ไทยซับคอน (Thai Subcon) ประกาศเดินหน้าพัฒนาสมาชิกผู้ผลิตชิ้นส่วนกว่า 400 โรงงาน เพิ่มโอกาสทางการค้าสู่อุตสาหกรรม S-Curve

ส.ไทยซับคอน ประกาศเดินหน้าพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วนกว่า 400 โรงงาน เพิ่มโอกาสทางการค้าสู่อุตสาหกรรม S-Curve

อัปเดตล่าสุด 16 พ.ย. 2563
  • Share :
ไทยซับคอน  ประกาศเดินหน้าแนวทางการพัฒนาสมาชิกผู้ผลิตชิ้นส่วนกว่า 400 โรงงาน เพิ่มโอกาสทางการค้า สู่อุตสาหกรรม S-Curve ในโอกาสการประชุมกรรมการบริหารสมาคมชุดใหม่ โดยนายเกียรติศักดิ์ จิระขจรวงศ์ ได้รับมติเอกฉันท์ในการดำรงตำแหน่งนายกสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย หรือ Thai Subcon ต่ออีกวาระในปี 2563 – 2565
 
ในงานการประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทยชุดใหม่ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมมิราเคิล สนามบินสุวรรณภูมิ โดยนายเกียรติศักดิ์ จิระขจรวงศ์ ซึ่งได้รับมติเอกฉันท์ในการดำรงตำแหน่งนายกสมาคมต่ออีกวาระในปี 2563 – 2565 พร้อมด้วยทีมผู้บริหารคนรุ่นใหม่จากบริษัทสมาชิก และที่ปรึกษาจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา ได้แถลงวิสัยทัศน์ในการดำเนินงานของสมาคมฯ ในการประชุมครั้งนี้
 
วิสัยทัศน์ในการดำเนินงานของสมาคมฯ วาระปี 2563 – 2565
  1. สมาคมมีความเข็มแข็ง เป็นที่พึ่งและกระดูกสันหลังของกลุ่มอุตสาหกรรมไทย
  2. สมาคมมีชื่อเสียงในระดับสากลเป็นที่ยอมรับจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 

 

เดินหน้าพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วนสู่อุตสาหกรรม S-Curve

การผลักดันสมาชิกสู่การเป็นผู้ผลิตในอุตสาหกรรมใหม่ใน S-Curve เป็นหนึ่งในนโยบายที่ตอบรับวิสัยทัศน์ดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมฯ สามารถรวมกลุ่มสมาชิกและสร้างคลัสเตอร์ให้เข้มแข็งในระดับหนึ่งแล้วมีจำนวน 5 คลัสเตอร์ ซึ่งสมาคมฯ มุ่งมั่นในการเชื่อมโยงสมาชิกให้เข้าถึงผู้ซื้อ เพื่อให้ได้รับการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีในอุตสาหกรรม S -Curve 
  • คลัสเตอร์อุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติเพื่อการอุตสาหกรรม
  • คลัสเตอร์อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์
  • คลัสเตอร์อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร
  • คลัสเตอร์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ 
  • คลัสเตอร์อุตสาหกรรมระบบราง 
นอกจากนี้ สมาคมฯ ได้รวมกลุ่มบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ทั้งชิ้นส่วนโลหะ ยาง พลาสติก อิเล็กทรอนิกส์ บรรจุภัณฑ์ รวมไปถึงงานบริการบำรุงซ่อมแซมเครื่องจักร โดยสมาชิกสามารถสนับสนุนและผลิตชิ้นส่วนได้เกือบทุกอุตสาหกรรม ในปีที่ผ่านมาสมาคม Thai Subcon ได้จัดกิจกรรมที่สำคัญ ๆ ให้กับสมาชิก เช่น (1) ร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สร้างและพัฒนาคลัสเตอร์ยานยนต์แห่งอนาคตและคลัสเตอร์อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (2) ร่วมวิจัยพัฒนาและผลิตชุดหน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบคลุมศีรษะ พร้อมชุดกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (PAPRs) ร่วมกับโรงพยาบาลและมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อใช้ทดแทนการนำเข้าหน้ากาก N95 โดยได้บริจาคไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆ แล้วมากกว่า 1,000 ชุด (3) ร่วมกันกับสมาชิกผลิตและรวบรวมของบริจาคอุปกรณ์ป้องกัน Covid-19 เช่น ถุงมือทางการแพทย์, หน้ากากอนามัย, กล่องอะคลิลิค เป็นต้น บริจาคให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ มากกว่า 60 แห่งทั่วประเทศไทย (4) จัดงานแสดงสินค้า Subcon Thailand ที่ ซึ่งเป็นงานแสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยมีการจัดงานให้กับสมาชิกทุกปี และในปีนี้ก็จัดเป็นปีที่ 16 แล้ว (5) ได้รับความอนุเคราะห์จาก สสว. กองทัพอากาศ และบริษัทอุตสาหกรรมการบิน จำกัด (TAI) เปิดโอกาสให้สมาชิกผู้ประกอบการได้เข้าเยี่ยมชมและศึกษาดูงานกิจการของ TAI ณ ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน กองบิน 2 จ. ลพบุรี และที่อำเภอตาคลี จ. นครสวรรค์ (6) นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้ร่วมมือกับบริษัท TAI ทำโครงการโดรนต้นแบบ ให้ผู้ประกอบการไทยได้มีโอกาสที่จะผลิตชิ้นส่วนโดรนให้กับกองทัพอากาศ และยังได้ร่วมวิจัย พัฒนา และผลิตอุปกรณ์ภาคพื้น (Ground Equipment Service) โดยคนไทย สำหรับใช้ในศูนย์ซ่อมอากาศยานของ TAI เป็นต้น
 
 
 
 
"สมาชิก Thai Subcon นั้นมีความเชี่ยวชาญในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ต้องใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ประกอบกับอุตสาหกรรมยานยนต์มีการแข่งขันค่อนข้างสูง สมาชิกจึงต้องพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น อุตสาหกรรมใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนอะไร  Thai Subcon จึงพูดได้เต็มปากว่าสมาชิกของเราสามารถทำได้หมด เพียงแต่ต้องได้รับโอกาสในการผลิต ให้สมาชิกไทยซับคอนได้เป็นจุดเริ่มต้น เป็นก้าวแรก ๆ ที่จะสร้าง Supply chain ของอุตสาหกรรม S-Curve ให้กับประเทศชาติ  หากวันนี้ภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุน สมาชิก Thai Subcon แน่นอนว่าต่อไปประเทศไทยจะพึ่งพาตนเองได้ ไม่ต้องนำเข้าชิ้นส่วนอุปกรณ์ในอุตสาหกรรม S-Curve จากต่างประเทศเหมือนในอดีตอีกต่อไป" นายเกียรติศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
 
 
อ่านต่อ: