TOYOTA เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 30 รุ่น ตั้งเป้ายอดขาย 3.5 ล้านคัน พร้อมบทสัมภาษณ์ประธานบริษัท
โตโยต้า (Toyota) ประกาศเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 30 รุ่นใหม่ ตั้งเป้ายอดขาย 3.5 ล้านคัน ภายในปี 2030 สร้างเสียงฮือฮาให้กับภาคอุตสาหกรรมและซัพพลายเออร์
Advertisement | |
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2021 ในงานแถลงข่าวเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 30 รุ่นใหม่ นายอากิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัทโตโยต้า ได้ให้สัมภาษณ์เจาะลึกแผนรุกตลาดรถอีวี พร้อมยกระดับการลงทุนเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าไปจนถึงปี 2030
- “รถยนต์ไฟฟ้า” ปรากฏการณ์สงครามเย็นของการลงทุนโลก ไมล์สโตนแรกปี 2030
- อียูเร่งเครื่อง ลดคาร์บอน ร่นเวลาแบนน้ำมัน ดันอีวี 100% ปี 2035
โตโยต้าปรับยอดรับตลาด เชื่อมั่นเห็นผลชัดเจนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
นายอากิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัทโตโยต้า แสดงความเห็นในงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2021 ว่า ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ประเภทไหน หรือรถยนต์ไฟฟ้ารูปแบบใด บริษัทก็อยากส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ผู้ขับขี่ พร้อมประกาศยกระดับการลงทุนเทคโนโลยีรถไฟฟ้าไปจนถึงปี 2030
ซึ่งหนึ่งในจุดที่อุตสาหกรรมยานยนต์ให้ความสนใจคือการเปลี่ยนแปลงของแบรนด์เลกซัส ซึ่งจากเดิมเป้นแบรนด์พรีเมียม ให้กลายเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจะเปิดตัวรถอีวีให้ครบทุกเซกเมนต์ และตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในตลาดอเมริกาเหนือ ยุโรป และจีน ภายในปี 2030 ก่อนยกระดับเป็น 100% ทั่วโลกในปี 2035
นายโคจิ ซาโตะ ผู้บริหารบริษัทโตโยต้า และประธาน และหัวหน้าทีมภาพลักษณ์แบรนด์ เลกซัส เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ผู้บริโภคมีความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าหรูเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งแม้ว่าจะมีสัดส่วนต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค แต่ทางบริษัทก็ต้องการตอบรับให้ดีที่สุด
โดยก่อนหน้านี้โตโยต้าได้ตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าไว้ที่ 2 ล้านคันในปี 2030 อย่างไรก็ตาม นายอากิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัทโตโยต้าเปิดเผยว่า สาเหตุที่บริษัทปรับตัวเลขเป้าหมายยอดขายขึ้นนี้ เกิดจากการที่รัฐบาลหลาย ๆ ประเทศได้มีการปรับมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานใหม่ ซึ่งแนวทางของหลายประเทศ ทำให้โตโยต้าเล็งเห็นว่าตัวเลข 3.5 ล้านคันมีความเป็นไปได้จริง
อีกสาเหตุหนึ่ง คือหลายประเทศเริ่มมีแนวทางผลักดันรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ซึ่งโตโยต้าเชื่อมั่นว่าจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดเจนในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
สำหรับ Toyota bZ4X ซึ่งมีกำหนดออกสู่ตลาดภายช่วงกลางปี 2022 นั้น ทางบริษัทเปิดเผยว่าจะใช้ Motomachi Plant เป็นฐานการผลิต และอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมสายการผลิตในขณะนี้ อีกทั้งโตโยต้ายังเล็งเห็นว่าหากต้องการขายรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ตามเป้าแล้ว สถานีชาร์จก็มีความจำเป็นไม่แพ้กัน จึงมีแผนจะเริ่มติดตั้งสถานีชาร์จไฟแบบเร็วทั่วประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ โตโยต้ายังประกาศยกเป้าหมายการผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้า จากเดิม 200 GWh ในปี 2030 ขึ้นเป็น 280 GWh ด้วยเงินลงทุน 2ล้านล้านเยน หรือราว 17,518 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อลดราคาแบตเตอรี่ให้ต่ำลงไปกว่าแผนเดิมที่วางไว้
นายมาซาฮิโกะ มาเอดะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของโตโยต้า เปิดเผยว่าในอนาคต โตโยต้าจะเน้นไปที่การผลิตแบตเตอรี่ร่วมกับผู้ผลิตในท้องที่มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ได้แบตเตอรี่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ในตลาดเป้าหมาย
ส่วนนายอากิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัทเปิดเผยว่า โตโยต้ามีแผนพัฒนาแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับท็อปคลาสของอุตสาหกรรมยานยนต์ภายในปี 2030 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยานยนต์ขนาดเล็ก ซึ่งมีอุปสรรคหลักคือพื้นที่ติดตั้งแบตเตอรี่จำกัด
ยอมรับ ซัพพลายเออร์กระทบแน่ แต่โตโยต้าพร้อมร่วมมือ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้โตโยต้าจะมีไลน์อัพรถยนต์ไฮบริดที่หลากหลาย แต่ก็มีความเห็นจากภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ว่า “โตโยต้ายังไม่จริงจังเรื่องรถยนต์ไฟฟ้ามากพอ” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับค่ายรถอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมกลายเป็นสิ่งที่นานาชาติไม่อาจมองข้าม ความสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าจึงถูกยกระดับขึ้นไปอีก และโตโยต้าก็พร้อมจะตอบรับความเปลี่ยนแปลงนี้เช่นเดียวกัน โดยยกให้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในชิ้นส่วนสำคัญของบริษัท ซึ่งนายอากิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัทโตโยต้า แสดงความเห็นว่า ในการตอบรับความต้องการของตลาดที่อนาคตมีแต่จะหลากหลายยิ่งขึ้น บริษัทก็จำเป็นต้องมีโซลูชันมากขึน และแสดงความเชื่อมั่นว่าแนวทางของบริษัทที่ผ่านมาจะเชื่อมไปสู่การเอาตัวรอดในตลาดของโตโยต้าได้
อย่างไรก็ตาม นายอากิโอะยอมรับว่า การเพิ่มสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อซัพพลายเออร์เป็นอย่างมาก และอาจร้ายแรงถึงขั้นตัดสินความเป็นอยู่ของผู้ผลิตชิ้นส่วนได้ โดยเฉพาะผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
ด้วยเหตุนี้เอง โตโยต้าจึงมีแผนกระชับความร่วมมือกับซัพพลายเออร์มากยิ่งขึ้น และได้กล่าวในงานแถลงข่าวว่าไม่ต้องการให้ซัพพลายเออร์รู้สึกเหมือนถูกทิ้ง และแสดงความประสงค์ที่จะก้าวเข้าสู่อนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไปพร้อมกัน
บทสัมภาษณ์ นายอากิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัทโตโยต้า และผู้เกี่ยวข้อง
นายอากิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัทโตโยต้าขณะให้สัมภาษณ์
ที่ผ่านมาโตโยต้าโฟกัสรถไฮบริดเป็นหลัก หลังจากนี้จะโฟกัสรถยนต์ไฟฟ้าแทนรถไฮบริดหรือไม่?
นายอากิโอะ โตโยดะ “ไม่อยากให้ใช้คำว่าโตโยต้าเปลี่ยนโฟกัส แต่อยากให้เรียกว่าปรับตัวตามแนวโน้มตลาดเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันมากกว่า และเราคิดว่ารถยนต์ไฟฟ้าคือทางเลือกที่ดีที่สุด ถึงอย่างนั้น เราก็จะพยายามตอบรับความต้องการของลูกค้าด้วยตัวเลือกต่าง ๆ ให้มากที่สุดเช่นเดียวกัน เหมือนอย่างที่ก่อนหน้านี้เรามีไลน์อัพยานยนต์ครบทุกเซกเมนต์”
การประกาศตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 3.5 ล้านคันจะสร้างผลกระทบอย่างไร?
นายอากิโอะ โตโยดะ “ในวันนี้เราเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกสู่ตลาดไปหลายรุ่น ซึ่งการประกาศเปิดตัวรถยนต์หลายรุ่นเช่นนี้ย่อมสร้างผลกระทบให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วนว่าควรจะวางแผนการผลิตอย่างไร นอกจากนี้ การตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมาก ก็อาจทำให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ซึ่งในกรณีร้ายแรงอาจหมายถึงความอยู่รอดของบริษัท แต่เราไม่อยากให้อุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคตเกิดเรื่องเช่นนี้”
แผนลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตอย่างไรบ้าง?
นายมาซาฮิโกะ มาเอดะ “เราเพิ่มเงินลงทุนพัฒนาแบตเตอรี่ขึ้นจากเดิม 2 ล้านล้านเยน หรือราว 17,518 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเงินพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าอีกที่ 2 ล้านล้านเยนเช่นเดียวกัน ซึ่งเมื่อรวมกับเงินลงทุนอื่น ๆ เช่น รถไฮบริดแล้ว เรามีแผนลงทุนเพิ่มขึ้นถึง 8 ล้านล้านเยน หรือราว 70,075 ล้านเยนภายในปี 2030 นอกจากนี้เรายังมีความพร้อมด้านวัตถุดิบสำหรับผลิตแบตเตอรี่ไปจนถึงปี 2030 แล้ว”
คิดว่ารถยนต์ไฟฟ้าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร?
นายโคจิ ซาโตะ “ผมมีความเห็นว่าไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้า แต่รถยนต์ทุกชนิดต้องตอบโจทย์ผู้ใช้ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ใช้รถหรูจะมีความต้องการเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง ซึ่งหากเป็นสรรถนะที่มอเตอร์ไฟฟ้ายังไม่อาจทำได้ในปัจจุบัน ก็อาจนำมาซึ่งการพัฒนาเคโนโลยีเพื่อให้ทำได้จริงจึงจะสามารถตอบโจทย์ตลาดได้ ซึ่งสำหรับเราแล้ว การเปลี่ยนแบรนด์เลกซัสเป็นรถอีวีก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากเช่นเดียวกัน”
การเข้าสู่ตลาดอย่างเต็มรูปแบบ
กล่าวได้ว่า ปี 2021 นี้ เป็นปีที่ผู้ผลิตยานยนต์หลายค่ายจำต้องปรับตัวอย่างยิ่ง เช่น นิสสัน และ Volkswagen ที่ตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 50% ในปี 2030, ฮอนด้าที่ตั้งเป้ารถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่ปี 2040, General Motors ที่จะเลิกใช้เครื่องยนต์สันดาปในปี 2035,
ในทางกลับกัน เมื่อเดือนพฤษภาคม โตโยต้ายังตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์เซลล์พลังงานเชื้อเพลิงไว้ที่ 2 ล้านคันในปี 2030 ซึ่งแม้จะเป็นตัวเลขที่เยอะและเป็นไปได้ยาก แต่ผู้เกี่ยวข้อในอุตสาหกรรมยานยนต์หลายรายแสดงความเห็นว่า “ยังเยอะไม่พอ” เมื่อเทียบกับสัดส่วนยอดขายของโตโยต้าทั้งหมด
เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมากหากพิจารณาจากจุดยืนของโตโยต้าที่เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดยานยนต์ เนื่องจากเมื่อเทียบกับเทสล่าที่เป็นผู้นำตลาดอีวีในปัจจุบันแล้วพบว่าเป็นกรอบเวลาที่สั้นกว่ามาก
ด้วยเหตุนี้เอง นายอากิโอะจึงแสดงความเห็นว่า ตัวเลจ 3.5 ล้านคันนี้เป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายของค่ายยุโรปอย่าง Daimler AG แล้ว จึงอยากให้ภาคอุตสาหกรรมยอมรับว่า การตั้งเป้ารถยนต์ไฟฟ้า 30 รุ่น รวม 3.5 ล้านคันในครั้งนี้คือการประกาศเข้าสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้าของโตโยต้าอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ในงานแถลงข่าวยังมีคำถามต่อนายอากิโอะผู้เป็นประธานว่า “ชอบรถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่” ซึ่งนายอากิโอะ ได้ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ตนไม่สนใจรถยนต์ไฟฟ้าจริง ๆ แต่ตอนนี้ได้ให้ความสนใจแล้ว และเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าหลังจากนี้โตโยต้าจะสามารถแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าได้ไม่น้อยหน้าค่ายรถอื่น ๆ
#รถยนต์ไฟฟ้า #EV #Electric Vehicle #โตโยต้า #รถอีวี #ลงทุน #อุตสาหกรรมยานยนต์ #เอ็ม รีพอร์ต #M Report #mreportth #Mreport #วงในอุตสาหกรรม #ข่าวอุตสาหกรรม
บทความยอดนิยม 10 อันดับ
- เทคโนโลยีแห่ง G สู่ 5G เครือข่ายไร้สาย
- เทคโนโลยีสำหรับโลจิสติกส์ ทางเลือกสู่ทางรอด ปรับก่อนโดนเบียด
- ส่งออกไทย 2564 เดือน มิ.ย. ขยายตัว 43% สูงสุดรอบ 11 ปี อีกครั้ง
- นิยามใหม่ SME ใช้ “รายได้” เป็นตัวกำหนด
- ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ปี 2564
- กลยุทธ์การ PR และ Communication ในยุคดิจิทัล
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคืออะไร ตลาดจะก้าวไปในทางไหนในปี 2030?
- ปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน เจาะลึกตู้สินค้าหายไปไหน?
- สรุปยอดขายรถยนต์ 2564 ครึ่งปีแรก
- วิกฤตซัพพลายเชนโลก: ผลกระทบจากโควิด-19 ต่อธุรกิจ
อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th
Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH