โลโก้ใหม่ของ Nissan ได้เปิดตัวพร้อม “Nissan Ariya” รถยนต์ไฟฟ้า Crossover SUV

เปิดตัวโลโก้ใหม่ Nissan พร้อมรถยนต์ไฟฟ้า Crossover SUV “Nissan Ariya”

อัปเดตล่าสุด 12 ส.ค. 2563
  • Share :

นิสสัน มอเตอร์ (Nissan Motor) เดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ 4 ปี (FY2020-2023) ซึ่งมีเซกเมนต์รถยนต์ไฟฟ้าเป็น 1 ใน 4 ที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญ โดยความคืบหน้าล่าสุด "โลโก้ดีไซน์ใหม่" ได้เปิดตัวพร้อมรถยนต์ไฟฟ้า Crossover SUV รุ่นใหม่ “Nissan Ariya” 

โลโก้ใหม่นี้ เป็นการเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ของ Nissan ซึ่งเป็นเครื่องหมายแทนตัวของยานยนต์ และเปรียบได้กับสัญญาณแรกแห่งการมาพบกันระหว่างความตื่นเต้นจากการขับขี่ยานยนต์ของ Nissan และลูกค้ากว่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมา และเป็นไปตามวิสัยทัศน์ “Shisei tenjitsu o tsuranuku” ซึ่ง Mr. Yoshisuke Aikawa ผู้ก่อตั้งบริษัท ตีความว่า

“หากมีความเชื่อมั่นที่แข็งกล้า มันจะพาทะลุไปได้แม้ดวงอาทิตย์”

ซึ่งโลโก้ที่ถูกออกแบบใหม่นี้ นอกจากจะยังคงวิสัยทัศน์นี้เอาไว้แล้ว ยังสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงของสังคมตลอดช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา และสื่อถึงก้าวใหม่ของ Nissan ซึ่งจะเป็นจุดเชื่อมระหว่างมรดกทางวัฒนธรรม และนวัตกรรม สู่ยุคอนาคตตที่กำลังจะมาถึง โดยคงชื่อบริษัทไว้ที่ใจกลางของโลโก้ เพื่อให้จดจำได้ง่ายและสื่อถึงแบรนด์เดิม พร้อมกับจินตนาการได้ในทันทีที่เห็น

แนวทางการออกแบบ Nissan’s new logo

โลโก้ใหม่ของ Nissan เริ่มต้นขึ้นในช่วงฤดูร้อนปี 2017 โดย Alfonso Albaisa รองประธานฝ่ายออกแบบของบริษัท ซึ่งได้รักษาอัตลักษณ์ และศึกษาความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนโลโก้ พร้อมตั้งทีมออกแบบร่วมกับ  Tsutomu Matsuo รองผู้จัดการทั่วไปจากแผนก Advanced Design เพื่อศึกษาวิวัฒนาการที่ผ่านมา และการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่โดยสมบูรณ์ภายใต้คีย์เวิร์ด “บาง เบา และยืดหยุ่น”

Alfonso Albaisa แสดงความเห็นว่า การออกแบบครั้งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการเชื่อมต่อ อันนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงของลูกค้า และทำให้เห็นภาพของ Digitalization จากนั้นจึงใช้เวลา 2 ปี ในการออกแบบ โดยยึดถือประโยคที่ว่า “จงหลงไหล จงพัฒนา จงท้าทาย” ของผู้อำนวยการ Yoshisuke Aikawa เป็นแนวทาง

ในช่วงแรกของการดำเนินการออกแบบนั้น ทางทีมมีแนวคิดว่าจะให้โลโก้สามารถส่องแสงได้ในรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้การออกแบบประสบความท้าทายเป็นอย่างมาก เช่น โลโก้ควรใช้เส้นหนาเท่าใด เมื่อส่องสว่างแล้วจึงจะยังมองเห็นชัด และเมื่อโลโก้ส่องแสงแล้ว จะเป็นไปตามกฎจราจร และข้อบังคับจากภาครัฐหรือไม่ นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงว่าหากนำโลโก้ไปใช้ที่อื่นที่ไม่สามารถส่องแสงได้ เช่น บนเอกสาร โลโก้จะยังดึงดูดหรือไม่ ทำให้จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการนำไปใช้บนสื่อทุกช่องทางอย่างเท่าเทียม

ผลลัพธ์ที่ได้ คือ โลโก้แบบสองมิติ ชูดีไซน์ให้โดดเด่น และสามารถนำไปใช้ได้อย่างหลากหลาย แม้ในขั้นตอนการออกแบบช่วงแรกจะได้โลโก้เป็นแบบสามมิติก็ตาม แต่ก็มีการปรับเปลี่ยนเป็นสองมิติในที่สุด โดยเป็นการสะท้อนการเปลี่ยนผ่านจากยุคอุตสาหกรรมแบบที่ผ่านมาสู่ยุคดิจิทัล เพื่อเป็นการสื่อว่า Nissan จะไม่ใช่แค่ผู้ผลิตยานยนต์ แต่รวมถึงด้านคมนาคมและบริการอีกด้วย

Tsutomu Matsuo แสดงความเห็นว่าโลโก้ใหม่นี้ นอกจากการสื่อสารแล้ว ยังเป็นการแสดงถึงความเชื่อมั่นเช่นเดียวกับโลโก้เดิม ซึ่งบริษัทเชื่อว่าความพยายามไขว่คว้าเป้าหมายเป็นสิ่งที่ไม่มีวันสั่นคลอน สำหรับ Nissan ก็คือ ความพยายามในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ระบบสนับสนุนการขับขี่ และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ ซึ่งบริษัทต้องการสื่อสิ่งนี้ให้กับลูกค้า พนักงาน และสังคมให้ได้ประจักษ์

หลังจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้าของ Nissan ทุกรุ่นจะใช้โลโก้ใหม่ ซึ่งสามารถส่องสว่างได้ด้วยหลอด LED 20 ดวง เทียบเท่ากับจำนวนปีระหว่างการเปลี่ยนโลโก้เก่าสู่ใหม่ เพื่อย้ำว่ารถยนต์ไฟฟ้าคืออนาคต โดยมี Nissan Ariya เป็นรุ่นแรกที่ใช้ในฐานะตัวแทนของการขับเคลื่อน พลังงาน และการประยุกต์ใช้อย่างชาญฉลาด จากนั้นจึงจะตามด้วยรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ในอนาตต

Nissan Ariya คือ สัญลักษณ์แห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญสู่รถยนต์ไฟฟ้า 100% 
และจากนี้ไป รถยนต์ไฟฟ้าของ Nissan ทุกรุ่นจะใช้โลโก้ใหม่
 

ย่างก้าวใหม่ครั้งนี้เป็นผลพวงจากองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่สั่งสมมาเป็นเวลานาน และเป็นไปตามแนวทางการปรับกลยุทธ์ที่ได้ประกาศไว้ถึงการตั้งเป้าหมายยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 1 ล้านคันภายในปีงบประมาณ 2023 ซึ่งแสดงออกถึงการให้ความสำคัญต่อรถยนต์ไฟฟ้าของนิสสัน

Mr. Makoto Uchida CEO บริษัท Nissan กล่าวแสดงความเห็นว่า “Nissan Ariya ถูกออกแบบเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยรวมจุดแข็งด้านเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า และครอสโอเวอร์ของบริษัทฯ เข้าด้วยกันไว้ในยานยนต์รุ่นนี้”

นอกจากนี้ ยังมีรายงานถึงการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่รวดเร็วในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนเปิดตัวยานยนต์โมเดลใหม่รวมทั้งหมด 12 รุ่นภายในปี 2021 เพื่อตอบรับความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า และ Connected Car ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต พร้อมประกาศเป้าหมายใหม่เพิ่มเติมสำหรับยานยนต์ที่ติดตั้งเทคโนโลยีอัตโนมัติที่จะมีการเปิดตัวรวมทั้งหมด 20 รุ่น ใน 20 ตลาด ซึ่งตั้งไทม์ไลน์ไว้ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยมีเป้าหมายยอดขายอยู่ที่ 1.5 ล้านคันทั่วโลก

 

อัปเดตข่าว Nissan