นเป็นผลมาจากเทคโนโลยีสุดล้ำ Hair-Pin Winding Design Technology ที่ช่วยให้มอเตอร์ไฟฟ้าส่งกำลังได้เต็มประสิทธิภาพ
โดยแบตเตอรี่ของ NEW MG ZS EV เป็นแบบลิเธียม-ไอออน (Lithium-ion) ขนาด 44.5 kWh วิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 337 กิโลเมตร ตามมาตรฐานความประหยัดพลังงานและมลพิษ New European Driving Cycle (NEDC) พร้อมระบบ Cooling System แบบ Liquid Cooling ที่ช่วยระบายความร้อนที่เกิดขึ้นขณะใช้งานแบตเตอรี่ เพื่อให้แบตเตอรี่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น นอกจากนี้ SAIC Motor ยังได้พัฒนาเทคโนโลยีการเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบ Module โดยสามารถเปลี่ยนเฉพาะโมดูลที่เสียหายได้ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งหมด จึงลดค่าบำรุงรักษาในระยะยาว และมีการรับประกันแบตเตอรี่ยาวนานถึง 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร
ในส่วนของการชาร์จแบตเตอรี่นั้น สามารถชาร์จง่ายๆ ได้ที่บ้าน ผ่าน MG Home Charger โดยเมื่อชาร์จไฟเต็ม 100% ระบบจะทำการตัดไฟอัตโนมัติโดยไม่ต้องถอดที่ชาร์จออก และในกรณีที่ต้องเดินทางไกล จะสามารถตรวจสอบสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะได้ผ่านระบบ i-SMART ซึ่งเมื่อแบตเตอรี่มีระดับต่ำ ระบบจะมีการเตือนอัตโนมัติผ่านทางหน้าจอของรถ พร้อมทั้งแนะนำจุดชาร์จที่ใกล้ที่สุด
NEW MG ZS EV ขึ้นแท่นเป็นผู้นำตลาดรถพลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) ในประเทศไทย ด้วยการครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 91.5% ในปีที่ผ่านมา