ซัมซุงกรุ๊ป ปี 2021-2023 ลงทุนชิปเซมิคอนดักเตอร์ ผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19

3 ปีจากนี้ ซัมซุงกรุ๊ป ลงทุนอะไร? นอกจากเซมิคอนดักเตอร์

อัปเดตล่าสุด 2 ก.ย. 2564
  • Share :
  • 865 Reads   

เมื่อทั่วโลกต่างต้องการชิปเซมิคอนดักเตอร์และวัคซีนโควิด-19 จนเกิดเป็นภาวะขาดแคลน สองปัจจัยนี้ได้ถูกหยิยยกให้เป็นโจทย์สำคัญในแผนการลงทุนของซัมซุงกรุ๊ป (Samsung Group) ในอีก 3 ปีข้างหน้า

 

Advertisement

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2021 ซัมซุงกรุ๊ป ประกาศลงทุน 240 ล้านล้านวอน หรือ ราว 2.05 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับปี 2021-2023 ในอุตสาหกรรมการผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ (Semiconductor), ชิปหน่วยความจำ (Memory Unit), และผลิตภัณฑ์ยา ไปจนถึงการมองหาโอกาสใหม่ ๆ ในธุรกิจหุ่นยนต์ และโทรคมนาคม

ซัมซุงกรุ๊ป เปิดเผยว่า ในฐานะที่ “ซัมซุง” เป็นหนึ่งในผู้นำด้านชิปหน่วยความจำ แผนการลงทุนในครั้งนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาวิกฤตชิปขาดตลาด นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ยังได้บรรลุข้อตกลงด้านวัคซีนโควิด-19 อีกด้วย

แผนการลงทุนของซัมซุงกรุ๊ปในปี 2021-2023 มีมูลค่ารวมสูงกว่าครั้งก่อน (ปี 2018-2020) มากถึง 30% เนื่องจากปัญหาชิปขาดตลาดที่มีความรุนแรง และส่งผลต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้โดยตรง อีกทั้งหากเสียส่วนแบ่งในตลาดไปแล้ว การกลับขึ้นมาครองตำแหน่งผู้นำอันดับต้น ๆ อีกครั้งจะเป็นเรื่องยาก จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในธุรกิจนี้อย่างตอเนื่อง

โดยทางบริษัทฯ รายงานว่า การลงทุนครั้งนี้เป็นการลงทุนในวาระสำคัญระดับชาติ เม็ดเงินลงทุน 75% จะถูกใช้ลงทุนภายในประเทศเกาหลีใต้ 

สำนักข่าว Korea Times ได้อ้างอิงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์การเมืองว่า การตัดสินใจของซัมซุงกรุ๊ปในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการปล่อยตัวนายลี แจยอง รองประธานซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ ออกจากเรือนจำภายใต้เงื่อนไขทัณฑ์บนเพียงไม่กี่วัน ซึ่งในฐานะที่ซัมซุงมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้เป็นอย่างมาก ทำให้การตัดสินใจในครั้งนี้อาจมีมิติทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ซัมซุงกรุ๊ป แสดงความเห็นว่า เซมิคอนดักเตอร์เป็นหัวใจสำคัญของหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI), เครือข่าย 5G, เครือข่าย 6G, และโซลูชันต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

“เนื่องจากชิปเป็นตัวแทนของการพึ่งพากันและกันระหว่างประเทศ การแข่งขันในอุตสาหกรรมชิปจึงทวีความรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ การแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ยังทำให้วัคซีนมีความสำคัญกว่าที่แล้วมา ดังนั้นธุรกิจยาจึงกลายเป็นส่วนงานที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของบริษัทด้วย" 

 

ซัมซุงกรุ๊ป ตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยา ในฐานะ CDMO หรือ ผู้พัฒนาและรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์ (Contract Development and Manufacturing Organization) ภายในปี 2023 และตั้งเป้าส่วนเบ่งในตลาดโลกของเซกเมนต์ CDMO ไว้ที่ 30%

ซัมซุงไบโอโลจิกส์ (Samsung Biologics) แสดงความเห็นว่า ธรรมชาติของธุรกิจ CDMO คือขีดความสามารถในการส่งมอบอย่างตรงต่อเวลา, ราคาที่ถูกกว่า, และกำลังการผลิตที่สูงกว่า ซึ่งซัมซุงไบโอโลจิกส์จะเริ่มผลิตวัคซีนโมเดอร์นาตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม 2021 เป็นต้นไป


#ซัมซุง #ซัมซุงกรุ๊ป #Samsung #Samsung Group #Electronics #Semiconductor #ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ #ชิปเซมิคอนดักเตอร์ #ชิปขาดตลาด #วิกฤตชิปขาดตลาด #ขาดแคลนชิป เซ มิ คอนดักเตอร์ #Samsung Electronics #Samsung Biologics #เกาหลีใต้ #เศรษฐกิจ เกาหลีใต้ #อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ #อุตสาหกรรมยา #วัคซีนโมเดอร์นา #วัคซีนโควิด-19 #CDMO #อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์  #วงในอุตสาหกรรม #ข่าวอุตสาหกรรม #Mreport #M Report #mreportth

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH