323-Nissan-e-Power-ไทย

“นิสสัน” หวังใช้ไทยฐานผลิต “อี-เพาเวอร์” นอกญี่ปุ่น

อัปเดตล่าสุด 16 พ.ค. 2563
  • Share :

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 นิสสันยืนยันอย่างเป็นทางการว่า กำลังจะเปิดตัวเทคโนโลยีอี-เพาเวอร์ (e-Power) ที่โด่งดังในเร็ว ๆ นี้ในประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ของโลก ที่กำลังจะได้สัมผัสเทคโนโลยีที่ผสานระบบมอเตอร์ไฟฟ้า 100% เข้ากับระบบเครื่องยนต์สันดาปภายในเพื่อการชาร์จแบตเตอรี่ โดยไม่ต้องพึ่งพาการชาร์จแบตเตอรี่จากภายนอก ทั้งยังเป็นประเทศแรกในโลกที่ได้ทำการผลิตเทคโนโลยีอี-เพาเวอร์นี้ ต่อจากประเทศญี่ปุ่น

เทคโนโลยีอี-เพาเวอร์โดดเด่น และแตกต่างจากเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าอื่น ๆ ในประเทศไทย โดยลูกค้าจะได้รับประโยชน์และประสบการณ์การขับขี่ ที่เสมือนรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ อาทิ แรงบิด และอัตราการเร่งที่ทันใจ แต่ไม่จำเป็นต้องชาร์จไฟฟ้าจากภายนอก เทคโนโลยีอี-เพาเวอร์จะช่วยขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมยานยนต์ก้าวสู่การขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า 100% และจะทำให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์การขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้า ที่เหมาะสมกับความต้องการใช้งานและไลฟ์สไตล์

“นิสสันมุ่งมั่นที่จะปรับเปลี่ยนวิถีการขับขี่ และการใช้ชีวิตของผู้คน ในฐานะผู้นำของการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เราได้ตัดสินใจที่จะนำเทคโนโลยีอี-เพาเวอร์ที่ล้ำสมัยมาสู่ประเทศไทยในเวลาที่เหมาะสม ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต และส่งออกที่สำคัญสำหรับนิสสัน อีกทั้งยังเป็นผู้นำในภูมิภาคเพื่อการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของบริษัทในการเปลี่ยนเข้าสู่การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า สิ่งเหล่านี้เป็นการตอกย้ำในเจตนารมณ์ของนิสสันที่มีต่อประเทศไทย ลูกค้าชาวไทยที่มีค่าของเรา รวมถึงพนักงานของเรา” ราเมช นาราสิมัน ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าว

การประกาศในครั้งนี้ตอกย้ำความสำคัญของวิสัยทัศน์ด้านการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย ด้วยการทำให้ลูกค้าชาวไทยมั่นใจได้ว่าจะสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของนิสสันได้ อีกทั้งยังเป็นการเน้นถึงความมุ่งมั่นในระยะยาวต่อประเทศไทย หลังจากได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ในการผลิตเทคโนโลยีอี-เพาเวอร์ที่โรงงานในจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติที่รัฐบาลกำหนดไว้ตามแผนแม่บทในด้านการขับเคลื่อนไปสู่การใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า

เทคโนโลยีเครื่องยนต์อี-เพาเวอร์ของนิสสัน ได้รับรางวัล “เทคโนโลยีแห่งปี” โดยสมาคมนักวิจัยและผู้สื่อข่าวยานยนต์ของประเทศญี่ปุ่น เมื่อเร็ว ๆ นี้ และได้รับความนิยมอย่างมากมายหลังเปิดตัวครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี พ.ศ. 2559 โดยยอดขายสองในสามของรถยนต์นิสสัน โน๊ต เป็นรุ่นอี-เพาเวอร์ ทำให้นิสสัน โน๊ต เป็นรถยนต์รุ่นที่ขายดีที่สุดในกลุ่มประเภทรถดังกล่าว ในประเทศญี่ปุ่นเทคโนโลยีอี-เพาเวอร์พัฒนาต่อยอดมาจากนิสสัน ลีฟ ใหม่ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่ขายดีที่สุดในโลกด้วยจำนวนกว่า 470,000 คัน สิ่งที่แตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปคือ เทคโนโลยีอี-เพาเวอร์ประกอบไปด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า และอินเวอร์เตอร์เพื่อจะไม่ต้องใช้การชาร์จไฟฟ้าจากภายนอก และขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100%
ภายใต้การขับเคลื่อนของเทคโนโลยีอี-พาเวอร์นั้น ล้อจะถูกขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น โดยจะใช้พลังงานไฟฟ้าที่ได้จากเครื่องยนต์สันดาปภายใน โดยที่เครื่องยนต์จะไม่ได้ทำงานเฉพาะการชาร์จสู่แบตเตอรี่เท่านั้น แต่ยังให้กำเนิดกระแสไฟฟ้าจ่ายสู่อินเวอร์เตอร์ และไปสู่มอเตอร์ไฟฟ้า เมื่อต้องการเร่งความเร็วเป็นพิเศษ หรือขึ้นที่สูงชัน มอเตอร์ไฟฟ้าจะได้รับพลังงานจากทั้งแบตเตอรี่และเครื่องยนต์เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์ ซึ่งเทคโนโลยีอี-เพาเวอร์จะให้ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่เหนือกว่าและปล่อยไอเสียน้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์สันดาปภายในทั่วไป

คุณสมบัติที่โดดเด่นสำหรับลูกค้าชาวไทย คือ เทคโนโลยีอี-เพาเวอร์นั้น ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน 100% มอบความเงียบ และประสบการณ์การขับขี่เฉกเช่นรถยนต์ไฟฟ้า ให้อัตราการเร่งที่เร้าใจ การตอบสนองและอัตราการใช้เชื้อเพลิงที่ยอดเยี่ยม ซึ่งระบบอันเป็นเอกสิทธิ์ของนิสสันนี้ ไม่จำเป็นต้องมีการชาร์จไฟจากภายนอก เนื่องจากใช้เครื่องยนต์สร้างกระแสไฟฟ้าชาร์จสู่แบตเตอรี่

“ประเทศไทยได้รับการคัดเลือกในการเปิดตัวเทคโนโลยีอี-เพาเวอร์ ที่จะสร้างความแตกต่างนี้ต่อจากประเทศญี่ปุ่น เรามีความตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะแนะนำเครื่องยนต์อันล้ำสมัยนี้ให้แก่ลูกค้าชาวไทยที่มีค่าของเรา รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงทักษะและความเชี่ยวชาญด้านการผลิตของฐานการผลิตในประเทศของเรา”

อ่านต่อ: