นิสสันลั่นกวาดแชร์บี-เอสยูวี เชื่อ 3 จุดขาย “คิกส์อี-เพาเวอร์” กินขาด

อัปเดตล่าสุด 15 พ.ค. 2563
  • Share :

นิสสันฝ่าวิกฤตโควิดส่ง “คิกส์ อี-เพาเวอร์” ลุยตลาดบี-เอสยูวี ท้าแย่งแชร์ “ซี-เอชอาร์ และเอชอาร์-วี” มั่นใจ 3 จุดขาย “ไฟฟ้า 100%-เร็วแรง-บำรุงรักษาเท่าอีโคคาร์” เล็งลุยส่งออก

ตลาดบี-เอสยูวี หรือครอสโอเวอร์ในบ้านเรา ถือว่าคึกคักไม่น้อย ด้วยเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่ แต่กระแสโควิด-19 ทำให้หลายแบรนด์หยุดชะงักไปพักใหญ่ และหันมาใช้แนวรุกตลาดออนไลน์ ซึ่งก่อนหน้านี้ มาสด้าซีเอ็กซ์-30 ก็เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตามมาด้วยเอ็มจี แซดเอส ไมเนอร์เชนจ์

ล่าสุด แหล่งข่าวจากบริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ได้แนะนำคิกส์ อี-เพาเวอร์ ออกสู่ตลาดอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 พ.ค.นี้

หลังจากก่อนหน้าได้เลื่อนแผนเปิดตัวจากเดิมเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมาและพร้อมอวดโฉมในงานมอเตอร์โชว์ วันที่ 13-26 ก.ค.นี้

“เราจะเปิด คิกส์ อี-เพาเวอร์ ผ่านเฟซบุ๊ก Nissan Thailand วันที่ 15 พ.ค.นี้ ช่วง 19.00 น.”

สำหรับเป้าหมายอี-เพาเวอร์ นิสสันเจาะกลุ่มลูกค้าช่วงอายุระหว่าง 25-45 ปี เป็นกลุ่มผู้หญิง 59% ผู้ชาย 41% ที่มีไลฟ์สไตล์ชอบเข้าสังคม ชอบช็อปปิ้งออกกำลังกาย ท่องโลกอินเทอร์เน็ต เล่นโซเชียล และชอบท่องเที่ยวทั้งใน-นอกเมือง รายได้ขั้นต่ำ 30,000 บาทต่อเดือน หรือรายได้ครอบครัวเฉลี่ย 60,000-100,000 บาทต่อเดือน อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่และกรุงเทพฯ จุดขายอี-เพาเวอร์ มี 3 ประเด็นหลัก 1.ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% โดยไม่ต้องชาร์จไฟ 2.เร้าใจแรงและเร็วในทุกอัตราเร่ง โดยไม่ต้องรอรอบ 3.ค่าบำรุงรักษาเท่าอีโคคาร์

“เราวางตำแหน่งสินค้าระดับเดียวกับโตโยต้า ซี-เอชอาร์ และฮอนด้า เอชอาร์-วี ซึ่งรถในกลุ่มนี้มีอัตราการเติบโตดีมาก”

ส่วนเป้ายังไม่ได้กำหนด เพราะตลาดถูกกระทบจากไวรัสโควิด เดือนเมษายนที่ผ่านมา นิสสันทำได้ 1,804 คัน

ส่วน 4 เดือนแรกทำได้ 15,300 คัน นิสสัน คิกส์ ใช้เครื่องยนต์ 1.3 ลิตร 3 สูบ ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟไปเก็บไว้ที่แบตเตอรี่ โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้า 95 กิโลวัตต์ 129 แรงม้า เป็นตัวขับเคลื่อน ใช้แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออนขนาดเล็ก ติดตั้งอยู่บริเวณใต้เบาะนั่ง ทำให้ได้พื้นที่บรรทุกสัมภาระเต็มที่ มี 3 โหมด D Normol mode, Ds Smart moed และ D Eco ECO mode นุ่มนวลประหยัดพร้อมปุ่ม EVเพื่อตัดการทำงานของเครื่องยนต์ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่โดยตรงรับประกันแบตเตอรี่ถึง 10 ปี มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย

ส่วนราคาราว ๆ 9 แสนกว่าบาท ก่อนหน้านี้ นิสสันพยายามผลักดันเทคโนโลยีอีพาวเวอร์ให้เข้าหมวดรถอีวี เสียภาษีสรรพสามิตเป็น 0% แต่บีโอไอพิจารณาให้อยู่ในหมวดไฮบริดเสียภาษี 10% เท่านั้น

โดยนิสสันใช้เงินลงทุนกับโครงสร้างรถไฟฟ้าไฮบริด และปลั๊ก-อิน ไฮบริด ไปทั้งสิ้น 10,960 ล้านบาท ใน อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ โดยบริษัทมีแผนที่จะใช้วัตถุดิบในประเทศอีก 15,920 ล้านบาทต่อปี เป็นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมรุ่นอี-เพาเวอร์ ซึ่งเดิมมีฐานการผลิตเพียงแห่งเดียวคือ ญี่ปุ่น โดยจะใช้ไทยเป็นฐานส่งออก ถือเป็นเทคโนโลยีหลักในการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยียานยนต์จากระบบเครื่องยนต์ไปสู่ระบบไฟฟ้า

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานเพิ่มเติมว่า ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ยอดรถในกลุ่มบี-เอสยูวี จาก 4 รุ่นหลัก มียอดขายที่ 853 คัน แบ่งเป็น มาสด้า ซีเอ็กซ์-30 จำนวน 346 คัน, มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 จำนวน 31 คัน, ฮอนด้า เอชอาร์-วี จำนวน 211 คัน และโตโยต้า ซี-เอชอาร์ จำนวน 265 คัน

ส่วนยอดขาย 4 เดือนมีทั้งสิ้น 5,530 คัน แบ่งเป็น มาสด้า ซีเอ็กซ์-30 จำนวน 787 คัน, มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 จำนวน 353 คัน, ฮอนด้า เอชอาร์-วี 2,771 คัน และโตโยต้า ซี-เอชอาร์ 1,619 คัน

 

อ่านต่อ: