Mercedes-Benz พับแผนรอบสองยุติทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ลุยหนัก “ปลั๊ก-อินไฮบริด”

“เบนซ์” เล็งทิ้งบัตรส่งเสริมอีวี ย้ำชัดเกิดยากลุยหนัก “ปลั๊ก-อินไฮบริด”

อัปเดตล่าสุด 24 มิ.ย. 2563
  • Share :

“เบนซ์” พับแผนรอบสองยุติทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า หลังเจรจาโควตานำเข้าและราคาขายไม่บรรลุผล 4 ดีลเลอร์ใหญ่เผยบริษัทแม่แจงเลื่อนเปิดตัวยาวติดปัญหานำเข้าเหตุโควิดระบาดหนัก ด้านเลขาฯบีโอไอยันยังไม่มีรายงานถอนตัว

แหล่งข่าวระดับบริหารจากบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แผนทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% (อีคิวซี) มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะไม่เกิดขึ้นในประเทศไทย ทั้งการนำเข้ามาจำหน่ายก่อน รวมถึงการขึ้นไลน์ผลิตในประเทศ และบริษัทได้เลื่อนการเปิดตัวรถรุ่นนี้ออกไปอย่างไม่มีกำหนด

แหล่งข่าวกล่าวว่า เดิมรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ อีคิวซี บริษัทเคยมีแผนยุติการทำตลาดมาหนหนึ่งหลังจากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลโดยเฉพาะจำนวนโควตานำเข้ามาบุกเบิกตลาดก่อน จนกระทั่งบริษัทแม่ที่เยอรมนีทบทวนแผนรุกตลาดในโซนอาเซียน จึงได้ตัดสินใจให้ประเทศไทยดำเนินการต่อ พร้อมแผนเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ แต่ก็ต้องเลื่อนออกมาถึง 3 ครั้ง ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

“เชื่อว่าผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิดน่าจะมีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และฟางเส้นสุดท้ายคงเป็นข้อกำหนดจำนวนรถยนต์ที่อนุญาตให้นำเข้ามาทดลองตลาด ซึ่งจำนวนที่บีโอไออนุญาตน้อยเกินไป”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อช่วงปลายปี 2562 ที่ผ่านมา นายโรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เคยให้สัมภาษณ์ว่า หลังยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนกับบีโอไอโปรเจ็กต์รถยนต์ไฟฟ้า ถึงวันนี้แผนงานทั้งหมดคงเป็นไปได้ยาก เพราะแนวทางการทำตลาดที่บริษัทเซตไว้กับนโยบายของรัฐบาลไทยไม่สอดรับกัน

ประธานเบนซ์ไทยแลนด์ระบุว่า รถยนต์ไฟฟ้าจะเกิดขึ้นได้นั้นจำเป็นต้องสร้างดีมานด์ให้เกิดขึ้นก่อนแล้วการลงทุนจึงจะตามมา แม้จะให้ค่ายรถยนต์สามารถนำรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100% เข้ามาทำตลาดได้ก่อนโดยได้ยกเว้นอากรขาเข้า แต่มีข้อจำกัดด้านจำนวนก็ไม่สำเร็จแน่ เพราะในเชิงการตลาดทำไม่ได้ รวมทั้งการจะนำรถยนต์สักรุ่นเข้ามาทำตลาดจำเป็นต้องวางระบบการขายและสร้างเน็ตเวิร์ก ยิ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100% จำเป็นจะต้องมีโครงข่ายสาธารณูปโภค สถานีชาร์จและอื่น ๆ รองรับ ดังนั้นวอลุ่มที่รัฐบาลกำหนดให้แค่หลักร้อยไม่คุ้มค่าการลงทุนแน่ เมอร์เซเดส-เบนซ์จำเป็นต้องประกาศยกเลิกแผนนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า 100% (อีคิวซี) ออกไปอย่างไม่มีกำหนด

และที่น่ากังวล คือ ประเทศไทยมีข้อตกลงทางการค้ากับจีน ซึ่งสามารถนำรถยนต์ไฟฟ้า 100% จากจีน โดยเสียภาษี 0% เข้ามาขายได้ ทำให้บริษัทแม่กำลังพิจารณาการลงทุนใหม่ โดยมีแนวคิดหันไปลงทุนในจีน เพื่อผลิตรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์พวงมาลัยขวา แล้วเอาเข้ามาขายในประเทศไทยแทน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ไทยแลนด์ ยืนยันล้มแผนทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ไม่นาน นายโฟล์เกอร์ก็กลับมาประกาศอีกครั้งว่า ได้หารือร่วมกับบริษัทแม่จนได้ยุติว่าจะเดินหน้าบุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% (อีคิวซี) อย่างจริงจัง และพร้อมเปิดตัวรถในงานมอเตอร์โชว์ 2563 คาดว่าภายในปี 2564 น่าจะขึ้นไลน์ผลิตในประเทศได้ พร้อมทั้งประกาศความพร้อมสำหรับตัวโรงงานผลิตเเบตเตอรี่ซึ่งร่วมทุนกับพันธมิตร ธนบุรีประกอบยนต์ โดยได้เปิดดำเนินการโรงงานเมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ล่าสุดสถานการณ์ก็ไม่เป็นไปตามประกาศและมีแนวโน้มที่จะล้มโปรเจ็กต์นี้ด้วย

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ผู้บริหารจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้เข้าพบผู้บริหารบีโอไอ หารือโปรเจ็กต์ดังกล่าว ในการหารือครั้งนี้มีกระทรวงพลังงานเข้าร่วมด้วย ปรากฏว่าไม่สามารถบรรลุข้อตกลง ทั้งจำนวนรถที่อนุญาตนำเข้ามาทำตลาดและราคาขาย ทั้ง 2 ประเด็นนี้อาจทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ตัดสินใจเลื่อนทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ออกไปอย่างไม่มีกำหนด แต่อย่างไรก็ตาม หลังบีโอไอให้บัตรส่งเสริม ถ้าเอกชนไม่ดำเนินการตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดก็ถือว่าสละสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ

สอดคล้องกับ 4 ตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ได้รับแต่งตั้งให้ทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากล่าวยอมรับว่า บริษัทแม่ได้แจ้งเลื่อนแผนงานเปิดตัวไปปลายปีนี้ โดยให้เหตุผลว่ายังอยู่ระหว่างเจรจากับรัฐบาล รวมทั้งผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19

“เรา 4 รายได้รับแต่งตั้งให้ขายรถยนต์ไฟฟ้า 100% เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่วนจะมีรถให้ขายเมื่อไหร่ คงต้องรอนโยบายบริษัทแม่”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การยกเลิกทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ของเมอร์เซเดส-เบนซ์นั้น แม้หลายภาคส่วนจะมองว่าไม่น่าเกิดขึ้นได้ เพราะเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ประกาศลงทุนโรงงานแบตเตอรี่ไปหลายพันล้านบาท น่าจะเป็นตัวยืนยันความคืบหน้าของโครงการนี้ได้ระดับหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่ผลิตนั้นไม่ได้ซัพพลายเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า 100% หรืออีคิวซีเท่านั้น แต่ยังซัพพลายให้กับรถยนต์กลุ่มปลั๊ก-อิน ไฮบริด ซึ่งตอนนี้มีสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนผลิตทั้งหมดในปัจจุบัน

ด้านนางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ยังไม่ได้รับรายงานว่าเบนซ์จะถอนการลงทุนโปรเจ็กต์รถยนต์ไฟฟ้า (EV) แต่หากประเมินสภาพตลาดรถยนต์ในตอนนี้และตลอดทั้งปีที่มียอดขายลดลงต่อเนื่อง ผู้บริโภคยังไม่ตัดสินใจซื้อรถใหม่ในช่วงนี้แน่ บวกกับสถานการณ์โควิด-19 ดังนั้นการชะลอการลงทุนก็เกิดขึ้นได้กับทุกประเทศ ส่วนการจะเจรจากันใหม่เพื่อดึงให้เมอร์เซเดส-เบนซ์กลับมาลงทุนนั้น คงต้องดูก่อนว่าเขาประกาศยุติจริงหรือเปล่า และคงต้องดูสภาพตลาดก่อน อยู่ที่ตัวเอกชนรวมถึงสถานการณ์อื่น ๆ ด้วย

อ่านต่อ: