รถยนต์ไฟฟ้า โตโยต้า

TOYOTA เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 30 รุ่น ตั้งเป้ายอดขาย 3.5 ล้านคัน พร้อมบทสัมภาษณ์ประธานบริษัท

อัปเดตล่าสุด 17 ธ.ค. 2564
  • Share :
  • 1,331 Reads   

โตโยต้า (Toyota) ประกาศเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 30 รุ่นใหม่ ตั้งเป้ายอดขาย 3.5 ล้านคัน ภายในปี 2030 สร้างเสียงฮือฮาให้กับภาคอุตสาหกรรมและซัพพลายเออร์

Advertisement

 
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2021 ในงานแถลงข่าวเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 30 รุ่นใหม่ นายอากิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัทโตโยต้า ได้ให้สัมภาษณ์เจาะลึกแผนรุกตลาดรถอีวี พร้อมยกระดับการลงทุนเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าไปจนถึงปี 2030
 

โตโยต้าปรับยอดรับตลาด เชื่อมั่นเห็นผลชัดเจนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้

 
 
นายอากิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัทโตโยต้า แสดงความเห็นในงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2021 ว่า ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ประเภทไหน หรือรถยนต์ไฟฟ้ารูปแบบใด บริษัทก็อยากส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ผู้ขับขี่ พร้อมประกาศยกระดับการลงทุนเทคโนโลยีรถไฟฟ้าไปจนถึงปี 2030
 
ซึ่งหนึ่งในจุดที่อุตสาหกรรมยานยนต์ให้ความสนใจคือการเปลี่ยนแปลงของแบรนด์เลกซัส ซึ่งจากเดิมเป้นแบรนด์พรีเมียม ให้กลายเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจะเปิดตัวรถอีวีให้ครบทุกเซกเมนต์ และตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในตลาดอเมริกาเหนือ ยุโรป และจีน ภายในปี 2030 ก่อนยกระดับเป็น 100% ทั่วโลกในปี 2035
 
นายโคจิ ซาโตะ  ผู้บริหารบริษัทโตโยต้า และประธาน และหัวหน้าทีมภาพลักษณ์แบรนด์ เลกซัส เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ผู้บริโภคมีความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าหรูเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งแม้ว่าจะมีสัดส่วนต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค แต่ทางบริษัทก็ต้องการตอบรับให้ดีที่สุด
โดยก่อนหน้านี้โตโยต้าได้ตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าไว้ที่ 2 ล้านคันในปี 2030 อย่างไรก็ตาม นายอากิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัทโตโยต้าเปิดเผยว่า สาเหตุที่บริษัทปรับตัวเลขเป้าหมายยอดขายขึ้นนี้ เกิดจากการที่รัฐบาลหลาย ๆ ประเทศได้มีการปรับมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานใหม่ ซึ่งแนวทางของหลายประเทศ ทำให้โตโยต้าเล็งเห็นว่าตัวเลข 3.5 ล้านคันมีความเป็นไปได้จริง 
 
อีกสาเหตุหนึ่ง คือหลายประเทศเริ่มมีแนวทางผลักดันรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ซึ่งโตโยต้าเชื่อมั่นว่าจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดเจนในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
 
สำหรับ Toyota bZ4X ซึ่งมีกำหนดออกสู่ตลาดภายช่วงกลางปี 2022 นั้น ทางบริษัทเปิดเผยว่าจะใช้ Motomachi Plant เป็นฐานการผลิต และอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมสายการผลิตในขณะนี้ อีกทั้งโตโยต้ายังเล็งเห็นว่าหากต้องการขายรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ตามเป้าแล้ว สถานีชาร์จก็มีความจำเป็นไม่แพ้กัน จึงมีแผนจะเริ่มติดตั้งสถานีชาร์จไฟแบบเร็วทั่วประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป
 
นอกจากนี้ โตโยต้ายังประกาศยกเป้าหมายการผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้า จากเดิม 200 GWh ในปี 2030 ขึ้นเป็น 280 GWh ด้วยเงินลงทุน 2ล้านล้านเยน หรือราว 17,518 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อลดราคาแบตเตอรี่ให้ต่ำลงไปกว่าแผนเดิมที่วางไว้ 
 
นายมาซาฮิโกะ มาเอดะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของโตโยต้า เปิดเผยว่าในอนาคต โตโยต้าจะเน้นไปที่การผลิตแบตเตอรี่ร่วมกับผู้ผลิตในท้องที่มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ได้แบตเตอรี่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ในตลาดเป้าหมาย 
 
ส่วนนายอากิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัทเปิดเผยว่า โตโยต้ามีแผนพัฒนาแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับท็อปคลาสของอุตสาหกรรมยานยนต์ภายในปี 2030 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยานยนต์ขนาดเล็ก ซึ่งมีอุปสรรคหลักคือพื้นที่ติดตั้งแบตเตอรี่จำกัด
 
 

ยอมรับ ซัพพลายเออร์กระทบแน่ แต่โตโยต้าพร้อมร่วมมือ

 
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้โตโยต้าจะมีไลน์อัพรถยนต์ไฮบริดที่หลากหลาย แต่ก็มีความเห็นจากภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ว่า “โตโยต้ายังไม่จริงจังเรื่องรถยนต์ไฟฟ้ามากพอ” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับค่ายรถอื่น ๆ 
 
อย่างไรก็ตาม เมื่อปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมกลายเป็นสิ่งที่นานาชาติไม่อาจมองข้าม ความสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าจึงถูกยกระดับขึ้นไปอีก และโตโยต้าก็พร้อมจะตอบรับความเปลี่ยนแปลงนี้เช่นเดียวกัน โดยยกให้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในชิ้นส่วนสำคัญของบริษัท ซึ่งนายอากิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัทโตโยต้า แสดงความเห็นว่า ในการตอบรับความต้องการของตลาดที่อนาคตมีแต่จะหลากหลายยิ่งขึ้น บริษัทก็จำเป็นต้องมีโซลูชันมากขึน และแสดงความเชื่อมั่นว่าแนวทางของบริษัทที่ผ่านมาจะเชื่อมไปสู่การเอาตัวรอดในตลาดของโตโยต้าได้
 
อย่างไรก็ตาม นายอากิโอะยอมรับว่า การเพิ่มสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อซัพพลายเออร์เป็นอย่างมาก และอาจร้ายแรงถึงขั้นตัดสินความเป็นอยู่ของผู้ผลิตชิ้นส่วนได้ โดยเฉพาะผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
 
ด้วยเหตุนี้เอง โตโยต้าจึงมีแผนกระชับความร่วมมือกับซัพพลายเออร์มากยิ่งขึ้น และได้กล่าวในงานแถลงข่าวว่าไม่ต้องการให้ซัพพลายเออร์รู้สึกเหมือนถูกทิ้ง และแสดงความประสงค์ที่จะก้าวเข้าสู่อนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไปพร้อมกัน
 
 

บทสัมภาษณ์ นายอากิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัทโตโยต้า และผู้เกี่ยวข้อง

 
นายอากิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัทโตโยต้าขณะให้สัมภาษณ์
 
ที่ผ่านมาโตโยต้าโฟกัสรถไฮบริดเป็นหลัก หลังจากนี้จะโฟกัสรถยนต์ไฟฟ้าแทนรถไฮบริดหรือไม่?
 
นายอากิโอะ โตโยดะ “ไม่อยากให้ใช้คำว่าโตโยต้าเปลี่ยนโฟกัส แต่อยากให้เรียกว่าปรับตัวตามแนวโน้มตลาดเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันมากกว่า และเราคิดว่ารถยนต์ไฟฟ้าคือทางเลือกที่ดีที่สุด ถึงอย่างนั้น เราก็จะพยายามตอบรับความต้องการของลูกค้าด้วยตัวเลือกต่าง ๆ ให้มากที่สุดเช่นเดียวกัน เหมือนอย่างที่ก่อนหน้านี้เรามีไลน์อัพยานยนต์ครบทุกเซกเมนต์”
 
การประกาศตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 3.5 ล้านคันจะสร้างผลกระทบอย่างไร?
 
นายอากิโอะ โตโยดะ “ในวันนี้เราเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกสู่ตลาดไปหลายรุ่น ซึ่งการประกาศเปิดตัวรถยนต์หลายรุ่นเช่นนี้ย่อมสร้างผลกระทบให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วนว่าควรจะวางแผนการผลิตอย่างไร นอกจากนี้ การตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมาก ก็อาจทำให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ซึ่งในกรณีร้ายแรงอาจหมายถึงความอยู่รอดของบริษัท แต่เราไม่อยากให้อุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคตเกิดเรื่องเช่นนี้”
 
แผนลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตอย่างไรบ้าง?
 
นายมาซาฮิโกะ มาเอดะ “เราเพิ่มเงินลงทุนพัฒนาแบตเตอรี่ขึ้นจากเดิม 2 ล้านล้านเยน หรือราว 17,518 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเงินพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าอีกที่ 2 ล้านล้านเยนเช่นเดียวกัน ซึ่งเมื่อรวมกับเงินลงทุนอื่น ๆ เช่น รถไฮบริดแล้ว เรามีแผนลงทุนเพิ่มขึ้นถึง 8 ล้านล้านเยน หรือราว 70,075 ล้านเยนภายในปี 2030 นอกจากนี้เรายังมีความพร้อมด้านวัตถุดิบสำหรับผลิตแบตเตอรี่ไปจนถึงปี 2030 แล้ว”
 
คิดว่ารถยนต์ไฟฟ้าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร?
 
นายโคจิ ซาโตะ “ผมมีความเห็นว่าไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้า แต่รถยนต์ทุกชนิดต้องตอบโจทย์ผู้ใช้ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ใช้รถหรูจะมีความต้องการเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง ซึ่งหากเป็นสรรถนะที่มอเตอร์ไฟฟ้ายังไม่อาจทำได้ในปัจจุบัน ก็อาจนำมาซึ่งการพัฒนาเคโนโลยีเพื่อให้ทำได้จริงจึงจะสามารถตอบโจทย์ตลาดได้ ซึ่งสำหรับเราแล้ว การเปลี่ยนแบรนด์เลกซัสเป็นรถอีวีก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากเช่นเดียวกัน”
 

การเข้าสู่ตลาดอย่างเต็มรูปแบบ

กล่าวได้ว่า ปี 2021 นี้ เป็นปีที่ผู้ผลิตยานยนต์หลายค่ายจำต้องปรับตัวอย่างยิ่ง เช่น นิสสัน และ Volkswagen ที่ตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 50% ในปี 2030, ฮอนด้าที่ตั้งเป้ารถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่ปี 2040, General Motors ที่จะเลิกใช้เครื่องยนต์สันดาปในปี 2035, 
 
ในทางกลับกัน เมื่อเดือนพฤษภาคม โตโยต้ายังตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์เซลล์พลังงานเชื้อเพลิงไว้ที่ 2 ล้านคันในปี 2030 ซึ่งแม้จะเป็นตัวเลขที่เยอะและเป็นไปได้ยาก แต่ผู้เกี่ยวข้อในอุตสาหกรรมยานยนต์หลายรายแสดงความเห็นว่า “ยังเยอะไม่พอ” เมื่อเทียบกับสัดส่วนยอดขายของโตโยต้าทั้งหมด
 
เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมากหากพิจารณาจากจุดยืนของโตโยต้าที่เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดยานยนต์ เนื่องจากเมื่อเทียบกับเทสล่าที่เป็นผู้นำตลาดอีวีในปัจจุบันแล้วพบว่าเป็นกรอบเวลาที่สั้นกว่ามาก
 
ด้วยเหตุนี้เอง นายอากิโอะจึงแสดงความเห็นว่า ตัวเลจ 3.5 ล้านคันนี้เป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายของค่ายยุโรปอย่าง Daimler AG แล้ว จึงอยากให้ภาคอุตสาหกรรมยอมรับว่า การตั้งเป้ารถยนต์ไฟฟ้า 30 รุ่น รวม 3.5 ล้านคันในครั้งนี้คือการประกาศเข้าสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้าของโตโยต้าอย่างแท้จริง
 
นอกจากนี้ ในงานแถลงข่าวยังมีคำถามต่อนายอากิโอะผู้เป็นประธานว่า “ชอบรถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่” ซึ่งนายอากิโอะ ได้ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ตนไม่สนใจรถยนต์ไฟฟ้าจริง ๆ แต่ตอนนี้ได้ให้ความสนใจแล้ว และเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าหลังจากนี้โตโยต้าจะสามารถแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าได้ไม่น้อยหน้าค่ายรถอื่น ๆ 
 
 

#รถยนต์ไฟฟ้า #EV #Electric Vehicle #โตโยต้า  #รถอีวี #ลงทุน  #อุตสาหกรรมยานยนต์ #เอ็ม รีพอร์ต #M Report #mreportth #Mreport #วงในอุตสาหกรรม #ข่าวอุตสาหกรรม

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH