บ้านปูฯ ลุยขยายพอร์ตพลังงานสะอาด ชู 6 ธุรกิจย่อย รับเทรนด์พลังงานแห่งอนาคต

อัปเดตล่าสุด 27 มี.ค. 2563
  • Share :

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจพลังงานแบบครบวงจรแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เดินหน้าขยายพอร์ตธุรกิจพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงานเต็มรูปแบบ ด้วย บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด (BANPU NEXT) ซึ่งมีกำลังผลิตรวมทั้งสิ้น 674 เมกะวัตต์ ล่าสุดเปิดเกมรุกเต็มสูบสยายปีกธุรกิจรองรับเทรนด์พลังงานแห่งอนาคต ด้วย 6 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ (Renewable Energy Power Plant)  ธุรกิจระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนสำหรับลูกค้ารายย่อย (Renewable Energy Microgeneration Systems) ธุรกิจระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System หรือ ESS) ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle หรือ EV)  ธุรกิจบริหารจัดการระบบการใช้พลังงานให้เกิดประสิทธิภาพ (Energy Efficiency หรือ EE)  ธุรกิจเอนเนอร์จี เทคโนโลยี แอ็กเซสซอรี่ (Energy Technology Accessories) ชูจุดแข็งผู้ให้บริการสมาร์ทโซลูชันด้านพลังงานสะอาดที่มีบริการที่หลากหลาย ครบวงจร ส่งมอบสินค้าพร้อมโซลูชันที่ดีที่สุดในราคาที่เหมาะสมให้แก่ลูกค้า ตั้งเป้าอีก 5 ปีข้างหน้าเพิ่มกำลังผลิตโตกว่า 1,600 เมกะวัตต์ พร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่ผู้นำธุรกิจพลังงานที่ยั่งยืน
 
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เมื่อปลายปี 2562 บ้านปูฯ สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ด้วยการจัดทัพพอร์ตธุรกิจพลังงานสะอาด โดยควบรวม 2 บริษัทย่อย ได้แก่ บ้านปู อินฟิเนอร์จี ผู้ให้บริการด้านการวางระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ และสมาร์ทซิตี้โซลูชันแบบครบวงจร และบ้านปู รีนิวเอเบิล เอนเนอร์จี ผู้นำธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เข้าด้วยกันภายใต้กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน พร้อมจัดตั้งบริษัทใหม่ บ้านปู เน็กซ์ เป็นผู้ดูพอร์ตธุรกิจดังกล่าว โดยวางจุดยืนให้เป็นผู้ให้บริการสมาร์ทโซลูชันด้านพลังงานสะอาดแบบครบวงจรในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก”
 
บ้านปู เน็กซ์ ดำเนินธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานสะอาดแบบครบวงจร ภายใต้กลยุทธ์ของบ้านปูฯ Greener & Smarter และจะเป็นกุญแจสำคัญในการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ในธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาด และทุกภาคส่วน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ และสร้างระบบนิเวศธุรกิจ (Business Ecosystem) ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง  โดยปัจจุบันธุรกิจภายใต้การดำเนินงาน 6 กลุ่ม ดังนี้ 

  • ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ (Renewable Energy Power Plant) ให้บริการวางระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ได้แก่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม ปัจจุบันมีกำลังผลิตพลังงานรวมทั้งสิ้น 497 เมกะวัตต์ โดยมาจากการเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในจีนและญี่ปุ่น มีกำลังผลิตรวม 417 เมกะวัตต์  และการเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม ด้วยกำลังการผลิต 80 เมกะวัตต์3 
  • ธุรกิจระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนสำหรับลูกค้ารายย่อย (Renewable Energy Microgeneration Systems) ให้บริการวางระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา หรือโซลาร์รูฟท็อป สำหรับอุตสาหกรรมและธุรกิจขนาดใหญ่ โดยให้บริการครอบคลุมตั้งแต่การสำรวจพื้นที่ การออกแบบระบบ การเข้าติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และสมาร์ทซิตี้โซลูชัน ด้วยเทคโนโลยีพลังงานสะอาดขั้นสูงและทันสมัยแบบครบวงจร และทีมวิศวกรมืออาชีพ รวมถึงมีการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาเสริมประสิทธิภาพในการให้บริการหลังการขายที่ดูแลลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากองค์กรชั้นนำในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวม 177 เมกะวัตต์4
  • ธุรกิจระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System หรือ ESS) บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นต่อยอดประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานสะอาดสู่ธุรกิจระบบกักเก็บพลังงาน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและพัฒนาเพื่อให้บริการระบบจัดเก็บพลังงานเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การใช้งานร่วมกับระบบโซลาร์เพื่อเป็นแหล่งสำรองไฟฟ้า (Uninterruptible Power Supply หรือ UPS) การใช้งานสำหรับระบบสมาร์ทกริด หรือ ไมโครกริด (Smart Grid, Microgrid) เพื่อช่วยลูกค้าลดค่าไฟฟ้าด้วยการบริหารการใช้ไฟฟ้าในช่วงความต้องการไฟฟ้าสูง (On Peak)
  • ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle หรือ EV) ให้บริการยานยนต์ไฟฟ้าและขนส่งแบบครบวงจรรายแรกของประเทศไทย ภายใต้แนวคิด Mobility as a service ที่มอบโซลูชันและบริการแบบ One stop service ตั้งแต่ให้คำปรึกษา ศึกษารูปแบบความต้องการใช้งาน และจัดหายานยนต์ที่เหมาะกับการดำเนินงานของแต่ละองค์กร ดูแลบริการหลังการขาย ตลอดจนนำเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ และเทคโนโลยีดิจิทัลมาผสานเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการมอบบริการหลังการขาย
  • ธุรกิจบริหารจัดการระบบการใช้พลังงานให้เกิดประสิทธิภาพ (Energy Efficiency หรือ EE) ให้คำปรึกษาด้านการจัดการระบบการใช้พลังงานที่มุ่งส่งมอบโซลูชันในการใช้พลังงานที่เหมาะกับแต่ละองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมตรวจสอบ และวิเคราะห์แนวทางในการลดต้นทุนด้านการใช้พลังงาน เพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจของลูกค้าอย่างยั่งยืน โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน ด้านเทคโนโลยี และทีมวิศวกรเป็นผู้ดูแลในทุกขั้นตอน
  • ธุรกิจเอนเนอร์จี เทคโนโลยี แอ็กเซสซอรี่ (Energy Technology Accessories) นำเสนอโซลูชันด้านเทคโนโลยีพลังงานล้ำสมัย เพื่อมอบเป็นทางเลือกในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และสร้าง Ecosystem ด้านการใช้พลังงานสะอาดที่ครบวงจร และมีประสิทธิภาพสูงสุดให้แก่ลูกค้า อาทิ สมาร์ทโพล (Smart Pole) โซลาร์คีออส (Solar Kiosk) และสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Stations)

 
“การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สร้างความแข็งแกร่งและตอกย้ำบ้านปูฯ ในฐานะที่เป็นผู้นำธุรกิจพลังงานแบบครบวงจร ทั้งยังเพิ่มโอกาสในการขยายพอร์ตพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงานที่ตอบเทรนด์พลังงานของโลก สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของบ้านปู เน็กซ์ เราจะเดินหน้าสร้างการรับรู้ถึงจุดแข็งของบริษัทฯ ทั้งด้านบริการแบบครบวงจร โซลูชันที่หลากหลายในราคาที่เหมาะสม และมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย รวมถึงความเชี่ยวชาญและคุณภาพของทีมงาน เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า ทั้งยังมุ่งขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิตเป็น 1,600 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 ในฐานะผู้ให้บริการสมาร์ทโซลูชันด้านพลังงานสะอาดแบบครบวงจรในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่มีเทคโนโลยีพลังงาน และสมาร์ทโซลูชันที่หลากหลายและครบวงจร ตลอดจนจะเดินหน้าผนึกความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันการใช้พลังงานสะอาด เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นสมาร์ทซิตี้อย่างสมบูรณ์” นางสมฤดี กล่าวทิ้งท้าย