Toyota all new prius hybrid

Toyota คิดอะไร? เมื่อ Prius ใหม่ยังมีโมเดลไฮบริด

อัปเดตล่าสุด 22 พ.ย. 2565
  • Share :

โตโยต้า เปิดตัว Prius รุ่นใหม่  2 โมเดล และหนึ่งในนั้นคือโมเดลไฮบริด ซึ่งสวนทางกับกระแสอีวีโลกที่นานาประเทศมีแผนยุติการขายรถไฮบริดเพราะนับเป็นรถใช้น้ำมัน

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2022 โตโยต้า (Toyota) ได้เปิดตัว Prius รุ่นใหม่ 2 โมเดล คือ ไฮบริด (Hybrid) และ ปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle: PHEV) อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวโมเดลไฮบริดในช่วงเวลาที่ทั่วโลกกำลังเข้าสู่ยุคอีวี อีกทั้งหลายประเทศยังมีแผนแบนรถไฮบริดในฐานะ ‘รถน้ำมัน’ ทำให้เกิดคำถามว่า โตโยต้าคิดอะไร

Advertisement

นาย Simon Humphries ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายออกแบบ ศูนย์พัฒนายานยนต์โตโยต้า กล่าวในงานเปิดตัว Prius รุ่นล่าสุดว่า รถ Eco Car ที่ทุกคนเข้าถึงได้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคของความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และในระหว่างนี้ รถไฮบริดจะมีบทบาทในการช่วยลดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) หรือรถยนต์เซลล์พลังงานเชื้อเพลิง (FCV) ที่ต้องอาศัยเวลา 

อย่างไรก็ตาม แม้รถอีวีจะเป็นตัวแทนของการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่รถอีวีในปัจจุบันยังคงมีราคาสูงและเข้าถึงได้ยาก ซึ่งนาย Satoki Oya ผู้รับผิดชอบโครงการพัฒนา Prius แสดงความเห็นว่า “บทบาทของ Prius คือ การสร้างตัวเลือกให้กับลูกค้า”

ทำไมโตโยต้าจึงให้ความสำคัญกับ Prius

เมื่อปี 1997 โตโยต้าเปิดตัว Prius ภายใต้ความต้องการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากร จึงออกแบบให้รถรุ่นนี้ประหยัดเชื้อเพลิง และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่ายานยนต์ทั่วไป ซึ่งทางบริษัทวางราคาขายรถรุ่นนี้ในราคาต่ำกว่าต้นทุน และได้รับยอดสั่งซื้อสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เป็นอย่างมาก

Toyota all new prius hybrid

Prius โมเดลแรก ปี 1997

โตโยต้ายกให้ Prius เป็นยานยนต์ที่มีความสำคัญต่อบริษัทเป็นอย่างยิ่ง โดยเปรียบเปรยการพัฒนา Prius ได้สะท้อนถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาระบบไฮบริด อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันรถไฮบริดแพร่หลายมากขึ้น รถยนต์ที่สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่าก็มีอยู่อีกมาก ซึ่งนาย Satoki Oya ยอมรับว่า ยานยนต์รุ่นนี้ไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้ดีเท่าแต่ก่อน และในช่วงการพัฒนา Prius จึงได้พิจารณาระบบปลั๊กอินไฮบริดเพิ่มเติมด้วย

นาย Simon Humphries เสริมว่า ความเป็นรถไฮบริดอาจไม่สามารถดึงดูดลูกค้าได้ดีมากพอ ด้วยเหตุนี้เอง บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการสร้างจุดเด่นใหม่ด้วยการออกแบบและสมรรถนะในการขับขี่ 

อย่างไรก็ตาม ในยุคของรถอีวี จุดขายเหล่านี้จะเพียงพอหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องติดตามต่อไป

มาตรการในหลายประเทศ กระตุ้น ‘อีวี’ โตก้าวกระโดด

นับตั้งแต่ปี 1997 จนถึงปัจจุบันเวลาก็ผ่านมาแล้วถึง 25 ปี การขาดแคลนพลังงาน ทรัพยากร และปัญหาสิ่งแวดล้อม ทำให้ระบบส่งกำลังยานยนต์มาถึงจุดเปลี่ยน เป็นขาขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งผลสำรวจจากสำนักวิเคราะห์ Fuji Keizai ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดขายรถไฮบริดทั่วโลกอยู่ที่ 3.87 ล้านคันในปี 2021 ที่ผ่านมา  และคาดว่าจะเติบโต 3.9 เท่า เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 15 ล้านคันในปี 2035

ในทางกลับกัน ยอดขายรถอีวีทั่วโลกปิดที่ 4.69 ล้านคันในปี 2021 และคาดการณ์ว่าจะเติบโตมากถึง 12 เท่า โดยทำยอดขายมากถึง 56 ล้านคันในปี 2035

ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นว่า รถไฮบริด จะมีการเติบโตต่ำกว่ารถอีวีเป็นอย่างมาก 

Toyota all new prius hybrid

สาเหตุที่คาดการณ์ว่ารถไฮบริดจะเติบโตช้ากว่ารถอีวีเป็นผลจากการเลิกขายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันในหลายประเทศ เช่น ข้อตกลงการยุติการจำหน่ายรถยนต์ใช้น้ำมันในปี 2035 ของสหภาพยุโรป ซึ่งมีความเข้มงวดในการบังคับใช้ และมีแนวโน้มว่ารถไฮบริดจะต้องยุติการขายด้วย การแบนรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในของรัฐแคลิฟอร์เนียและนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ซึ่งนิยามให้รถไฮบริดเป็นรถใช้น้ำมัน ไปจนถึงประเทศแถบยุโรปเหนือ เช่น นอร์เวย์ ซึ่งมีการออกมาตรการผลักดันรถอีวีอย่างกะทันหัน และอาจสั่งยุติการขายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันภายในปี 2025 แม้กระทั่งในจีน ก็มีการออกมาตรการเพื่อบังคับให้ค่ายรถผลิตอีวี, FCV, และ PHV มากขึ้นตั้งแต่ปี 2019

ซึ่งแนวโน้มที่ชัดเจนในปัจจุบัน คือ มาตรการในหลายประเทศระบุให้รถไฮบริดไม่ใช่รถยนต์ไฟฟ้า แต่รถปลั๊กอินไฮบริดเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งฝ่ายบริหารของโตโยต้าคาดการณ์ว่าแนวโน้มนี้น่าจะเปลี่ยนแปลงได้ยาก อีกทั้งรถปลั๊กอินไฮบริดยังมียอดขายที่โดดเด่นในตลาดจีน โตโยต้าจึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถคาดหวังยอดขายกับรถปลั๊กอินไฮบริดได้

 

ที่มา: Nikkan Kogyo Shimbun

 

#Toyota #Prius #รถอีวี #รถยนต์ไฮบริด #รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด #โตโยต้า #hybrid electric vehicle #plug-in hybrid electric vehicle #Automotive #Carbon Neutrality #Mreport #mreportth #ข่าวอุตสาหกรรม #onlinecontent

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH